สู้มาจะ 2 เดือนแล้วครับ ก็มีบ้างสิ่งที่มาบั่นทอนกำลังใจ เช่นกำลังอาบน้ำอยู่หัวกระไดบ้าน มีคน
ตะโกนบอกจระเข้ลอยน้ำมา ลุกขึ้นชะโงกออกไป มองด้วยสายตา จากหัวจรดหางยาวไม่ต่ำกว่า 3
เมตรแน่นอน แหยงไปหลายวันเลยครับกว่าจะกล้าลงไปแช่น้ำ
อีกอย่างก็คืองู ถ้าเป็นงูพิษที่สามารถทำอันตรายถึงชีวิตได้ ยิ่งเสียวแปล๊บเลย เพราะเคยเดินเฉียดๆ
เกือบเหยียบ ยังดีที่สัญชาติญาณระวังตัวเรามีสูง เลยรอดตายหวุดหวิด
ช่วง 2 อาทิตย์แรก น่าจะเลวร้ายที่สุดในชีวิต ถูกตัดขาดจาดโลกภายนอก น้ำ ไฟ ถูกตัดหมด อิน
เตอร์เน็ตไม่ต้องพูดถึง โทรศัพท์มือถือก็ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง แถมต้องถนอมแบ็ตไว้ใช้เท่าที่จำเป็นที่สุด
แฮนดี้เสายางก็ต้องถนอมไฟแบ็ตไว้ เพราะไม่มีไฟชาร์จแบ็ต
แรกๆก็อิจฉาคนรวยๆที่เงินซื้อบ้านอยู่ติดถนนใหญ่ ได้รับของบริจาคจนบ้านแทบทรุด แต่กับเราที่บ้าน
อยู่ลึกๆห่างถนน ไม่มีเงินซื้อเรือพายออกไปรับของ ต้องอาศัยของที่เพื่อนบ้านสงสารนำมาแบ่งให้
สู้ๆครับพี่
เรื่องไอ้เข้ไม่รู้จะแนะนำไง โดดหนีขึ้นบ้านอย่างเดียว
แต่ถ้าเรื่องงู ที่บ้านผมอยู่ในป่า งูเข้ารายสัปดาห์ บางทีก็ถึงห้องนอน บางสัปดาห์ก็ผลัดกันมา 4 รอบ
เมื่อวานก็มีงูกะปะคอแดงมาเยี่ยม
แต่ผมมีวิธีไล่คือ สเปรย์ฉีดฆ่าแมลงแบบมีท่อเล็กๆต่อ
พอเจองูก็ฉีดพ่นใส่มัน เมื่อวานงูกะปะเลื้อยหนีเร็วเป็นจรวด
ถ้าเป็นพวกงูเขียว งูดำๆ ไอ้พวกนี้เชื่องช้าหน้าด้าน บางทีหมดกระป๋องยังเลื้อยไม่ไปถึงไหน
บางทียาฉีดแมลงหมด ก็สีสเปรย์นี่แหละฉีดใส่ตัวมันเลย
ก็พอแก้ขัดได้เหมือนกันครับ