ผม ใช้ มา 5-6 ปี วัดทีไร SWR 1:1.8 ตัดวิปตรงย่านแล้ว แต่ ว่า รับดีส่งดีมากๆ ขอบอก
ข้อสำคัญคือ ไปได้ทุกที่ ไม่หวั่นกิ่งไม้ไดๆ แต่อาจจะรับสัญญาณ สวิ่งนิดหน่อย เวลาโต้ลมแรงๆ ทนทานมากๆ จากประสบการณ์จริง
ท่าน kk8+1 ขอข้อมูลหน่อย ... ท่านติดสายอากาศฯ ณ ตำแหน่งใด ของรถยนต์ และตัดวิปจากปลายด้านหนึ่งถึงด้านบนของโคโรน่าบอลเหลือกี่เซนติเมตร
ส่วนเรื่องสวิง ผมได้ยินเพื่อนๆ พูดกันหลายท่าน แต่ยังไม่มีใครให้ข้อมูลที่เท็จจริง หากท่านจะกรุณาถ้ามีครับผมติดสายอากาศบริเวรรางน้ำ ด้านผู้โดยสารข้างคนขับ
(รถตู้ นิสสันเออแวน) ใช้ ย่าน 152 Mhz ความยาววิป 117 Cm วัด SWR ได้ 1:1.8
(ค่า SWR ค่อนข้างสูง อาจเป็นเพราะผมใช้สายนำเป็น RG8 ก่อนหน้านั้นใช้ RG 58 วัด SWR ได้ 1:1.2 สายนำ RG8 อาจไม่ลงแลมด้า
แต่ในทางกลับกันกลับรับส่งดีเยี่ยม)
ส่วนเรื่องสวิงนั้น ลองทดสอบเปรียบเทียบกับ สายอากาศ CL2 รถวิ่ง 90-100 กม/ชม สัญญาณ S_meter จะนิ่งกว่า คูล็อต (นิดหน่อย ไม่มากนัก แต่ความแรงเท่าเดิม )
ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจป็นเพราะว่า สายอากาศ CL2 มีวิปที่แข็ง และไม่ลู่ลมและไม่โน้มมากนะเวลาโดนลม (และมีโอกาส หักได้เสมอเมือเจอของแข็ง เพราะวิปไม่มีความยีดหยุ่น )
ส่วนเวลาจอดนิ่งๆ รับส่งไม่ต่างกันเลย
สายอากาศ ชนิดอื่นไม่ได้ลองเปรียบเทียบ
ใช้งานปัจจุบัน ยังถือ หาง คูล๊อต แน่นอน 100 % เพราะ
1. ไม่ต้องกลัวว่าจะไปโดนอะไร ไม่ว่าจะกิ่งไม้หรือ เพดานตึก ต่างๆ (ส่วนมาก CL2 จะหาย ไม่วิป ก่อ ห่วงกลางหาย )
2. ตัวสายอากาศมีความงด งาม สีดำเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัว ใส่กับรถยี่ห้อไหนก็เข้าตา
3 วิปมีความหยืดหยุ่นสูง ไม่บิดไม่งอ มีเพียงสีถลอกเท่านั้น ซึงเป็นธรรมดา (เพราะเสียดสีกับ วัตถุต่าง )
ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ เล่าสู่กันฟังครับ
พูดไปพูดมาอยากได้ไว้ซักต้นใหม่ๆ
ราคา เมือก่อน 5-6 ปี ซื้อมา 2200 บ.
ราคาที่ จขกท. ขายไม่แพงเลยกับการแลกกับสายอากาศ แท้ๆดีๆ ไว้ซักตั้น ครับ