ขออนุญาตเปลี่ยนบรรยากาศมาทางโลกธรรมนะครับ
มีตัวอย่างมากมายครับที่แสดงให้เห็นว่าเมื่อทำกรรรมอย่างใดแล้ว กรรมจะตามสนองอย่างเหลือเชื่อ และมีจำนวนมากที่สะท้อนให้เห็นในชาตินี้เลย
ผู้หญิงคนหนึ่งมีสามีเป็นคนทุบหัวหมูในโรงฆ่าสัตว์ ผู้หญิงคนนี้ร้อยวันพันปีไม่เคยเข้าไปดูเลย แต่ก็มีเหตุดลใจให้เข้าไปนั่งดูสามีเอาค้อนทุบหัวหมูให้ตายเพื่อนำไปเชือดต่อ
แต่ในขณะที่สามีกำลังเงื้อมค้อนขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อจะฟาดหัวหมูนั้น หัวค้อนกลับหลุดกระเด็นไปกระแทกกับเบ้าตาของผู้หญิงคนนี้อย่างจังจนสลบไป
ส่วนสามีตอนแรกก็ไม่เอะใจ แต่เมื่อหันหลังก็เห็นภรรยานอนแน่นิ่งอยู่จึงรีบพาไปนอนที่บ้าน เมื่อภรรยาฟื้นก็คร่ำครวญร้องไห้อย่างทุกทรมานขอให้พาไปโรงพยาบาล แต่ด้วยกรรมซ้ำกรรมซัด สามีไม่มีเงินซักบาทจึงต้องรีบออกไปจับปลามาขายได้สิบบาทเป็นค่าเดินทางไปโรงพยาบาล
และในที่สุด ผู้หญิงคนนี้ก็ต้องตาบอดข้างหนึ่งไปตลอดชีวิต และเมื่อเพื่อนสนิทมาเยี่ยม ผู้หญิงคนนี้ก็บอกกับเพื่อนว่านี้เป็นผลของกรรมเค้าเองแหล่ะ ส่วนเพื่อนก็สงสัยว่าไม่เห็นเธอจะไปทำบาปอะไรเลย แฟนของเธอสิเป็นคนทุบหัวหมูน่าจะบาปหนัก
ผู้หญิงตาบอดจึงบอกว่านึกดูให้ดีสิ ตอนเราอายุ 10 ขวบ เราเคยไปตกปลาด้วยกัน แล้วตอนที่ตกปลา เราเห็นตาปลามันใสก็แปลกใจว่ามันมองเห็นได้ไง จึงลองเอาไม้ไปจิ้มตามัน เธอก็ห้ามแล้วว่าอย่าทำ เดี๋ยวมันตาย เราเลยจิ้มตาแล้วปล่อย มันก็ดิ้นไปดิ้นมา ไม่เห็นตายเลย และเมื่อไปตกปลาอีกก็ทำอย่างนี้รวมเป็นร้อยตัว และนี่เป็นผลกรรมที่เราทำ
และนี่คืออีกตัวอย่างของผลกรรมที่สะท้อนให้เห็นโดยไม่ต้องรอชาติหน้า ส่วนสามีของผู้หญิงตาบอดคนนี้ก็เลิกอาชีพทุบหัวหมูแล้วรีบทำบุญกุศลเพราะกลัวซักวัน กรรมจะตามทัน !
อ่านแล้วคงไม่ว่ากันนะครับ
ผมว่าดีนะ บางครั้งเราหยุดแล้วมองกลับไปดูบางสิ่งที่เรากระทำไป บางครั้งเราอาจจะไม่ได้มุ่งหวังไว้ แต่ไปกระทบโดนผู้อื่นก็มี ทั้งที่เราเองก็ไม่ได้เจตนา แต่อีกละความที่เรายังต้องดำรงชีวิตอยู่ มันก็ต้องมีบ้าง แต่ถ้าได้มีโอกาสหยุดคิดและทำสิ่งที่ให้เราสบายใจขึ้นบ้างก็น่าจะดี ทางสายกลางกับคำว่า เราหยุดแล้วเจ้าหยุดหรือยัง
