"จะหลับลงได้อย่างไร ในเมื่อประชาชน ไม่มีที่จะนอน"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปรับห้องประทับพักผ่อน มาเป็นห้องทรงงาน เพื่อพระราชทานแนวทางแก้ปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วม
สถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ ยังคงวิกฤติอยู่ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ไม่เว้นกระทั่งในกรุงเทพฯ โดยในขณะนี้ น้ำเริ่มเข้าท่วมพื้นที่บางส่วนแล้วเช่นกัน ซึ่งจากมหันตภัยน้ำท่วมที่ร้ายแรงในครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยพสกนิกรเป็นอย่างยิ่ง โดย นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้เปิดเผยว่า พระองค์ทรงห่วงใยสถานการณ์น้ำท่วมในทุกพื้นที่ แต่ละวันทรงงานและให้เจ้าหน้าที่กราบทูลรายงานสถานการณ์น้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีข้อมูลทั้งในส่วนของโรงพยาบาลศิริราชและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับการทอดพระเนตรริมแม่น้ำเจ้าพระยาบ่อยครั้ง
นอกจากนี้ นพ.ธีรวัฒน์ ยังกล่าวอีกด้วยว่า ส่วนน้ำท่วมชุมชนคลองบางกอกน้อย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยเช่นกัน เห็นได้จากโครงการพระราชดำริเรื่องการแก้ไขปัญหาจราจรยังครอบคลุมเรื่องการระบายน้ำในพื้นที่ด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยพสกนิกรชาวไทยเสมอ ทรงทราบถึงความเดือดร้อนและยังทรงงานตลอดเวลา
ชั้น 16 โรงพยาบาลศิริราช ทรงปรับห้องประทับพักผ่อน มาเป็นห้องทรงงานส่วนพระองค์ พระราชทานพระราชดำริแก้ปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วม
"ยิ่งกว่ากำลังใจ"สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระราชทานถุงยังชีพ พร้อมทั้งทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้คณะแพทย์จากโรงพยาบาลรามาธิบดี ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เพื่อให้ บริการช่วยเหลือราษฎรที่เจ็บป่วย บรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น ณ โรงสีข้าวมูลนิธิชัยพัฒนา ศูนย์สาธิตและพัฒนาพลังงานทดแทนแบบครบวงจร อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรี อยุธยา โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะกราบบังคมทูลบรรยายสรุปความเสียหายจากน้ำท่วม ในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนายอำเภอลาดบัวหลวง จะกราบ บังคมทูลบรรยายสรุปความเสียหายจากน้ำท่วมในเขตอำเภอลาดบัวหลวง
จากนั้น จะเสด็จพระราชดำเนินไปมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตำบล ลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สถานที่ตั้งศูนย์ช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วมของมูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำริให้มูลนิธิชัยพัฒนา จัดตั้งศูนย์ดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นสถานที่รองรับผู้ประสบภัยที่อพยพออกจากบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมเสียหาย และเป็นสถานที่รับบริจาคของใช้ที่จำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย โอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้จัดสร้างโรงครัวประกอบอาหาร สำหรับแจกจ่ายแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้งสองแห่ง และให้คณะแพทย์และพยาบาล จากโรงพยาบาลรามาธิบดีออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการแก่ประชาชน
นอกจากนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังได้พระราชทานพระราชดำริเพิ่มเติม ให้มูลนิธิชัยพัฒนาประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งในเบื้องต้นได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน เช่น กองทัพบก สภากาชาดไทย โรงเรียนจิตรลดา บริษัทไทยเบฟเวอรเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัทไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ในการจัดหาสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป
ผู้ที่ประสงค์จะช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนา ติดต่อได้ที่ สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา อาคาร 608 พระราชวังดุสิต แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ โทร 02-282-4425
ส่วนผู้ที่มีความประสงค์จะร่วมบริจาคเงินโดยเสด็จพระราชกุศล เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ สามารถโอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสวนจิตรลดา ชื่อบัญชี “ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ” เลขที่บัญชี 067–213125-3 เพื่อจะได้นำไปจัดซื้อจัดหาสิ่งของที่จำเป็น ในการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบอุทกภัยต่อไป
ขอพระองค์ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ดุจร่มโพธิ์ร่มไทรของผองชนชาวไทยตลอดกาลเครดิต
http://www.oknation.net