คิดจะทำกฎให้เหมือนต่างประเทศเขาให้เป็นสากลก็เห็นด้วยเป็นสิ่งที่ดีแต่ขอถามหน่อยครับว่สแล้วเจ้าหน้าที่บ้านดรูเนี๋ยประเทศไทยสติปัญญาสมองเป็นสากลเหมือนกับต่างประเทศไหมวันๆแมร่งไม่คิดเหี้ยอะไรคิดแต่จะหาเงินแดกกันอย่างเดียว
ทุกอย่างเริ่มที่ กฎ ระเบียบ ถ้า กฎ ระเบียบ ดีคนก็ปฏิบัติตามนั้น
ที่ผ่านมา กฎ ระเบียบ มันบิดเบี้ยว รวมกับการสื่อสารแบบผิดๆ จากรุ่นก่อนๆ
ส่งทดทอดความรู้ ความเข้าใจแบบผิดๆ ติดตัวมา
ถ้าจะโทษ ต้องไปหาคนที่เขาบอกกล่าวเล่าให้ฟังมาว่าจริงๆ แล้วมันผิด
คำว่าสัญญาณเรียกขานใช้ได้ไปจนตาย ไม่เคยได้ยินจากหน่วยงานกำกับดูแล
ไม่วาจะเป็น กรมไปรษณีย์ กทช กสทช ยุคไหนสมัยไหน ก็บอกตรงกันว่า
ใช้ได้ตราบที่ใบอนุญาตยังไม่หมดอายุ
แต่ด้วยการส่งต่อแบบผิดๆ คิดแบบผิดๆ คิดแบบไม่รับผิดชอบต่อสังคม
หลายคนเลยตกเป็นเหยื่อ โดนคนเหล่านั้นหลอกเอาคำพูดแบบผิดๆ
จนฝังจำสิ่งผิดๆ เข้าไป
พอมาวันหนึ่งได้มารับรู้ว่า สิ่งที่เคยรู้มามันผิด มันไม่ใช่แล้ว
ก็แสดงความเห็นแบบผิดๆ แบบไม่ไตร่ตรอง ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้
สิ่งที่ต้องสื่อสารออกไปแบบที่ถูกต้องคือ
"สัญญาณเรียกขาน (Call sign) เป็นของเราแต่เพียงผู้เดียว ตราบใดที่ใบอนุญาตพนักงานของเรายังไม่หมดอายุ"
มันจะติดตัวไปจนตาย ถ้าเราต่อใบอนุญาตตามกำหนด ไม่หมดอายุ
ฟังอีก 2 ครั้ง "ติดตัวไปจนตาย ติดตัวไปจนตาย"
แค่ตายนะ เพราะถ้าตายแล้วเอาไปไม่ได้ มีเงิน รวยล้นฟ้า ก็เอาไปไม่ได้สักอย่าง
ตายแล้วเราลุกบอกต่อใบอนุญาตไม่ได้แล้ว เมื่อถึงกำหนดเวลา
เขาก็เอาของเราไปให้คนอื่นใช้ซ้ำไปอีกได้ความหมายของคำว่า เป็นของเราแต่เพียงผู้เดียวนั้น เป็นจริง เพราะสัญญาณเรียกขานไม่มีสามารถออกซ้ำได้ในเวลาเดียวกัน
มีซ้ำกัน 2 คนไม่ได้ในเวลาเดียว
การที่คนหนึ่งใช้อยู่ จะนำไปกำหนดให้อีกคนใช้ไม่ได้
แต่หากคนเก่าไม่ได้ใช้แล้ว ก็สามารถกำหนดให้อีกคนใช้ได้
แบบนี้ไม่เรียกว่าซ้ำนะครับ คำว่าซ้ำหมายถึง พร้อมกัน
แต่ในที่นี้คือกำหนดให้ครั้งละ 1 คน ไม่พร้อมกัน
เข้าใจตรงกันนะ