คำชี้แจ้ง จากตัวแทนคณะกรรมการ วีอาร์ท่องเที่ยว ในการจัดอบรมที่ผ่านมา

[คิดถึงแฟนชาวบ้าน]

เรียน ผู้เข้าอบรมทุกๆ ท่าน

      ผมเป็นตัวแทนของคณะกรรมการวีอาร์ท่องเที่ยว จังหวัดอุบลราชธานี จากการจัดอบรมครั้งนี้ ทางคณะยอมรับกับข้อผิดพลาดหลายประการ เนื่องจากการเตรียมความพร้อมไม่ดีนัก และยังขาดความรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ของเจ้าหน้าที่หลายๆท่าน จากการสอบถามสมาชิก ทราบว่า คณะกรรมการบางคน รวมไปถึงรองประธาน ไม่เข้าร่วมในวันงาน แม้แต่ตัวผมเอง เนื่องจากติดภาระกิจทางครอบครัว ที่เป็นข้ออ้างส่วนตัวใช้กับส่วนรวมไม่ได้เลย ทำให้ผิดพลาดคิวงานหลายประการ ผมขอชี้แจ้งและทำความเข้าใจเป็นข้อๆดังนี้

1. บัตรประจำตัวผู้ผ่านการอบรม บางท่านว่า "ทำไมไม่ได้วันงานเลย?" ทางเราไม่สามารถออกให้ได้หากไม่เข้าร่วม "แล้วทำไมไม่ทำไว้รอ คนไม่เข้าก็ไม่ต้องให้?" จากเพื่อนสมาชิกส่งหลักฐานและข้อมูลไม่ครบเป็นจำนวนมาก และยังไม่ได้ลงชื่อในบัตรสมัครจริง จึงทำให้ไม่สามารถออกบัตรให้ได้ในวันนั้น

2. ทำไมเสื้อไม่ตรงรูปแบบที่วางไว้ ทางผมได้แจ้งและประชาสัมพันธ์แล้วครับ เรื่องมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งจากส่วนกลาง จึงไม่สามารถดำเนินการเหมือนเดิมได้ และ การปักชื่อหรือนามเรียกขานบนเสื้อ หากปักอาจมีข้อผิดพลาดหลายประการ ข้อแรกคือ หลายปักเยอะมาก, เสื้อผลิตล่าช้าขึ้น วันงานยังไม่เพียงพอ ข้อสอง ยากต่อการค้นหาหน้างาน เกิดความวุ่นวายขึ้น ข้อสาม ข้อมูลไม่ครบ

3. ทำไมผมไม่ได้เสื้อ?  จากการสั่งเสื้อที่จำนวนหลายร้อยตัว แต่การสมัครทยอยส่งเกือบจนวันสุดท้าย ทำให้ทางเราสรุปไม่ได้เลยว่า จำนวนเสื้อเท่าไร หากสั่งจำนวนน้อยทำให้ราคาเสื้อแพงมากขึ้น และทำไม คนที่สมัครก่อนไม่ได้เสื้อ? มันเกิดข้อผิดพลาดของทางเรา ที่เจ้าหน้าที่ทะเบียนแจกเสื้อไม่ตามคิวโดยไม่ฟังคำสั่งของผู้คุมงาน ทำให้เกิดข้อวิจารณ์เรื่องเสื้อที่มีจำนวนไม่พอต่อจำนวนผู้สั่งจองก่อนหน้านี้

4. การผิดพลาดของเสื้อโปโล สำหรับท่านที่สั่งจองไว้ก่อนหน้า ทางเราจะรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดส่งตามที่อยู่ในบัตรประจำตัวประชาชนภายใน 3 อาทิตย์

5. ส่วนเรื่องวิทยากร ก็อาจจะเป็นเรื่องแก้ตัวหรือไม่ แล้วแต่จะควรพิจารณาครับ เนื่องจาก ท่านสารวัตรตำรวจท่องเที่ยวติดประชุมด่วนที่ส่วนกลาง ตั้งแต่วันที่ 13-15 ม.ค. 2555 ทำให้เกิดความไม่พร้อมของวิทยากร ซึ่งทางเราก็ได้กำชับเรื่องหัวข้อบรรยายไว้แล้ว ส่วนวัตถุประสงค์ของโครงการพิธีกรได้กล่าวและแจ้งตั้งแต่ต้น พร้อม VRT ความเป็นมาและจุดประสงค์ของวีอาร์ท่องเที่ยวไว้แล้ว แต่ยังไม่ทั่วถึง เนื่องจากท่านผู้เข้าอบรมบางส่วนไม่เข้าพร้อมเพียงกัน

6. ผมใช้เครื่องดำได้ไหม แต่ยังไม่ได้สอบ? หลายท่านเข้าใจว่า เข้ามาแล้วใช้เครื่องดำได้เลย ชี้แจงว่าไม่ได้ครับ เพราะวัตถุประสงค์ชี้แจ้งไว้แล้วว่า เป้าหมายหลักคือนักวิทยุสมัครเล่น ส่วน ผู้สนใจ บุคคลทั่วไป หรือ ท่านที่มีจิตงานอาสาช่วยเหลือ ก็เข้าร่วมได้ คือความชัดเจนครับ ส่วนการประสานงาน ทางท่านประธานได้แจ้งไว้แล้วข้างต้นในห้องอบรมครับ

7. หาเงินเข้าองกรหรือไม่ ? จุดหลักๆของการจัดโครงการ เรื่องเงินมาเกี่ยวข้องทันที แต่การบริหารเงินมันมีจุดเสี่ยงคือ จะได้ หรือ ติดลบ สำหรับค่าสมัครเริ่ม 300 บาท ซึ่งน้อยมากสำหรับโครงการแต่ละตัวที่ผมจัดมา ซึ่งนำไปบริหาร ค่าสถานที่ ค่าเบรค สองเวลา ค่าอาหารกลางวัน และค่าดำเนินการต่างๆ ส่วน ค่าบัตร ค่าเสื้อ อื่นๆ ไม่ได้รวม หรือ บังคับให้ซื้อ เพียงแต่เป็นทางเลือกสำหรับผู้เข้าอบรม เราต้องเข้าใจกันครับ ส่วนยอดที่เหลือ หรืออาจจะไม่เหลือ ซึ่งจะนำไปพัฒนาระบบวิทยุสื่อสารของทางพนักงานเจ้าหน้าที่ อาจจะไม่เพียงพอต่อการพัฒนา เพราะวัตถุประสงค์หลักของวีอาร์ท่องเที่ยว ไม่ได้แสวงหาผลกำไล ไม่เกี่ยวข้องกับทางการเมืองใดๆ ตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว

      ผมในตัวแทนคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่บางส่วน ที่ไม่ได้เข้าร่วมในวันงาน ต้องกราบขออภัยในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น รวมไปถึงต้องขอโทษท่านประธานด้วย ที่เจ้าหน้าที่ขาดความรับผิดชอบในงานส่วนรวม

ขอบพระคุณอย่างสูงครับ

ข้อสงสัย/สอบถามเพิ่มเติม ติดต่องานประชาสัมพันธ์ 0-4532-3699 หรือสายตรงท่านประธาน 084-888-4886

[แฮมโคราชา]

ดีครับ ก็ชี้แจงกันไป
ระบบราชการ การดำเนินการเรื่องต่างๆต้องขึ้นตรงต่อผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงาน เมื่อผู้บริหารสูงสุดสั่งการลงมา ผู้ปฏิบัติก็ดำเนินการไปตามขั้นตอนตามระยะเวลา จะปฏิเสธหรือยกเลิกไม่ได้ ถ้าไม่มีเหตุสุดวิสัย แต่ต้องแจ้งผู้บังคับบัญชาก่อน

ขั้นตอนการปฏิบัติตามระบบราชการ ตัวอย่าง เช่น
ถ้าหน่วยงาน กลุ่มบุคคล หรือองค์กรใดต้องการติดต่อประสานงานในเรื่องต่างๆกับกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ก็ต้องติดต่อไปที่ พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว แจ้งเรื่องราว วัตถุประสงค์ ความต้องการต่างๆให้ท่านรับทราบ
เมื่อท่านทราบเรื่องก็จะสั่งการลงมาตามลำดับขั้นการบังคับบัญชา จนถึงหน่วยปฏิบัติ เมื่อหน่วยงานที่รับผิดชอบได้รับเรื่องก็จะนำเรื่องดังกล่าวมาดำเนินการต่อ ให้เป็นรูปเป็นร่าง มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ถูกต้องตามระเบียบราชการ เจ้าหน้าที่ทุกคนก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา งานต่างๆก็จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
ถ้าหน่วยปฏิบัติ ดำเนินการเองโดยที่ผู้บังคับบัญชาไม่รับทราบ โครงการนั้นก็จะไม่ได้รับการสนับสนุน เจ้าหน้าที่เองก็อาจจะต้องทำรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงต่อผู้บังคับบัญชาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย

ตัวอย่าง
(โปรดสังเกตุ : กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวใช้คำว่า "เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือตำรวจท่องเที่ยว และ คณะที่ปรึกษาของกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว" กับบุคลภายนอกที่มาช่วยงานของ บก.ทท.)