ราคา 20,000 บาท (สองหมื่นบาทถ้วน) /กิต 081-538 5345พระผงสมเด็จเหม็น เนื้อลองพิมพ์ ปี 2495 หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง 1 ใน 10 พิมพ์สมเด็จยอดนิยม
พระผงสมเด็จเหม็น ( สมเด็จพระคะแนน ) วัดตาลกง เพชรบุรี
โดยการสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2495 แล้วมาสิ้นสุด ลงในปลาย พ.ศ.2497 รวมระยะเวลาถึง 3 ปี
โดยหลวงพ่ออุ้น ร่วมกับพระสงฆ์ภายในวัดตาลกงช่วยกัน
พระผงสมเด็จเหม็น ( สมเด็จพระคะแนน ) ตามที่ชาวบ้านเรียกมาแต่แรกเป็นพระผงที่มีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยมและเสน่ห์สูงมาก มีขนาดกว้างประมาณ 1.6 ซม. สูงประมาณ 2 ซม.
เป็นรูปพระพุทธรูปนั่งสมาธิบนฐานชั้นเดียว มีอักขระคำว่า "พุทโธ" อยู่ภายในซุ้มเรือนแก้ว
ด้านบน ส่วนด้านหลังเป็นยันต์นะปัดตลอดใต้ฐานยันต์มีคำว่า ว.ต.ก. และที่ด้านหลัง
เห็นยันต์เลือนลางที่ไม่เห็นยันต์ก็มี ทั้งนี้เป็นเพราะหลวงพ่อได้เอาสีผึ้งเมตตาที่ท่านได้ทำไว้
แล้วนำมาป้ายติดที่ตัวปั๊มด้านหลังแล้วกดพิมพ์ จุดประสงค์เพื่อจะให้สีผึ้งติดลงที่แผ่นหลังของพระ
จึงทำให้เห็นรูปยันต์เลือนลาง เมื่อใดที่สีผึ้งของหลวงพ่อหมดก็จะเห็นยันต์และคำว่า "ว.ต.ก" ชัดเจน
พระมีเนื้อแน่นละเอียด ส่วนหยาบนั้นเกิดจากการนำเอาข้าวปากบาตรและก้นบาตรตลอดจนเกษร
ดอกไม้ ผลไม้ที่พระท่านฉันท์เหลือ ว่านต่างๆ ( โดยเฉพาะว่านดอกทอง ) หมักไว้หลายวันก็จะเกิด
กลิ่นเหม็นบูดมาก ถ้าช่วงใดพระต่างๆมีเวลาช่วยกันมาก ผงที่หมักแค่คืนเดียวกลิ่นเหม็นก็จะน้อยลง
บางครั้งจะมีการผสมแผ่นทองที่เหลือจากการปิดทองรอยพระพุทธบาทในพระอุโบสถผสมลงในผง
พระสมเด็จคะแนนจะมีกลิ่นเหม็นมากและน้อยไม่เป็นปัญหา ต่อมาคนจะเรียกสมเด็จเหม็น จนติดปากจะยันต์ชัด หรือไม่ชัด เหม็นมากหรือเหม็นน้อยทั้งหมดเป็นพระที่ปลุกเสกครั้งเดียวกัน 8 ปี
ถึงแจก เป็นพระรุ่นเดียวกันมีพุทธคุณเหมือนกันหมด
ผงพุทธคุณ ที่นำมาเป็นส่วนผสมพระสมเด็จเหม็นมีผงอิทธิเจของ ลพ.แก้ว วัดเครือวัลย์ซึ่งเป็นผงเก่าที่ ทำไว้ในอุโบสถหลังเก่าของวัดตาลกง สมัยที่ ลพ.แก้ว ยังอยู่ที่วัดปากทะเลผสมกับผงพุทธคุณของหลวงพ่ออุ้น แล้วนำมาหมักผสมกับข้าวสุกจากปากบาตร และข้าวก้นบาตรของพระสงฆ์ที่ได้บิณฑบาตรมา การหมัก ครั้งใดที่หมักทิ้งไว้หลายวันมีกลิ่นเหม็นมาก หากหมักไว้ทิ้งชั่วข้ามคืนจะมีกลิ่นเหม็นน้อย เป็นสาเหตุให้พระสมเด็จเหม็น มีกลิ่นเหม็นมาก และเหม็นน้อยไม่เท่ากัน
พระผงสมเด็จเหม็น สร้างประมาณ 84,000 องค์ ส่วนหนึ่งเก็บบรรจุไว้ที่พระอุโบสถหลังเก่า
อีกส่วนหนึ่งออกให้ญาติโยมได้บูชา พระสมเด็จเหม็น มีการลองเนื้อจะมีเนื้อออกแน่น
ออกแก่น้ำมัน มีเนื้อออกน้ำตาล ออกแดง และบางองค์ คำอธิบายใต้ภาพนั้น ในส่วนที่ลองเนื้อลองพิมพ์ เป็นเพียงส่วนน้อย จะเอามาเป็นหลักในการเล่นหา ไม่ได้ ต้องเอาเนื้อหารูปแบบโดยรวมส่วนใหญ่ มาเป็นเกณฑ์มาตรฐาน
พระผงสมเด็จเหม็น ( พระสมเด็จคะแนน )
สร้าง : พ.ศ.2495 ถึง พ.ศ.2497 จำนวนสร้างประมาณ 84,000 องค์
มวลสาร : ผสมผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ลพ.อุ้น ผสมกับผงอิทธิเจ ลพ.แก้ว บรรจุในอุโบสถหลังใหม่ 50,000 องค์ แจกและออกให้บูชาประมาณ 30,000 กว่าองค์
ลักษณะพระผงสมเด็จเหม็น :
1.หลังยันต์ ว.ต.ก ชัดเจน ประมาณ 4,000 องค์
2.ยันต์หลังและคำว่า ว.ต.ก ไม่ชัดเจน เนื่องจากป้ายสีผึ้งประมาณ 30,000 องค์
3.ยันต์หลังไม่ชัดเจน เนื่องจากพิมพ์ลึกจนเลือนราง ประมาณ 50,000องค์
ข้อมูลประกอบ 10 พิมพ์พระสมเด็จ
ปัจจุบัน "พระพิมพ์สมเด็จ" ได้รับความนิยมจากนักสะสมอย่างมาก ติดอันดับยอดนิยมอันดับหนึ่งมายาวนาน นับเป็นสุดยอดปรารถนาของนักสะสม "พระสมเด็จวัดระฆังฯ" ซึ่งจัดสร้างโดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ สนนราคาเล่นหาต้องมีหลักล้านขึ้น
ไม่น้อยหน้าตามจี้ไล่มาติดๆ "พระสมเด็จบางขุนพรหม" ชื่อทางการวัดใหม่อมตรส บางขุนพรหม กรุงเทพฯ ทั้งกรุเก่าและกรุใหม่ นักสะสมถามหาบูชาทั้งคู่ สภาพองค์พระกรุเก่ามักจะสดใสไร้ขี้กรุ เพราะส่วนใหญ่พระจะอยู่ด้านบนได้มาด้วยวิธี "ตกเบ็ด" ส่วนกรุใหม่บางองค์มีขี้กรุจับเต็ม เปิดกรุอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2500 สนนราคาหลักแสนหลักล้านเช่นกัน
แรงเอาเรื่อง "พระสมเด็จเกศไชโย" วัตถุมงคลดังเมืองอ่างทอง สายตรงสมเด็จโต ก่อนนักร้องลูกทุ่งชื่อก้อง "ยอดรัก สลักใจ" จะจากแฟนเพลงไปด้วยโรคร้าย ได้อาราธนาพระพิมพ์นี้แขวนติดตัวตลอด รอดจากอุบัติเหตุมานับครั้งไม่ถ้วน สนนราคาค่านิยม พิมพ์ 7 ชั้นนิยมต้องมีหลักแสนขึ้น
อาราธนาขึ้นคอแทนพระสมเด็จวัดระฆังฯ ได้สบาย เซียนพระยกให้เป็นสุดยอดแห่งพระสมเด็จพิมพ์หนึ่ง "พระสมเด็จอรหัง" สมเด็จพระสังฆราช (สุก ญาณสังวร) หรือสมเด็จพระสังฆราชไก่เถื่อน สร้างไว้ที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพฯ "พิมพ์ที่มีประภามณฑล" และ "ไม่มีประภามณฑล" นิยมทั้งคู่ พุทธคุณเด่นทางด้านเมตตามหานิยม คงกระพันและแคล้วคลาด สนนราคานับวันยิ่งทวีสูงขึ้นเรื่อยๆ สภาพสวยๆ บางองค์หลักแสนหลักล้านยังไม่ยอมถอย
นักสะสมถ้าเจอไม่ยอมให้หลุดมือ "พระสมเด็จปิลันทน์" ของม.จ.พระสมเด็จพระพุฒาจารย์ (ม.จ.ทัด เสนีวงศ์) เป็นวัตถุมงคลที่มีกระแสความนิยมมาดีตลอด แม้ว่าสนนราคาบางพิมพ์ค่อนข้างสูง แต่บางพิมพ์ราคายังเบาสบายหายห่วง นับเป็นมรดกสายสมเด็จโตของแท้ที่พุทธคุณไม่แพ้พระพิมพ์สมเด็จด้วยกัน
ติดอันดับพระเครื่องชั้นแนวหน้ามายาวนาน "พระวัดปากน้ำ" ผลงานของพระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อสด จันทสโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร นิยมเรียกว่า "พระของขวัญ" รุ่นแรกสร้างขึ้นเมื่อปี 2493 พิมพ์สี่เหลี่ยมขนาดเล็กกะทัดรัด เหมาะสำหรับห้อยคอเด็กและสตรีมาก ผู้ชายบางคนก็ไม่ยอมให้พลาด เพราะแขวนรวมกับพระอื่นๆ ได้อย่างสบาย ถึงจะเป็นพระที่มีขนาดย่อม แต่ราคาไม่เล็ก ปัจจุบันสนนราคารุ่นแรกสภาพสวยๆ องค์ละหลายแสน
ระยะหลังกระแสมาดี เริ่มหาบูชายากแล้ว "พระสมเด็จหลังอุ" เจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์ กรุงเทพมหานคร สร้างถวายโดย "พระอุดมสารโสภณ" ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ในขณะนั้น ท่านได้สร้างขึ้นประมาณกลางพรรษาปี 2512 ท่านเจ้าคุณนรฯ ปลุกเสกให้เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2513 ปัจจุบันมีบรรจุในรายการประกวดพระ สนนราคาเล่นหาไม่หยุดนิ่งขยับขึ้นตลอด
สุดยอดวัตถุมงคลดังของหลวงปู่โต๊ะ วัดสระเกศ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง "พระพิมพ์สมเด็จ ปี 2513" พระสมเด็จรุ่นนี้มีส่วนผสมของพระสมเด็จเกศไชโย ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สร้างไว้จำนวนมาก องค์พระมีสภาพสวยงดงาม จากมวลสารที่เข้มข้น เวลาส่องกล้องจะเห็นชัดเจน สนนราคาสู้กันถึงหลักหมื่น
ขึ้นอันดับยอดนิยมแบบเงียบไม่หวือหวา "พระสมเด็จเหม็น" ของหลวงพ่ออุ้น สุขกาโม วัดตาลกง ต.มาบปลาเค้า อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี กำลังมาแรงมากในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาและนักสะสมวัตถุมงคลสายหลวงพ่ออุ้น จากพระแจกฟรี ปัจจุบันราคาเล่นหาขยับขึ้นไปสูงมากพอสมควร
ปิดท้ายกันด้วย ถือเป็นน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ ใช้เวลาแจ้งเกิดได้ไม่นาน ทะยานขึ้นสู่ความนิยม ฉุดนักสะสมให้เคลิบเคลิ้มอยู่พักใหญ่ "พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูล" วัดขุนอินทประมูล ต.อินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง แม้จะโดนกระแสสวดอย่างหนัก แต่ก็ฝ่าด่านมะขามเตี้ยมาได้สบาย ข้าราชการทหาร ตำรวจชอบ
สภาพสวยเดิมๆ สู้ราคากันเต็มเหนี่ยว!!!
