ใช้สาย RG6 เป็นสายนำสัญญาณวิทยุได้ไหมครับ

[7aaw]

ทำไมจึงนิยมใช้สาย Coaxial ทีมี impedance 50 โอห์ม ( Why 50 ohm coax )
สาย Coaxial ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2470 โดย นาย ซี เอส แฟรงกิล วิศวกรของ Marconi Company เพื่อใช้แทนสายไฟพันเกี่ยวเป็นเส้นคู่ ที่ใช้ส่งผ่านคลื่นวิทยุ ต่อมาก็ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อขายในเชิงพานิชย์โดยใช้สาร Polyethylene (PE) มาเป็นสาร dielectric ในราว พ.ศ. 2483 จากการทดลองในระยะต้น ๆ พบว่า สาย Coaxial ที่มี impedance ประมาณ 77 โอห์ม

ตาราง เปรียบเทียบระหว่าง impedance ต่าง ๆ กับ อัตราการสูญเสียในสาย dB/ เมตร

นั้นให้อัตราการสูญเสียในสาย ต่ำสุด และอาจจะเพราะว่าค่า impedance ใกล้เคียงกับ impedance ของสายอากาศ half wave dipole ทีมีค่า impedance เท่ากับ 73 โอห์ม ดังนั้นจึงผลิตแบบ 75 โอห์มขึ้นมา ได้รับความนิยมมากในช่วงแรก ต่อมามีการทดลองพบว่า ค่า impedance ประมาณ 30 โอห์ม สามารถรับกำลังไฟฟ้าได้สูงสุด


ดังนั้นเมื่อค่า 30 โอห์มก็มีข้อที่ทนกำลังได้สูง และค่า 70 ก็มีข้อดีที่การสูญเสียต่ำ (30 ohms (best power handling) and 77 ohms (lowest loss)) จึงใช้ค่า 50 โอห์ม เป็นค่ากลาง ๆ สำหรับวิทยุรับส่ง ส่วน 75 โอห์ม ที่เคยใช้อยู่ในมาตรฐานสำหรับเครื่องรับโทรทัศน์ นั้น ใช้กันแพร่หลายมากคงจะเปลี่ยนเป็นมาตรฐานเดียวกันไม่ใหว เลยยังใช้ 75 โอห์มต่อไป

จาก 108ham

[seeboy]

ผมลองทำกับเสากระบอง 1/2แลมด้าแล้วครับ รับชัดใส แต่ส่งไม่ค่อยดีเท่าที่ควร เลยเอา RG58 ทำเป็นตัวส่ง2.5เมตร แล้วต่อสาย RG6 5เมตรก็ใช้ใด้ครับ เอาไปให้เพื่อนวัดให้ ใด้1:2:1 8 ครับ ทั้งรับและส่งดีขึ้นมาก 21กิโล 16:5 ครับ

[temtemtem]

ทำไมจึงนิยมใช้สาย Coaxial ทีมี impedance 50 โอห์ม ( Why 50 ohm coax )
สาย Coaxial ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2470 โดย นาย ซี เอส แฟรงกิล วิศวกรของ Marconi Company เพื่อใช้แทนสายไฟพันเกี่ยวเป็นเส้นคู่ ที่ใช้ส่งผ่านคลื่นวิทยุ ต่อมาก็ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อขายในเชิงพานิชย์โดยใช้สาร Polyethylene (PE) มาเป็นสาร dielectric ในราว พ.ศ. 2483 จากการทดลองในระยะต้น ๆ พบว่า สาย Coaxial ที่มี impedance ประมาณ 77 โอห์ม

ตาราง เปรียบเทียบระหว่าง impedance ต่าง ๆ กับ อัตราการสูญเสียในสาย dB/ เมตร

นั้นให้อัตราการสูญเสียในสาย ต่ำสุด และอาจจะเพราะว่าค่า impedance ใกล้เคียงกับ impedance ของสายอากาศ half wave dipole ทีมีค่า impedance เท่ากับ 73 โอห์ม ดังนั้นจึงผลิตแบบ 75 โอห์มขึ้นมา ได้รับความนิยมมากในช่วงแรก ต่อมามีการทดลองพบว่า ค่า impedance ประมาณ 30 โอห์ม สามารถรับกำลังไฟฟ้าได้สูงสุด


ดังนั้นเมื่อค่า 30 โอห์มก็มีข้อที่ทนกำลังได้สูง และค่า 70 ก็มีข้อดีที่การสูญเสียต่ำ (30 ohms (best power handling) and 77 ohms (lowest loss)) จึงใช้ค่า 50 โอห์ม เป็นค่ากลาง ๆ สำหรับวิทยุรับส่ง ส่วน 75 โอห์ม ที่เคยใช้อยู่ในมาตรฐานสำหรับเครื่องรับโทรทัศน์ นั้น ใช้กันแพร่หลายมากคงจะเปลี่ยนเป็นมาตรฐานเดียวกันไม่ใหว เลยยังใช้ 75 โอห์มต่อไป

จาก 108ham

ขออธิบายอย่างคนไม่รู้นะครับ เพราะว่าผมเข้าใจอย่างนี้ถูกต้องไหม
ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า ค่า 70 โอห์มนี้นำสัญญานดีแต่ไม่ทนกำลังวัตต์คือทนกำลัววัตต์ได้ต่ำ แต่ค่า 30 โอห์มนำสัญญาณไม่ค่อยดีแต่ทนกำลังวัตต์ได้สูง จึงได้ทำสายที่มีค่า 50 โอห์ม ขึ้นมาให้มันอยู่กลางระหว่าง 30 กับ 70 โอห์มเพื่อที่จะได้นำสัญญาณได้ดีและทนกำลังวัตต์ได้สูงถูกต้องไหมครับ  ขอบคุณครับ

[birdte]

ทำไมจึงนิยมใช้สาย Coaxial ทีมี impedance 50 โอห์ม ( Why 50 ohm coax )
สาย Coaxial ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2470 โดย นาย ซี เอส แฟรงกิล วิศวกรของ Marconi Company เพื่อใช้แทนสายไฟพันเกี่ยวเป็นเส้นคู่ ที่ใช้ส่งผ่านคลื่นวิทยุ ต่อมาก็ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อขายในเชิงพานิชย์โดยใช้สาร Polyethylene (PE) มาเป็นสาร dielectric ในราว พ.ศ. 2483 จากการทดลองในระยะต้น ๆ พบว่า สาย Coaxial ที่มี impedance ประมาณ 77 โอห์ม

ตาราง เปรียบเทียบระหว่าง impedance ต่าง ๆ กับ อัตราการสูญเสียในสาย dB/ เมตร

นั้นให้อัตราการสูญเสียในสาย ต่ำสุด และอาจจะเพราะว่าค่า impedance ใกล้เคียงกับ impedance ของสายอากาศ half wave dipole ทีมีค่า impedance เท่ากับ 73 โอห์ม ดังนั้นจึงผลิตแบบ 75 โอห์มขึ้นมา ได้รับความนิยมมากในช่วงแรก ต่อมามีการทดลองพบว่า ค่า impedance ประมาณ 30 โอห์ม สามารถรับกำลังไฟฟ้าได้สูงสุด


ดังนั้นเมื่อค่า 30 โอห์มก็มีข้อที่ทนกำลังได้สูง และค่า 70 ก็มีข้อดีที่การสูญเสียต่ำ (30 ohms (best power handling) and 77 ohms (lowest loss)) จึงใช้ค่า 50 โอห์ม เป็นค่ากลาง ๆ สำหรับวิทยุรับส่ง ส่วน 75 โอห์ม ที่เคยใช้อยู่ในมาตรฐานสำหรับเครื่องรับโทรทัศน์ นั้น ใช้กันแพร่หลายมากคงจะเปลี่ยนเป็นมาตรฐานเดียวกันไม่ใหว เลยยังใช้ 75 โอห์มต่อไป

จาก 108ham

ขออธิบายอย่างคนไม่รู้นะครับ เพราะว่าผมเข้าใจอย่างนี้ถูกต้องไหม
ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า ค่า 70 โอห์มนี้นำสัญญานดีแต่ไม่ทนกำลังวัตต์คือทนกำลัววัตต์ได้ต่ำ แต่ค่า 30 โอห์มนำสัญญาณไม่ค่อยดีแต่ทนกำลังวัตต์ได้สูง จึงได้ทำสายที่มีค่า 50 โอห์ม ขึ้นมาให้มันอยู่กลางระหว่าง 30 กับ 70 โอห์มเพื่อที่จะได้นำสัญญาณได้ดีและทนกำลังวัตต์ได้สูงถูกต้องไหมครับ  ขอบคุณครับ

ถูกต้องครับ แต่ถ้าเราเอาสาย 70 โอห์มมาใช้เป็นสายนำสัญญาณสำหรับเครื่องแฮนดี้เพราะคิดว่ากำลังส่งต่ำใช้สายนี้แล้วจะนำสัญญาณได้ดี อันนี้ไม่แนะนำครับ เพราะว่าเครื่องส่งออกแบบมาสำหรับสาย 50 โอห์ม และสายอากาศตามท้องตลาดก็ผลิตมาสำหรับสาย 50 โอห์ม ดังนั้นเพื่อให้เกิดการเข้ากันและส่งผ่านสัญญาณได้ดีที่สุดและลดผลเสียให้น้อยที่สุดควรใช้สาย 50 โอห์ม

[birdte]

ขอไม่พูดถึง ว่า มันใช้ได้หรือไม่ได้น่ะครับ เพราะสายRG6 มีค่า75โอห์ม เอามาใช้กับวิทยุสื่อสาร50โอห์ม มันก็ผิดประเภทอยู่แล้ว  

แต่อาจจะมีความเข้าใจผิดว่าสายประเภทนี้ เอา ไว้รับอย่างเดียว เท่านั้น ข้อนี้ไม่จริงทั้งหมดครับ
สายโคแอคเชี่ยลมีสเป็คแจ้งไว้ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รับ หรือ ส่งอย่างเดียวน่ะครับ
สายโคแอคเชี่ยล มีหน้าที่ นำสัญญาณ ครับ ไม่ว่าจะ รับ หรือ ส่ง ก็เป็นการนำสัญญาณทั้งหมดครับ
เวลารับ ก็นำเข้า เวลาส่ง ก็นำออก สายเองก็ไม่ได้ระบุ ว่า Receiver only หรือ transmission only.

เช่นกระทู้นี้ ยกตัวอย่างเรื่องสาย RG6 ตัวสายเองก็แจ้งสเป็คไว้อยู่แล้ว
ว่าเป็นRadio grade.(RG) นั่นคือสำหรับใช้กับคลื่นวิทยุ
จะว่าเหมาะแก่การใช่งานแบบรับอย่างเดียวก็เห็นว่าไม่น่าจะใช่ เพราะ สายRG6ยังถูกนำไป
ใช้ส่งสัญญาณ RF ของพวกเคเบิ้ลทีวี ตามหมู่บ้านหรือ ตึกคอนโดก็เยอะแยะครับ
การใช้งานก็เหมือนการส่ง วิทยุนั่นแหละครับ เพียงแต่ความถี่และอิมพิแดนซ์ของเครื่องส่งไม่เท่ากันครับ

RG6ยี่ห้อดีๆซิลถักแน่นๆห่อฟรอย ก็เอามาทำสายเฟส โฟนเด็ดไดโพล ได้ดีไม่แพ้ RG11 ครับ 
อย่ายึดติดครับ ว่าต้องแบบนั้นแบบนี้เท่านั้น ถ้าไม่ใช่หรือไม่เหมือน ก็ไม่ได้หมายความว่ามันผิดไม่ถูกหรือใช้ไม่ได้
ซึ่งถ้าคิดแบบนี้มันก็ไม่จริงเสมอไปดูสเป็คและค่าต่างๆให้ถูกต้องตามที่จะใช้งานเป็นหลักครับ  
 

 

ตามความจริงของชีวิตเลือกใช้ให้ถูกประเภทย่อมดีกว่า
สเปคจากโรงงานนั้นยากแท้หยั่งถึง ถ้าไม่ใช่โรงงานที่มาตรฐานจริงๆ อิอิ
เคเบิลมากับสายเส้นเบ่อเริ่มจากเครื่องส่งผ่านรีพีตเตอร์ตลอดทางถึงตู้สาขาหน้าปากซอยก่อนส่งเข้าสายRG6เข้าบ้าน RG6ก็แรงได้ประหยัดด้วย
วิทยุไร้สายมากับอากาศกระทบกับโลหะ(สายอากาศ)กำลังน้อยๆเข้าไปในสายนำสัญญาณส่งกระแสไปเครื่องรับ ช่องทางที่เหมาะสมย่อมดีกว่า ส่งออกก็สบายใจที่ทำไว้เครื่องส่งสายนำสายอากาศเข้ากันก็ไปดีกว่าค่าต่างๆก็มาตรฐาน ยืนมองเครื่องมองสายมองเสาแล้วยิ้มได้ 555(ยิ้มว่าจะเพิ่มอะไรอีกดีเดือนนี้ก็กินแกลบละ)