เล่าสู่กันฟัง วิธีดูสัญญานไฟจากรถใหญ่บนทางหลวง

[แฮมโคราชา]

เป็นประโยชน์มากเลย

[hs9ihf]

ได้ความรู้เยอะเลยครับ ขอบคุณครับ   

[razor1234]

ขอบคุณ สำหรับสาระดีๆ

[wasu]

 รถใหญ่นิสัยไม่ดี (เวลาเบรคชอบตดให้เราฟัง)

[jube]

รถใหญ่นิสัยไม่ดี (เวลาเบรคชอบตดให้เราฟัง)

ไปถอดขายเลยตัวละเป็นหมื่นจ้าถ้าจำไม่ผิดนะ

[hs2phh]

ขอบคุณครับ

[hs1amm]

ระบบสัญญาณไฟที่กล่าวมานี้ ประวัติการใช้งานก็เมื่อตอนอเมริกาเข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศไทย โดยพวกขนส่ง 10 ล้อเป็นผู้นำมาใช้คิดกันเองหลายๆรูปแบบจนเป็นที่นิยม เหตุที่ต้องใช้เพราะถนน มี 2 เลน รถบรรทุกวิ่งช้า เมื่อมีรถตามหลังก็ต้องส่งสัญญานเตือนให้ทราบเพื่อความปลอดภัย วันก่อนไป ตจว เราก็รีบเจอ 2 แถวนำหน้า ถนน 2 เลน มันก็วิ่งช้า ที่น่าด่าเพราะ เด็กท้าย แม่งโบกมือให้แซงลูกเดียวไม่ได้ดูว่าข้างหน้ารถมันว่างหรือเปล่าพอแหย่หัว หน้าสวน เล่นให้พร ขอให้ พ่อ แม่ญาติมันมานั่รถ ตรู แล้วตรูจะขับรถพวงมาลัยซ้ายแซงให้ดู

ที่น่าเป็นห่วง แจ้งเจ้าหน้าที่รับผิดชอบไปหลายครั้งก็เงียบ คือ ไฟท้ายรถรุ่นใหม่ ใช้ LCD สีแดง มันสว่างมากเกินไป แล้วแสงสีแดงที่พุ่งมาหาตาเรานั้นมันอันตรายจะทำให้ตาเราบอดได้หากได้รับแสงนานๆ(น้องเลเซอร์) บอกใครก็หาว่าเราบ้าคิดมากไปไม่ทันสมัย  ขับรถตามหลังนานๆยิ่งกลางคืนปวดตาชมัด เตือนมาร่วม 3 ปีแล้วเพราะไปอ่านเจอในนิตยสารเรื่องความถี่แสงที่เป็นอันตรายกับดวงตา จนเมื่อ3-4 วันก่อนหนังสือพิมพ์ลงข่าวว่า แสงจากไฟ LED ท้ายรถ เป็นอันตรายกับสายตาถึงขั้นบอดได้ประเทศไหนจำไม่ได้ จะเป็นสเปนหรือไงนี่ ผู้ให้ข่าวเป็นนายแพทย์ซะด้วย แล้วมันจะแก้ไขกันมั้ยนี่ ใครติดก็อย่าให้สว่างมากนักสงสารคนขับรถตามหลังบ้างเถอะ

แถมอีกอย่าง ใครที่ชอบใช้โทรศัพท์ในรถ และเครื่องโทรศัพท์ที่มีกำลังส่งสูง เช่น 1 วัตต์ ขึ้นไปเห็นมีโฆษณา อย่าโทรในรถ ให้โทรในที่โล่ง โทรอย่ายืนพิงวัตถุที่เป็นโลหะ ทำไมหรือ เพราะเมื่อเราใช้โทรศัพท์ สัญญานจะวิ่งผ่านศรีษะเราไปอีกด้านจนทะลุ หากไปกระทบกับวัสดุที่เป็นโลหะมันจะย้อนกลับทำให้เนื้อเยื่อสมองเราเกิดการสั่นจะมีอาการปวดหัวในขั้นแรกใช้นานๆท่าน มะ จะมาอย่ด้วย (ไม่ใช่ลามะ)มันเป็นแบบเดียวกับเตาไมโครเวป ยิ่งคลื่น 1.2 จิ๊กอันตรายมาก ในเตาไมโครเวป ใช้ความถี่ 900-1.5 จิ๊ก ครับ หากแย้งมาว่าไม่จริงบริษัทเขาต้องป้องกันดีแล้ว หากท่านมีเวลาว่างๆ เอาในที่ไม่มีลมพัดในห้องก็ได้ หาถาดสังกะสี กาละมังก็ได้ เอากระดาษหนังสือพิมพ์ ขยำแล้วเอาน้ำมันไฟเ๙็ค หรือน้ำมันเบ็นซิลลาดให้ชุ่ม  ทีนี้ท่านเอาโทรศัพท์ของท่านส่งสัญญานติดต่อใครก็ได้ให้ห่างจาก กระดาษชุบน้ำมัน สักคืบเดียว กดส่งหลายๆที่ทำมุมต่างๆดู ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สัญญานจากโทรศัพท์จะวิ่งผ่านกระดาษชุบน้ำมันผ่านทะลุไปยังถาดสังกะสีหรือกะละมังแล้วสะท้อนกลับมาชนกับสัญญานที่ส่งออกจากเครื่องเกิดความร้อน แบบเตาไมโครเวป โมเลกุลของน้ำมันเกิดการเสียดสีจนร้อนแล้วลุกเป็นไฟ ตัวใครก็ตัวมันนะครับ เรื่องแบบนี้ผมเคยบอกตั้งแต่สมัยมผมใช้เครืองโทรศัพท์ 470Mhz 15 W โทรเมื่อไรปวดห้วทุกทีเพราะเครื่องอยู่ในรถ จนพบกับเพื่อนวิศกรต่างชาติเขาก็บอกให้ทราบ แต่บริษัทมันจะขาย มันก็อ้างว่าปลอดภัย เดียวนี้มีคำสั่งห้ามเด็กอายุน้อยๆห้ามใช้โทรศัพท์ มันต้องให้เราตายก่อนถึงจะห้าม แล้วตรูจะมี มะ อยู่ให้หัวหรือเปล่านี่ จากแหล่งข่าวปัจจุบันมีคนมีมะอาศัยอยู่ในสมองมากขึ้นผิดปกติระหว่าง 20 ปีที่ผ่านมาเทียบ ปีต่อปี เครียดมากๆๆ เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่ท่านไม่บังคับ

[E20IVU]

  ดีครับพี่จวบได้ประโยชน์ดีแบ่งปันความรู้ครับ

[teepapan]

เพิ่มเติมนิดหนึ่งครับ
ไฟฉุกเฉิน หรือ ที่เราเรียกว่าไฟ ขอทาง ที่เปิดแล้ว กระพริบหมดทุกดวง จริงๆแล้ว เป็นไฟฉุกเฉิน ที่ใช้ในยามที่รถ เสียและหยุดจอดข้างไหล่ทางนะครับ
ไม่ใช่ เอาไปเปิดตอนที่ วิ่งผ่าน สี่แยก หรือสามแยกนะครับ หากเปิดไฟฉุกเฉินบริเวณ แยก ต่างๆ จะทำให้ รถที่จอดรอเลี้ยว จะมองเห็นด้านเดียว
เช่น รถเราจอดที่ สี่แยก จะเลี้ยวซ้าย เมื่อเห็นรถทางขวา เปิดไฟฉุกเฉิน เราจะเห็นไฟด้านซ้ายของรถทางขวา
เราจะคิดว่าเค้าจะเลี้ยวซ้าย สิ่งที่ตามมาคือการชน ประสานงา ที่สี่แยก ขึ้นได้ครับ
งง มั๊ยครับ นี่

สรุป  คือ ห้ามเปิดไฟฉุกเฉิน ที่ สี่แยก ครับ

http://www.oknation.net/blog/car/2007/06/11/entry-1

[umnad]

ไฟหรี่ คือไฟที่ใช้จอด ไม่ใช่เปิดไฟหรี่แล้วขับไปเรื่อยๆ เพราะยังไม่มืดสนิทดี
ไฟตัดหมอก คือไฟที่ใช้สำหรับ หมอกลงจัด หรือฝนตกหนัก ไม่ใช่เปิดตะพึดไปเรื่อย
เวลาฝนตก ควรเปิดไฟใหญ่ เพื่อที่ให้รถคันที่อยู่ข้างหน้าเราจะได้เห็นเรา ไม่ใช่เปิดแค่ไฟหรี่
ไฟแสงสี ไม่ควรเปิดพร่ำเพรื่อ เพราะคนอื่นจะตาลาย
ไฟ วับวาบ แดงน้ำเงิน มีไว้ใช้เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน ไม่ใช่มีไว้เปิด เวลาพาหมาไปขี้
ไฟเลี้ยว มีไว้เปิด เพื่อเตรียมจะเลี้ยว ไม่ได้มีไว้เปิด ตอนเลี้ยวไปแล้ว