ให้อยากทราบมาทางนี้ครับ จะเหลาให้ฟัง..อิอิ..
เดิม WIDE BAND 25 KHZ.
144.000-146.000 mhz. แบ่งเป็น 80 ช่อง
เท่ากับ(144.000-145.000 ) 1 mhz. มี 40ช่อง
เท่ากับ 25 khz. ต่อช่อง 100 khz. มี 4 ช่อง
1 mhz. มี 1000 khz. ก็เท่ากับ 40 ช่อง
ตามมาตรฐาน เครื่อง 25 khz. คือ 16K0F3E
คือ เมื่อออกแบบเครื่องมาส่งจริงของ 25 khz.ไม่สามารถให้ส่งได้ที่ 25khz. เลยเนื่องจากคลื่นวิทยุเกิดจากการสั่นทำให้เกิดคลื่นขึ้น ยังไม่มีใครสามารถออกแบบเครื่องส่งให้ส่งได้แน่นอนได้ตลอดเวลา เพี้ยนสูงบ้างต่ำบ้าง ดังนั้นสากลจึงกำหนดให้ค่าที่ส่งจริงคือ 16 khz. ทำให้มีระยะปลอดภัยไม่ไปกวนช่องข้างเคียงที่ 9 khz. หรือ 4.5 บนและล่าง
เนื่องจากความต้องการช่องความถี่มีมากขึ้นช่องไม่พอใช้แต่คลื่นความถี่มีจำกัด มีวิธีเดียวคือซอยช่องให้มากขึ้นจึงเกิด
12.5 MHZ. NARROW BAND
คือจากเดิมได้ 1 mhz. มี40ช่อง พอเป็น narrow band ก็มี 80ช่อง ก็เท่านั้นเองครับ
แต่ ไม่เท่านั้นเพราะพอช่องแคบลงการออกแบบวงจรยากขึ้นเนื่องจาก 12.5khz. เวลาส่งจริงต้องส่งแค่ 8khz. เท่านั้นถึงจะไม่ไปกวนช่องข้างเคียง
ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือ เสียงที่ไปถึงคู่สนทนาจะเบาลงและบี้ เนื่องจากต้องบีบสัญญาณ เสียงออกไปด้วยครับ
ข้อมูลเป็นประโยชน์มากครับ ผมก็งงๆๆ อยู่เหมือนกัน