*** sanook.com ***
นักข่าวอ้างตัวเป็นตำรวจ รีดไถร้านเกมทั่วเชียงราย สุดเถื่อนชักปืนยิงขู่ ตบพนักงาน-พังข้าวของเสียหาย โดนจับไม่ยอมลงชื่อรับทราบข้อกล่าวหา
(9 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีคนนำคลิปวีดีโอผ่านทางสังคมออนไลน์ แฉพฤติกรรมกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อ้างตัวเป็นตำรวจ บุกเข้าไปในร้านเกม-อินเทอร์เน็ต ชื่อร้านเวอร์จิ้นเน็ต เลขที่ 665/4 ถ.ศรีเกิด เทศบาลนครเชียงราย อ.เมืองเชียงราย โดยภาพในคลิปวิดีโอเป็นภาพในกล้องวงจรปิดของร้าน มีกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว เข้าไปตบต่อยคนดูแลร้านทั้งชาย-หญิง ก่อนจะชกต่อยกับเจ้าของร้าน และออกไปที่หน้าร้านถีบรถจักรยานยนต์ของผู้ที่มาใช้บริการจนล้มคว่ำหลายคัน รวมทั้งได้ชักอาวุธปืนพกสั้นยิง เพื่อข่มขู่อีกหลายนัด
จากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.ของวันที่ 8 ก.ย. สภ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งมีเหตุรุนแรงขึ้นที่ร้านเกมส์ดังกล่าว จึงไปตรวจสอบพบชาย 2 คน กำลังทะเลาะวิวาทกับคนในร้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบเข้าไประงับเหตุ แต่ชายทั้งคู่ได้เดินเลี่ยงไปข้างร้าน ก่อนจะมีเหตุตะลุมบอนกันขึ้นอีก ซึ่งชายอีกคนกลับยิงปืนขึ้นฟ้าอีก 3 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบเข้าจับกุม และควบคุมตัวไปที่โรงพัก
ส่วนชายฉกรรจ์ทั้งคู่นั้น ทราบว่าเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นคนหนึ่ง และผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ส่วนกลางอีก 1 คน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาครอบครองอาวุธปืนและพกพาอาวุธปืนเข้ามาในเมืองโดยไม่มีเหตุอันสมควร และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ทั้งคู่ให้การปฏิเสธและไม่ยอมลงชื่อรับทราบข้อกล่าวหา ล่าสุดได้มีการประกันออกไปสู้คดีแล้วด้วยวงเงินรวมทั้ง 2 คน ประมาณ 200,000 บาท
นายธัชพล พันธุศิลป์ อายุ 32 ปี เจ้าของร้านเวอร์จิ้นเน็ต กล่าวหลังเข้าแจ้งความว่า ก่อนหน้านี้ได้ถูกคนกลุ่มเดียวกันนี้ร่วมกับชายฉกรรจ์อีก 2 คน รวมเป็น 4 คน อ้างเป็นตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ เข้าไปตรวจร้านเกมอ้างว่าปล่อยให้เด็กเข้าไปเล่นเกินเวลา แต่กลุ่มชายฉกรรจ์ได้ต่อรองให้จ่ายเงินให้เดือนละ 2,000-3,000 บาท แต่คนไม่ยอมจ่ายกลุ่มคนเหล่านี้จึงแยกย้ายไป กระทั่งคืนเกิดเหตุ ได้รับแจ้งจากคนเฝ้าร้านว่ามีคนเข้าไปที่ร้านอีก ซึ่งเด็กผู้หญิงหน้าร้านบอกกลับไปว่า ร้านมีใบอนุญาตถูกต้อง จึงถูกตบทันทีทั้งยังไล่ทำร้ายพนักงานคุมร้าน ทั้งชายและผู้หญิงรวม 2 คน พร้อมกับพยายามพังคอมพิวเตอร์ ก่อนออกมาถีบจักรยานยนต์หน้าร้านจนล้มหลายคัน
นายธัชพล กล่าวอีกว่าเมื่อตนไปถึงที่ร้านก็ถูกขว้างปาสิ่งของเข้าใส่และชกต่อย ก่อนที่จะเอาปืนจ่อที่ตนพร้อมข่มขู่ และยึดกุญแจรถจักรยานยนต์ไป ตนตกใจวิ่งเข้าไปในร้านก็เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุแล้ว ทั้งนี้หลังเกิดเหตุได้มีคนพยายามโทรศัพท์ไปขอให้ถอนแจ้งความ แต่ตนไม่ยอมและจะต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด และยังทราบว่าพฤติกรรมเช่นนี้เกิดขึ้นกับร้านอื่นเช่นกัน