พระพุทธเจ้าสอนไว้นานแล้วครับเรื่ิองเหล่านี้โลกเราก็เหมือนเซลล์ๆหนึ่งในเอกภพ ซึ่งความจริงแล้วไม่มีอะไรเลยเปรียบเสมือนวงจรชีวิตของยุงที่มีอยู่แค่ 7 วัน มนุษย์มีวงจรชีวิตไม่เกิน 80 ปี โลกเราก็มีอายุมาไม่รู้กี่พันปีกี่หมื่นปีแต่ทุกวันนี้คนเรายังหาสัจธรรมหรือความจริงยังไม่เจอ ยังคงมีกามตัณหา หมายถึง ความอยากพื้นฐานของมนุษย์ซึ่งเกิดจากการอยากสนองประสาทสัมผัสทางตา(อยากเห็นรูปสวยๆ) หู(อยากฟังเสียงเพราะๆ) จมูก(อยากดมกลิ่นหอมๆ) ลิ้น(อยากลิ้มรสอร่อย) กาย(อยากสัมผัสนุ่มนวล) ใจ(อยากคิดอย่างที่ใจต้องการ) ทุกวันนี้ชาวพุทธเรายังนับถือศาสนาก็แค่ในบัตรประชาชนหรือในทะเบียนบ้าน ทุกวันนี้จึงมีแต่การทะเลาะกันเพื่อได้สิ่งที่ตัวเองต้องการไม่สนใจว่าจะถูกหรือผิดเป็นมาตั้งแต่ผู้นำยันผู้ตามเอาระบบทุนนิยมมาใช้มองคนที่ทรัพย์สินภายนอก ลองมองคนที่ทำอะไรดีๆให้สังคมก็บอกว่าคนบ้าทำไปทำไมทำไปก็ไม่ได้อะไร ถ้าคนเรายังเป็นอย่างนี้อยู่ใช้ทุกอย่างเกินความจำเป็นนำทรัพยากรณ์ธรรมชาติมากักตุนกันไว้ เราทุกคนก็คงถูกธรรมชาติลงโทษตามสัจธรรมเพราะมนุษย์ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน เช่น อเมริกาเป็นผู้นำของโลกก็ยังเอาชนะกับภัยธรรมชาติไม่ได้เลย เราเองก็คงเห็นตัวอย่างจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นอย่างดีสำหรับกรณีน้ำท่วมไม่ว่าจะรวยแค่ไหนหรือจนแค่ไหนศักดิ์ศรีของความเป็นคนเท่ากันมีเงินก็ใช้ไม่ได้ มีรถก็ขับไม่ได้ มีบ้านก็ยังอยู่ไม่ได้ แม้จะมีเงินมากเท่าไหร่ก็ไม่สามารถหาซื้ออาหารได้ ฉะนั้นจงอย่าลืมว่าเราเกิดมาแล้วที่ว่าเป็นสัตว์ประเสริฐนั้นคือสามารถคิดได้ รู้ดีรู้ัชั่ว รู้อะไรควรทำไม่ควรทำ อย่าทำตัวตัวเหมือนสัตว์เดรัจฉานกันอยู่เลย แค่ในโลกนี้ของเราก็ยังมีอะไรที่ไม่รู้อีกมากมาย อย่าเพิ่งคิดไกลไปนอกโลกเลยเหมือนในประเทศใหญ่ที่กำลังเป็นกันอยู่่