อีกกระทู้นึงจากเวปตำรวจภูธร >>
http://www.ptmton.police7.go.th/index.php?option=com_content&task=view&id=187&Itemid=131"ไฟตัดหมอก” ถือกำเนิดขึ้นมาในแถบประเทศที่มีภูมิประเทศเป็นภูเขาสูง หรือแถบที่อากาศ หนาวหรือประเทศที่เป็นเกาะล้อมรอบด้วยน้ำ ทำให้มีฝนตกบ่อยตลอดทั้งปี มีบรรยากาศที่ขมุกขมัวหรือมีหมอกเป็นส่วนมาก หรือมีหมอกมีฝนมากกว่าเวลาที่อากาศปลอดโปร่ง ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยานพาหนะจึงมีการคิดค้นไฟตัดหมอกขึ้นมา
ไฟตัดหมอกจะใช้ไฟที่ให้ความสว่างสูง ส่วนใหญ่หลอดจะเป็นสปอตไลท์ ส่องในระนาบขนานกับพื้นถนนหรือตกพื้นในระยะไกล ดังนั้นความสว่างจึงมีมากและไปได้ไกล เพราะหลอดไฟหน้ามุมจะตกลงพื้นถนน แต่ไฟตัดหมอกจะส่องขนานไปกับพื้นถนนหรือตัวรถ หลอดไฟหน้าปกติถ้าเปิดส่องในขณะที่หมอกจัดหรือ ฝนตกหนักเพราะมุมที่เอียงลงจึงทำให้เกิดมุมสะท้อนกลับสู่สายตาของผู้ขับขี่ จึงทำให้แสงที่ส่องผ่านไปมีน้อยหรือมองเห็นแค่ในระยะไม่เกิน 10-15 เมตร แถมแสบตากับแสงที่สะท้อนกลับ แต่ไฟตัดหมอกที่ส่องแบบขนานพื้นจะไม่สะท้อนมาที่ห้องโดยสารสามารถทะลุทะลวงได้มาก และสะท้อนกลับมาก็ในมุมที่
ไม่กระทบผู้ขับขี่ ทำให้มองเห็นได้ในระยะมากกว่า 30-80 เมตร