วันนี้(23 ม.ค.) ร.ต.อ.วัลลภ จำเนียรสวัสดิ์ พงส. (สบ 1) สน.บางนา รับแจ้งคนร้ายใช้จยย.เป็นพาหนะก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์หญิงสาว แต่รถล้มคว่ำระหว่างหลบหนี จึงจี้ชิงรถจยย.จากพลเมืองดีหลบหนีไป เหตุเกิดบริเวณท้ายซอยทดน้ำ ถนนสรรพาวุธ แขวงและเขตบางนา จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางนา
ที่เกิดเหตุพบ น.ส.โสมอุษา วุฒิปรานี อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ วิทยาลัยอรรถวิทย์พาณิชย์การ ยืนรอเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตื่นตระหนกตกใจ เบื้องต้นเจ้าตัวให้การว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังเดินไปทำงานตามปกติ เมื่อมาถึงสะพานลอยคนข้าม เพื่อจะข้ามฝั่งไปที่วิทยาลัยอรรถวิทย์ ได้มีคนร้ายเป็นชายสองคน ขับขี่ จยย.แบบผู้ชาย ซูซูกิ สีแดง ทะเบียน กยย-904 กทม. คนขับสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสก็อตสีแดง นุ่งกางเกงยีนส์ ส่วนคนซ้อนสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ โฉบมากระชากกระเป๋าสะพายหนังสีน้ำตาลของตน ซึ่งภายในมีเงินสด 1,500 บาท โทรศัพท์มือถือและเอกสารสำคัญจำนวนหนึ่ง ก่อนขี่หลบหนีมุ่งหน้าไปทางท่าน้ำสรรพาวุธ
น.ส.โสมอุษา ให้การต่อว่า หลังจากนั้นตนก็รีบวิ่งไปขอความช่วยเหลือ จากนายสมชาย แย้มเจริญ อายุ 48 ปี จยย.รับจ้างวินหน้าปากซอยเจริญ ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ เพื่อให้ตามหารถคนร้าย จนกระทั่งขับมาเจอคนร้ายที่บริเวณหน้าศาลแขวงพระโขนง แต่คนร้ายทั้งสองคนไหวตัวรีบเร่งเครื่องหนีเข้าไปในซอยทดน้ำ ซึ่งเป็นซอยตัน เมื่อตนตามมาจวนเจียนจะทันแล้วนั้น รถจยย.ของคนร้ายได้เกิดล้มคว่ำ คนซ้อนท้ายจึงวิ่งหนีไปทางท้ายซอย ก่อนกระโดดน้ำหนีไปได้ ตนจึงพยายามจะเดินไปหยิบกระเป๋า แต่ก็ถูกคนร้ายที่เป็นคนขี่ชักปืนสีบรอนซ์เงินขึ้นมาขู่ตน ทำให้นายสมชายวินจยย.ทิ้งรถไปหาที่กำบัง คนร้ายจึงอาศัยจังหวะนั้นเอง รีบวิ่งไปคว้ารถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 690-กทม. ส่วนหมวดอักษรนั้นจำไม่ได้ นายสมชาย ขับหนีไปทางปากซอย พร้อมกับกระเป๋าสะพายของตน
หลังรับแจ้งความ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งวิทยุเพื่อสกัดจับคนร้ายก็ยังไรวี่แวว แต่ไม่พบวี่แววคนร้ายแต่อย่างใด จึงทำการตรวจสอบรถจยย.ของคนร้ายที่ล้มคว่ำอยู่ ก็พบว่ามีสติ๊กเกอร์ของมูลนิธิกู้ภัยแห่งหนึ่ง ติดอยู่รอบคัน นอกจากนี้ยังพบตั๋วจำนำของนายเอกพงศ์ เจริญธรรม อายุ 24 ปี วางพับอยู่ใต้เบาะ เจ้าหน้าที่จึงเตรียม เชิญตัวมาสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้หรือไม่ต่อไป ขณะเดียวกันก็มีพยานแวดล้อม ซึ่งเป็นพระภิกษุที่กำลังบิณฑบาตรอยู่ใกล้เคียงจุดคนร้ายทิ้งรถไว้นั้นแจ้งว่า คนร้ายทั้งสองคนนั้นพกวิทยุสื่อสารด้วย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า คนร้ายอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับมูลนิธิกู้ภัยหรืออาจเป็นตำรวจอาสาที่ชอบพกวิทยุสื่อสารก่อเหตุเสียเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป.
http://www.dailynews.co.th/crime/8941