ย้ำจับฝ่าไฟเหลือง ทุกสี่แยกในกทม. บังป้ายทะเบียน ปรับเพิ่มอีกพัน

[E20ZSY]

ย้ำจับฝ่าไฟเหลือง

ทุกสี่แยกในกทม. บังป้ายทะเบียน ปรับเพิ่มอีกพัน

ตร.จราจรเข้มเตือนพวกชอบขับรถฝ่าไฟเหลืองตามสี่แยก ระวังโดนจับ โทษหนักปรับเท่าฝ่าไฟแดง ย้ำหากเห็นไฟเหลืองให้หยุดรถทันที เว้นแต่ขับเลยเส้นขาวไปแล้ว ให้ขับขี่ต่อไปได้ แต่ถ้ารถยังไม่เลยเส้นขาวจะต้องหยุดรถเพื่อความปลอดภัย ฮึ่มพวกชอบดัดแปลงป้ายทะเบียน ติดป้ายเอียงหลบมุมกล้องหรือมีสิ่งบดบังแผ่นป้ายก็โดนจับเช่นกัน มีโทษหนักปรับ 1 พัน

พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานจราจร กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตั้งกล้องตรวจจับผู้ขับขี่กระทำผิดกฎจราจร หรือ "เรดไลต์ คาเมร่า" บริเวณสี่แยกหลักในพื้นที่ กทม.เพิ่มอีก 60 จุด ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างเงื่อนไขประกวดราคา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประกาศประกวดราคา และจัดหาเอกชนเข้ามาดำเนินการได้ภายในเดือนก.ย.นี้ มีนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นผู้ควบคุมดูแล ใช้งบประมาณ 460 ล้านบาท พร้อมทยอยติดตั้งให้ครบ 60 จุดภายในสิ้นปี ซึ่งจากการประเมินผลปฏิบัติหลังการติดตั้งจำนวน 30 แยก เมื่อปี 2551 ที่ผ่านมา พบว่ากล้องเรดไลต์ คาเมร่า ที่ติดตามแยกต่างๆ ในพื้นที่ กทม. สามารถลดการเกิดอุบัติเหตุได้จริงถึงร้อยละ 70 อีกทั้งยังช่วยลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินได้มากขึ้น และที่สำคัญทำให้ผู้ขับขี่มีวินัยจราจรเพิ่มมากขึ้น ซึ่งกล้องเรดไลต์ล็อตใหม่ จำนวน 60 ตัวนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาลจะนำไปติดตั้งในถนนสายหลักที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูง รวมทั้งในจุดที่มีสภาพการจราจรหนาแน่นทั้งในพื้นที่ชั้นนอก เช่น ถนนรามอินทรา ถนนลาดปลาเค้า ถนนเสรีไทย และรอยเชื่อมต่อ กทม.ปริมณฑล และพื้นที่ กทม.ชั้นใน เช่น แยกพญาไท แยกสุขุมวิท แยกสุขสวัสดิ์ แยกหัวลำโพง แยกปทุมวัน แยกพาหุรัด แยกชิดลม แยกบางนา เป็นต้น ซึ่งจะติดตั้งเพิ่มเติมในจุดที่เคยติดตั้งไปก่อนหน้านี้ เพื่อให้สามารถจับภาพได้ครบทุกทิศทาง เพราะในหลายจุดนั้นยังมีผู้ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรอยู่เป็นจำนวนมาก

รอง ผบช.น.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ฝ่าฝืนเครื่องหมายสัญญาณไฟเหลือง หรือแดง มีความผิดอัตราโทษเท่ากัน กรณีฝ่าสัญญาณไฟแดง ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปฏิบัติหน้าที่โดยเคร่งครัด ผู้ฝ่าฝืนจะถูกตัดแต้ม 30 แต้มด้วย ส่วนผู้ขับขี่รถฝ่าสัญญาณไฟเหลืองจะไม่โดนตัดแต้ม แต่จะถูกพิจารณาปรับระหว่าง 400 ถึง 1,000 บาท ดังนั้น เมื่อผู้ขับขี่เห็นสัญญาณไฟสีเหลืองขอให้เตรียมหยุดรถทันที เว้นแต่ขับเลยเส้นขาวไปแล้ว ก็ให้ขับขี่ต่อไปได้เลย ไม่ต้องหยุด แต่ถ้ารถยังไม่เลยเส้นขาวจะต้องหยุดรถ จะหยุดรถคร่อมทับเส้นก็ได้ ไม่เป็นไร สำหรับกล้องเรดไลต์จะไม่มีการบันทึกภาพขณะฝ่าฝืนสัญญาณไฟเหลือง ดังนั้น ผู้ฝ่าฝืนจะไม่มีหมายเรียกมาเสียค่าปรับ จะมีหมายเรียกมาเสียค่าปรับเฉพาะรถที่ผ่าฝืนสัญญาณไฟแดงเท่านั้น กล้องจะถ่ายบันทึกภาพแรกเมื่อมีการผ่าฝืนสัญญาณไฟแดง ล้อแตะเส้นขาว แล้วไม่หยุด 1 ภาพ จากนั้นอีก 2 วินาที เมื่อรถวิ่งเลยเส้นขาวไปอยู่กลางแยกก็จะถ่ายอีก 1 ภาพ แต่ถ้ารถหยุดจอดทันที แม้จะทับหรือคร่อมเส้นขาว ตำรวจจะพิจารณาไม่เอาผิด ซึ่งเรื่องการฝ่าไฟเหลืองพูดกันมานานแล้ว ว่าผิดหรือไม่ผิด จากนี้จะต้องเข้มงวดกันยิ่งขึ้น

"เมื่อเห็นไฟเหลืองขอให้หยุดรถทันที แม้จะเป็นสัญญาณไฟเขียวก็ตาม แต่ข้างหน้าไปไม่ได้ เมื่อเปลี่ยนเป็นสัญญาณไฟแดง รถของท่านจะจอดคาแยก แม้จะไม่ผิดข้อหาฝ่าสัญญาณไฟแดง แต่ก็จะมีความผิดข้อหาจอดรถเกะกะกีดขวางการจราจรได้ ดังนั้น เมื่อเห็นสัญญาณไฟเหลืองขอให้หยุดหลังเส้นขาว คำพูดที่ว่า เมื่อเห็นไฟเหลืองให้รีบเหยียบคันเร่งส่งรถให้พ้นแยกนั้น ขอให้เลิกปฏิบัติ เพราะเป็นการขับขี่รถผิดหลักสากล การขับแบบนี้ในเมืองไทยอาจรอดหูรอดตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ้นความผิดไปได้ แต่ถ้าท่านไปขับขี่ในเมืองนอก รับรองไม่รอดแน่ อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ตามกฎหมายจึงใช้คำว่าขับรถผ่านแยกด้วยความระมัดระวัง ต้องไม่ใช้ความเร็วเกินปกติที่สามารถจะหยุดรถได้ทัน" พล.ต.ต.ภาณุกล่าว

และว่า นอกจากนี้ ผู้ขับขี่รถที่มีการดัดแปลง ปกปิด ต่อเติม ส่วนหนึ่งส่วนใดของป้ายทะเบียนรถ รวมทั้งใช้ป้ายปลอม และไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตนได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทุกท้องที่ปฏิบัติโดยเคร่งครัด ให้ปรับสถานหนัก คือ 1,000 บาท ทุกราย ป้ายทะเบียนรถจะต้องติดตรง ไม่ใช่ติดเอียงๆ นอกจากนี้ ยังมีพวกชอบใช้กันชนดัดแปลง เสริมกันชนเพิ่มจากเดิม จนมาบดบังส่วนหนึ่งส่วนใดของป้ายทะเบียน พบมากในรถปิกอัพที่มีการเสริมกันชน บนทางด่วนจะพบเจอรถประเภทนี้มาก หากเจอจะถูกจับกุมทันที

[bangkaew44]

หน้าที่ของตำรวจจราจรอย่างที่นายภาณุประกาศมันเป็นเรื่องสุดท้ายของหน้าตำรวจจราจรในกรุงเทพแน่จริงนำมาตรการนี้ไปใช้ที่3 จว.ชายแดนใต้น่าจะได้ผลมากกว่าเก่งอยู่ในกรุงเทพแต่ที่แน่ๆนายภาณุไม่เคยโบกรถหรือแก้ปัญหาจราจรได้นับตั้งแต่เริ่มชีวิตราชการตำรวจแต่อยู่ฝ่ายดูแลผลประโยชน์มาตลอดตราบใดที่ประเทศไทยยังไม่มีศาลจราจรแบบต่างประเทศ ในปัจจุบันตำรวจจราจรยังไม่สามารถแก้ปัญหาจราจรติดขัดในกรุงเทพได้ พรบ.จราจรทางบกก็ยังคงเป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่รัฐตลอดไปประชาชนไม่มีสิทธิ์โต้เถียงในทางใดๆถ้ามีเส้นมีสายมีพรรคพวกก็โชคดีแต่ถ้าไม่มีก็เป็นอย่างที่เห็นๆกันอยู่ปะชาชนไม่ต่างกับลูกสุนัขตาดำๆเลย

[ja_jead]

ขอขอบคุณ มากครับ ที่เอาเรื่อง ไฟเหลืองมาบอกเล่า  คลุมเคลือ มานานอยู่เหมือนกัน

[SUB44]

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ครับ

...ฝ่าไฟเหลือแล้วโดนปรับ...คำถามคือ ... ข้อหาอะไร...มาตราใด

เมื่อผ่านพ้นเส้นขาวแล้วติดอยู่คาแยกเป็นความผิดของประชาชนหรือ...

เป็นคำอ้างที่จะหาเงินจากประชาฃนอีกแล้ว การที่รถไปติดกลางแยก ผมขอโบ้ยให้การบริหารระบบจราจรครับ เพราะเขามีศูนย์สั่งการ สามารถคำนวนปริมาณรถยนต์ได้แต่ละเส้นทางให้มีความเหมาะสม

ไอ้เรามันอยู่ในเหล็กหุ้มเนื้อขับตามๆกันไป หากเป็นโอกาสของเราที่จะผ่านแยกไปได้โดยเร็วเป็นสิ่งที่มนุษย์ในกรุงเทพที่ผู้ทุกนามทำอยู่แล้วเมื่อขับรถ....
หากเป็นการขอความร่วมมือ ผมก็จะปฏิบัติตาม...แต่ถ้าอ้างโทษทัณใด ที่มิได้บัญญัติในกฏหมายแล้วกระทบกระเทือนชีวิตประจำวัติของเรา ผมว่ามันต้องชัดเจนกว่านี้ครับ

[SUB44]

การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องมีคำสั่งที่สอดคล้องและไม่ขัดต่อกฏหมาย
อาจเป็นกฏหมายเฉพาะ กฏกระทรวง ใดๆเพราะบังคับและประกาศอย่างเป็นทางการ

ตำรวจจราจรนำกรวยยางไปวางบนพื้นผิวการจราจร มีรถขับมาชนมัน ตำรวจจับใคร

ก.จับคนขับเพราะขับรถชนเครื่องหายทางจราจร
ข.จับตำรวจที่วางกรวยข้อหา วางสิ่งของกีดขวางการจราจร

ในขณะที่กฏหมายห้ามชัดเจนว่าห้ามนำจักรยานยนต์ขึ้นทางด่วน....แล้วตำรวจทางด่วนน้ำขึ้นไปได้อย่างไร...ข้ออ้างคือปฏิบัติราชการ....กฏหมายมีไว้เพื่อปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกันแล้วผู้รักษากฏถึงทำผิดเอง....

[hs1yhj]

ลองมาเป็นตำรวจบ้างแล้วจะรู้ว่ามันเป็นยังไง

[E20ZSY]

ปฎิบัติตามกฎ ก็ลดอุบัติเหตุ ถ้าไม่ทำผิดใครเขาจะจับ ตรองดูให้ดีๆ นี่แหละที่เรียกว่า คนไทย...73

[SUB44]

ขออนุญาตอ้างครับว่า "ลองมาเป็นตำรวจดู" แล้วจิตใจประชาชนหละครับ เพราะทุกคนไม่ชอบโดนบังคับ..นั้นคือสิ่งที่เป็นจริง...หากจะบังคับ...จะต้องมีกฏเกณฑ์แน่นอนและปฏิบัติเหมือนกัน

ไม่ใช่ 2 มาตรฐาน

ไฟเจอไฟมันก็ยิ่งร้อนไปกันใหญ่
คนขับรถก็ใจร้อน เพราะรีบ
เจ้าหน้าทีก็อยากให้ไปเหมือนกัน แต่สุดวิสัยเพราะปริมาณรถมันเยอะเกินไป

แต่การออกกฏมันไม่ได้ช่วยลดปัญหา หรือสร้างวินัยเลย เพราะนิสัยคนไทยชอบฝ่าฝืนเป็นธรรมดา

แต่เป็นการสร้างความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด...เช่นเดียวกัน ถ้าเป็นโครงการรณรงค์ หรือ เป็นการสร้างความเห็นอกเห็นใจกัน..มันจะง่ายกว่านี้ครับ

"ฝ่าไฟเหลือมีโทษปรับเท่าฝ่าไฟแดง" โอ๊ะๆๆๆ มีโทษ ผมทำอะไรผิดมาตราใดครับ

เมื่อออกประกาศให้ประชาชนปฏิบัติจะต้องอ้างอิงให้ได้ครับว่ามันมีอะไร ความเป็นมาเช่นไร
แสดงว่าใช้อำนาจรัฐในทางไม่โปร่งใส ขัดนโยบายรัฐบาลอย่างแท้จริง ในเรื่องความโปร่งใสของการตรวจสอบการทำงานภาครัฐ

ตำรวจเป็นเจ้าหน้าทีของรัฐปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐ แต่รัฐไม่ให้คามชัดเจนในการปฏิบัติ รัฐเกิดความเสียหายและขาดความน่าเชื่อถือ

และขออนุญาตอ้างคำพูดท่าน E20ZSY ตรองดูให้ดี ว่าถ้าไม่ทำผิดกฏใครจะจับได้

แล้วกฏข้อใดมาตราใด ผมใคร่รู้ครับ

ผมเอง หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ไม่ใช้ผู้ตัดสินว่าใครผิดหรือใครถูกครับ ขนาดจับโจรได้ ยังให้เป็นแค่ผู้ต้องหา เพราะถูกกล่าวหาโดยระบบกฏหมายไทย
ผู้ที่ชี้ถูกหรือผิดได้...มีเพียงอำนาจศาลตุลาการเท่านั้น มิใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจในชั้นสืบสวนหรือจับกุม

[somphot]

ผ่าไฟแดงยอมรับกระทำผิดแต่ผ่าไฟเหลืองไม่ได้กลัวโดนตำรวจจับแต่กลัวรถที่ตามหลังมาโดยเฉพาะสิบล้อเจอไฟเหลืองแล้วเบรคไม่ทันหรือรถประเภทอื่นที่มาเร็วแล้วไม่คิดจะเบรคลองนึกดูถ้ามอเตอร์ไซค์เจอไฟเหลืองแล้วเบรคกระทันหันแล้วรถหลังที่ตามมาตู้มมมมมมันคุ้มไหมผมคนหนึ่งไม่ขอเบรคไฟเหลืองเพราะไฟเขียวมีแต่รถเหยีบบคันเร่งไม่ได้เพื่อเบรคแล้วเจอไฟเหลืองเบรคไม่ทันอยู่แล้วเกรงว่ามันจะอันตรายกว่าผ่าไฟเหลืองอีกนะครับ

[SUB44]

460 ล้านบาท เอามาทำสื่อปลูกจิตสำนึกยังดีกว่า เพราะรัฐลงทุนไปแล้ว มีหรือจะไม่เอาคืน...อันนี้สงสัยด้วยความบริสุทธิใจครับ

กทม.มีรถยนต์ กี่คันทั้งจังหวัด...ปรับกี่วันได้เงิน 460 ล้านบาทเข้าคลัง
460 ล้านบาท จ่ายเบื้ยใบ้รายทาง การประมูลติดตั้ง เท่าไหร่
460 ล้านบาท ติดกล้องไป ทำให้คนไม่ฝ่าสัญญาณไฟเหลืองได้จริงหรือ
460 ล้านบาท ทำให้บริษัทประกันภัยตั้งจุดรับแจ้งเหตุร่วมกับตำรวจ แล้วได้งานหรือไม่ (คุ้มทุนบริษัทประกันหรือไม่)
460 ล้านบาท ทำให้คนไทยมีวินัยอย่างแท้จริงหรือไม่

ขอพลิกตำราก่อนว่าการติดป้ายทะเบียนมีข้อบังคับหรือไม่ว่าจะต้องติดตรง หรือให้เห็นชัดเจนแต่ประการใด ตามกฏกระทรวง หรือข้อบังคับใดๆของกระทรวงคมนาคมหรือเปล่า อันนี้ยังไม่ได้ศึกษาขอเวลาสักครู่