HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND
06 กรกฎาคม 2024, 21:52:36 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: สมาชิกคนเดียว อนุญาตให้มี1 acc ห้ามสมัครหลาย acc ไม่ว่าเพื่อการใดก็ตาม
หากมีการตรวจพบหรือมีผู้แจ้งให้ตรวจสอบ และตรวจสอบเจอ ถือว่าผิดกฎ มีโทษแบนยาว
หลังจากนั้นหากมีการรายงานหรือตรวจพบมีพฤติกรรมใช้หลาย acc ให้คุณ/ให้โทษ กับ ตนเอง/พวกพ้อง/ผู้อื่น หรืออำพรางนิติกรรมใดๆ มีโทษแบนถาวร
กรุณารักษากฎระเบียบประกาศนี้อย่างเคร่งครัดด้วยครับ
Google
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  


หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุเกิดเมื่อผมแมทสายอากศ5/8 ให้ได้ค่า 1 ต่อ 1  (อ่าน 13948 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
hs2phh
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3994


シラチャハムクラブ


« ตอบ #20 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2012, 14:16:43 »

กระทู้นี้ดีครับ แชร์ประสพการณ์ได้ดีจริงๆ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

บันทึกการเข้า

     
HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND
« ตอบ #20 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2012, 14:16:43 »

พื้นที่โฆษณา ขาย เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัตโนมัติ CTEK จาก สวีเดน ดีที่สุด/ถูกที่สุด+ประกัน5ปี
คลิ้กไปดูที่ลิ้งค์ข้างล่างเลยครับ
http://www.spy-thai.com/


GPS ติดตามรถหาย ดักฟังเสียงสนทนาในรถ หรือระบุตำแหน่งรถ สั่งดับเครื่อง
ติดตามรถได้ทั่วไทยโดยไม่มีค่าบริการรายเดือน / Tel. 086-9455977
 บันทึกการเข้า
WCS-2008
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1837


E27DCU™ 145.4250MHz อ.เมือง ระยอง [CB245 CH-35]


« ตอบ #21 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2012, 14:26:26 »


ผมใช้ต้นนี้อยู่ ซื้อมาตอนแรกรับส่งดีมาก วัดค่าSWRได้ 1.5:1ผมเห็นว่ามันสูงไปเลยตัดออก 1 ซม. SWR ลงมาอยู่ที่ 1.2:1 เชื่อไหมครับว่า กำลังส่งเท่าเดิมแต่ เวลารับส่งแย่กว่าเดิม เพื่อนสมาชิกบอกเมื่อสักครู่รับดีกว่า (วัดที่ S มิเตอร์ปลายทางครับ หายไป 3-4 เม็ด จากเต็มจอ) ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นที่อะไร ก็ งง เหมือนกันครับ  ร้องไห้ ร้องไห้

 อันนี้ชัดเจนครับ ตัดออก 1cm นี่แหละคือเหตุผลที่รับส่งได้แย่กว่าเดิมครับ ไม่ใช่เพราะ swr ต่ำแล้วรับส่งไม่ดี

ต้องเข้าห้องเรียนกันใหมหรือเปล่าครับ  ค่า swr/vswr คืออะไร? ผมก็ไม่รู้นะครับ ถึงได้ตั้งคำถาม  ยิงฟันยิ้ม อาจารย์มาสอบผมหน่อยครับ
บันทึกการเข้า

HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND
« ตอบ #21 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2012, 14:26:26 »

 บันทึกการเข้า
WCS-2008
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1837


E27DCU™ 145.4250MHz อ.เมือง ระยอง [CB245 CH-35]


« ตอบ #22 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2012, 14:40:02 »

ต้องเข้าห้องเรียนกันใหมหรือเปล่าครับ  ค่า swr/vswr คืออะไร? ผมก็ไม่รู้นะครับ ถึงได้ตั้งคำถาม  ยิงฟันยิ้ม อาจารย์มาสอบผมหน่อยครับ


ถามเองตอบเองครับ ยิงฟันยิ้ม  อ้างข้อความเก่าของอาจารย์พรที่เคยอธิบายไว้อย่างชัดเจนครับ

ค่า VSWR เป็นค่าที่บอกถึงประสิทธิภาพในการถ่ายทอดพลังงานจากเครื่องส่ง ไปยังตัวสายอากาศ แต่ประสิทธิภาพในการแพร่กระจายสัญญาณออกจากสายอากาศ ออกไปในอากาศ ขึ้นกับโครงสร้างรูปร่างของสายอากาศ และสภาพแวดล้อม ไม่เกี่ยวกับค่า VSWR

ตัวอย่างเช่นเครื่องส่งปล่อยออกมา 100 วัตต์ ถ้า VSWR เป็น 1:1 ก็หมายความว่ากำลังงานทั้ง 100 วัตต์ที่ถูกปล่อยออกมา จะสามารถถ่ายเทไปที่สายอากาศได้ทั้งหมด (สมมุติว่ายังไม่คิดเรื่องการสูญเสียในสายนำสัญญาณ) แต่สายอากาศอาจจะมีโครงสร้างที่ไม่ดี ทำให้แพร่กระจายกำลังงานออกไปในอากาศได้แค่ 60 วัตต์เท่านั้น อีก 40 วัตต์จะกลายเป็นความร้อนตามส่วนต่างๆของโครงสร้าง และ 60 วัตต์ที่เหลือที่กระจายออกไปในอากาศนั้น อาจจะถูกขวางกั้น หรือถูกดูดซับด้วยสภาพแวดล้อมรอบข้างใกล้ๆ เช่นโครงสร้างบ้าน ต้นไม้ พื้นดิน ฯลฯ ได้อีก จึงเหลือกำลังงานส่วนที่จะแพร่กระจายออกไปได้ไกลๆน้อยลงไปอีก

"...เป็นไปได้ไหมว่า ค่าswr 1:1.1 เป็นผลให้ การรับส่งไม่ดี..."
VSWR ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพการรับส่งแต่อย่างใดดังที่ได้อธิบายไปข้างต้นครับ แต่การปรับแมทชิ่งซึ่งโดยปรกติจะทำด้วยการปรับแต่งโครงสร้าง เช่นความสั้นยาวของส่วนประกอบต่างๆของสายอากาศ จึงมีผลทำให้รูปแบบการแพร่กระจายคลื่นเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมได้ เช่นอาจจะทำให้มีมุมยิงสูงขึ้นฟ้ามามากกว่าเดิม หรือมูมกระจายคลื่นกว้างกว่าเดิม จึงมีผลต่อการรับส่งอย่างแน่นอน แต่อย่าไปผูกความสัมพันธ์ว่า VSWR ต่ำๆ แล้วจะรับส่งไม่ดี มันคนละเรื่องกันครับ

บันทึกการเข้า
birdte
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1445


HS3WZY


« ตอบ #23 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2012, 16:22:45 »

ต้องเข้าห้องเรียนกันใหมหรือเปล่าครับ  ค่า swr/vswr คืออะไร? ผมก็ไม่รู้นะครับ ถึงได้ตั้งคำถาม  ยิงฟันยิ้ม อาจารย์มาสอบผมหน่อยครับ


ถามเองตอบเองครับ ยิงฟันยิ้ม  อ้างข้อความเก่าของอาจารย์พรที่เคยอธิบายไว้อย่างชัดเจนครับ

ค่า VSWR เป็นค่าที่บอกถึงประสิทธิภาพในการถ่ายทอดพลังงานจากเครื่องส่ง ไปยังตัวสายอากาศ แต่ประสิทธิภาพในการแพร่กระจายสัญญาณออกจากสายอากาศ ออกไปในอากาศ ขึ้นกับโครงสร้างรูปร่างของสายอากาศ และสภาพแวดล้อม ไม่เกี่ยวกับค่า VSWR

ตัวอย่างเช่นเครื่องส่งปล่อยออกมา 100 วัตต์ ถ้า VSWR เป็น 1:1 ก็หมายความว่ากำลังงานทั้ง 100 วัตต์ที่ถูกปล่อยออกมา จะสามารถถ่ายเทไปที่สายอากาศได้ทั้งหมด (สมมุติว่ายังไม่คิดเรื่องการสูญเสียในสายนำสัญญาณ) แต่สายอากาศอาจจะมีโครงสร้างที่ไม่ดี ทำให้แพร่กระจายกำลังงานออกไปในอากาศได้แค่ 60 วัตต์เท่านั้น อีก 40 วัตต์จะกลายเป็นความร้อนตามส่วนต่างๆของโครงสร้าง และ 60 วัตต์ที่เหลือที่กระจายออกไปในอากาศนั้น อาจจะถูกขวางกั้น หรือถูกดูดซับด้วยสภาพแวดล้อมรอบข้างใกล้ๆ เช่นโครงสร้างบ้าน ต้นไม้ พื้นดิน ฯลฯ ได้อีก จึงเหลือกำลังงานส่วนที่จะแพร่กระจายออกไปได้ไกลๆน้อยลงไปอีก

"...เป็นไปได้ไหมว่า ค่าswr 1:1.1 เป็นผลให้ การรับส่งไม่ดี..."
VSWR ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพการรับส่งแต่อย่างใดดังที่ได้อธิบายไปข้างต้นครับ แต่การปรับแมทชิ่งซึ่งโดยปรกติจะทำด้วยการปรับแต่งโครงสร้าง เช่นความสั้นยาวของส่วนประกอบต่างๆของสายอากาศ จึงมีผลทำให้รูปแบบการแพร่กระจายคลื่นเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมได้ เช่นอาจจะทำให้มีมุมยิงสูงขึ้นฟ้ามามากกว่าเดิม หรือมูมกระจายคลื่นกว้างกว่าเดิม จึงมีผลต่อการรับส่งอย่างแน่นอน แต่อย่าไปผูกความสัมพันธ์ว่า VSWR ต่ำๆ แล้วจะรับส่งไม่ดี มันคนละเรื่องกันครับ

แหล่มเลย
ใครต้องการทำสายอากาศแบบจริงจัง ต้องหาหนังสือ วัสดุวิศวกรรม มาอ่านเพิ่มเติมความรู้ อิอิ
ผลจากการคำนวณค่าต่างๆในการทำสายอากาศจะใกล้เคียงความจริงที่สุด เราต้องรู้ค่าต่างๆของวัสดุที่นำมาทำสายอากาศด้วย
(ซึ่งผมไม่จริงจังขนาดนั้น 55555)
ข้อแตกต่างที่สังเกตได้ง่ายของการเลือกใช้วัสดุ เช่น อลูมิเนียมทรงตัน กับแบบกลวง ต่างกันยังไง ลองหาดูในกูเกิลครับ มันเกี่ยวกับการแพร่กระจายคลื่นด้วย

แต่ลวดทองเหลืองหลายท่านในเว็บนี้ก็สามารถนำมาทำเป็นสายอากาศที่แหล่มๆได้เยอะแยะ เทพมาก ผมยังทำแต่ 1/4 อยู่เลย
ต้องเดินสายกลางครับเลือกการกระจายคลื่นให้ดีและการส่งผ่านสัญญาณที่ดีอย่ายึดติดอันเดียว
บันทึกการเข้า

(เบิร์ด) Tel.0827508146
WCS-2008
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1837


E27DCU™ 145.4250MHz อ.เมือง ระยอง [CB245 CH-35]


« ตอบ #24 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2012, 17:58:12 »

 แหล่งข้อมูลจาก Google บางครั้งก็ไม่ถูกต้องเสมอไปครับ เข้าไปอ่านได้ แต่อย่าพึ่งเชื่อครับ พิจณาหลายๆเหตุผลและหลายๆแหล่งข้อมูล
จะได้ไม่เชื่อแบบผิดๆอยู่ร่ำไป สึ่งที่เราคิดว่าถูกต้องเมื่อ 10-20ปีที่ผ่านมา วันนี้อาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้ครับเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนไป
ต้องอธิบายได้ครับ ว่า swr ต่ำทำไมรับไม่ดี swr สูงทำไมรับดี มันเป็นวิทยาสาตร์ครับไม่ใช่ไสยศาตร์ ทุกอย่างมีคำอธิบาย
ผมเคยฟังเพื่อนสมาชิกคุยกันบนความถี่เรื่องการแมทช์สายอากาศไห้ค่า swr ต่ำ ผมถามไปว่าทำไม่ต้องแมทช์ไห้ swr ต่ำ
เขาตอบมาว่าแมทช์ไห้ต่ำจะได้รับส่งได้ดี ผมก็อธิบายว่ามันไม่เกี่ยวกับค่า swr โดยตรงพร้อมอธิบายเหตุผล สุดท้ายผมโดนรุมด่าครับ  ยิงฟันยิ้ม
หาว่าผมมั่ว บางครั้งเราจะเปลี่ยนความเชื่อของคนบางกลุ่มทำได้ยาก__มาก หรือทำไม่ได้เลย พิมพ์ออกไปขัดแย้งกับความเชื่อของเพื่อนๆ
เพื่อนๆก็เคื่องผมอีก ถ้าผิดพลาดต้องขออภัย ถ้าผิดใจผมขอโทษครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 พฤษภาคม 2012, 20:11:44 โดย WCS-2008 » บันทึกการเข้า
jariyasak
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 238


« ตอบ #25 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2012, 20:05:17 »

ต่อเพิ่มจากข้อความข้างบน
    ผมได้ยินมาในวิทยุ ในรีีพีท
        ท่านตัดสายนำสัญญานวิทยุให้ลงแลมด้ารึยัง
ในใจผมนั่งนึกอยู่ว่าตัดให้ลงแลมด้าเพื่อ ฮืม
ผมเข้าใจว่าคนที่พูด  ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดและอาจฟังมาอีกทีหรือเข้าใจเอาเอง แล้วคนที่ฟังเขาต่ออีทีละ ฮืม
จบกัน ปนกันนัวเลย
 สายนำสัญญาณเพื่อนำสํญญาณ กับ สายนำสัญญาณมาทำสายอากาศ หน้าที่ต่างกัน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 กันยายน 2012, 13:32:00 โดย jariyasak » บันทึกการเข้า
7aaw
Sr. Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 362


deep people And perjury Group...


« ตอบ #26 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2012, 21:19:04 »

http://antenna-km.blogspot.com/2011/03/swr-101.html

ค่อยๆอ่าน แล้ว ค่อยๆทำความเข้าใจ ที่ละนิด ...

การปรับแต่งค่า SWR ของสายอากาศจนกระทั่งมีค่าเท่ากับ 1.0:1 แล้วทำให้ส่งกำลังไม่ออกนั้น เพราะเกิดจากการที่เราปรับสายอากาศจนเปลี่ยนสภาพกลายเป็นโหลดเทียม (Dummy Load) ไปแล้วนั้น น่าจะเกิดจากการเข้าใจผิดพลาดในส่วนที่เป็นค่าอิมพีแดนซ์ของสายอากาศที่ตามทฤษฎีบอกไว้ว่าค่าอิมพีแดนซ์ของสายอากาศต้องเท่ากับ ZA=RA+jXA และเข้าใจว่าการทำให้สายอากาศเกิดสภาวะเรโซแนนท์ที่สุดนั้นต้องกำจัดค่า +jXA  ออกไปให้หมดสิ้นเพื่อทำให้ค่า ZA=RA+0 โอห์ม แต่ในทางทฤษฎีนั้นการที่ทำให้ค่า jXA =0 ได้นั้น เกิดจากการนำค่าของ jXA ที่เป็นค่าตรงกันข้ามใส่เพิ่มเข้าไปให้กับตัวสายอากาศ เช่น หากค่าอิมพีแดนซ์ของสายอากาศของเราก่อนที่จะทำการแมตชิ่งหรือเพื่อปรับค่า SWR มีค่าเท่ากับ ZA=RA+jXA  ดังนั้นหากเราต้องการทำให้ค่าอิมพีแดนซ์กลายเป็น ZA=RA+0 ก็จะกระทำได้โดยการเพิ่มค่า -jXA  เข้าไป ค่าอิมพีแดนซ์ของสายอากาศก็จะกลายเป็น ZA=RA+jXA-jXA = RA+0 โอห์มตามต้องการ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเราตัดค่า +jXA ทิ้งออกไปจากตัวสายอากาศเลย แต่เป็นการนำคุณสมบัติที่ตรงกันข้ามและมีค่าเท่ากันเติมเข้าไปให้กับสายอากาศ (โดยที่ +jXA  จะแสดงคุณสมบัติเป็นค่าเหนี่ยวนำหรือ Inductance (XL)ส่วน -jXA จะแสดงคุณสมบัติเป็น Capacitance (XC)) โดยเรียกวิธีนี้ว่า Conjugate Matching ซึ่งในทางปฏิบัติมีวิธีการหลายรูปแบบในการสร้างคุณสมบัติเหล่านี้ขึ้นมาให้กับสายอากาศ และหากค่าอิมพีแดนซ์ของสายอากาศกลายเป็น ZA=RA= 50 โอห์มแล้ว ก็ยิ่งทำให้หลายท่านเข้าใจว่ามันกลายเป็นโหลดเทียมไปแล้วมากยิ่งขึ้น เพราะเข้าใจมาโดยตลอดว่าการใส่โหลดเทียมเข้าไปแทนที่สายอากาศ จะทำให้ไม่เกิดการแผ่คลื่นออกมาจากโหลดเทียม ดังนั้นเมื่อนำสายอากาศที่มีการปรับค่า SWR เท่ากับ 1.0:1 เข้าไปแล้วไม่เกิดการแผ่คลื่นออกไปเช่นเดียวกันกับโหลดเทียม ก็เลยฟันธงไปเต็มๆ ว่าสายอากาศในสภาวะนี้ได้แปลงร่างกลายเป็นโหลดเทียมไปแล้วแน่นอน ซึ่งผมจะไม่ฟันธงต่อไปว่าใครผิดหรือถูก แต่ลองมาทำความเข้าใจทฤษฎีต่อไปนี้กันดีกว่านะครับ
          1. สภาวะของการเป็นโหลดเทียมนั้น ค่าอิมพีแดนซ์ของมันจะต้องมีสถานะเป็นค่าความต้านทานเพียงอย่างเดียว (Pure Resistance) ซึ่งปกติจะถูกผลิตออกมาให้มีค่า 50 โอห์มเท่ากับค่าอิมพีแดนซ์คุณลักษณะของสายส่งที่ใช้งาน และจะต้องปราศจากค่ารีแอกแตนซ์ (XLหรือ XC) ใดๆ เกิดขึ้นหรือเป็นส่วนประกอบในตัวโหลดเทียมนี้ เพราะอาจส่งผลต่อการเรโซแนนท์และทำให้เกิดการแผ่คลื่นผ่านโหลดเทียมนี้ออกไป และที่สำคัญหากนำโหลดเทียมไปวัดค่าการสูญเสียเนื่องจากการย้อนกลับ (Return Loss) หรือวัดค่า SWR จะพบว่าโหลดเทียมสามารถตอบสนองได้ดีตลอดย่านความถี่ที่ทดสอบโดยไม่มีเรื่องของข้อจำกัดด้านความกว้างแถบเกิดขึ้นเลย (SWR =1.0:1 ตลอดย่านความถี่ที่ทดสอบ) ในขณะที่สายอากาศที่มีการปรับ SWR =1.0:1 จะมีความกว้างแถบที่แคบมากๆๆๆ)
          2. สภาวะของการเป็นสายอากาศนั้น โอกาสที่จะแปลงร่างกลายเป็นโหลดเทียม ก็คือ 1) ขนาดและลักษณะของโครงสร้างไม่มีลักษณะที่เป็นสายอากาศในทางทฤษฎีเลย ทำให้ไม่มีโอกาสสร้างค่า  (XLหรือ XC ใดๆ ออกมาเพื่อการเรโซแนนท์กับความถี่ที่ป้อนเข้าไปและ 2) ฟลุคมากที่ปรับจนกระทั่งเกิดค่าความต้านทาน RA= 50 โอห์ม
          3. ค่าความต้านทานที่แท้จริงที่เกิดขึ้นบนสายอากาศนั้นจะประกอบด้วยความต้านทาน 2 ชนิด ได้แก่ ความต้านทานที่เกิดจากวัสดุตัวนำและไดอิเล็กตริกที่ใช้ทำสายอากาศซึ่งกระแสที่ป้อนให้แก่สายอากาศจะสูญเสียในรูปของพลังงานความร้อน (ไม่ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นกำลังในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) เราเรียกความต้านทานส่วนนี้ว่า ความต้านทานการสูญเสียกำลัง (Loss Resistance: RL) ส่วนความต้านทานอีกชนิดหนึ่งเราเรียกว่า ความต้านทานการแผ่กระจายกำลัง (Radiation Resistance: Rr) ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อมีการป้อนกำลังในรูปของกระแสไฟฟ้าเข้าไปในโครงสร้างของสายอากาศที่มีองค์ประกอบของค่า XL หรือ XC อยู่ภายใน ซึ่งไม่ใช่ค่า Pure Resistance ที่เกิดขึ้นจากวัตถุ (ดังนั้นค่าความต้านทานรวมของสายอากาศจึงเท่ากับ RA=RL+Rr) และความต้านทานชนิดนี้แหละครับที่เปลี่ยนกระแสไฟฟ้าให้เป็นกำลังคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่เราใช้งานสภาวะปกติ ที่สำคัญเราพยายามที่จะทำให้ค่าของ RL มีค่าน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพราะไม่ต้องการให้กำลังที่ส่งผ่านเข้าไปในสายอากาศกลายเป็นกำลังความร้อนมากนัก


รศ.ดร.รังสรรค์ วงศ์สรรค์
สาชาวิชาวิศวกรรมโทรคมนาคม สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา
บันทึกการเข้า

*** 0869277049 ***
hs4qnn
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1538


« ตอบ #27 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2012, 23:27:38 »

 ตกใจ ตกใจ ตกใจ ป๋ารังสรรค์มาเอง อุ๊ ไม่ใช่  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

WCS-2008
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1837


E27DCU™ 145.4250MHz อ.เมือง ระยอง [CB245 CH-35]


« ตอบ #28 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2012, 12:41:36 »

SWR คือ อะไร

เราถูกบอกต่อกันมาว่า มันเป็นค่าที่บอกให้เรารู้ว่าสายอากาศ (Antenna) กับสายนำสัญญาณ (Transmission Line) มีค่าความต้านทาน
(Impedance) เท่ากันหรือแมทช์กันแค่ไหน  ถ้าค่าความต้านทานดังกล่าวแมทช์กันก็จะให้ค่า SWR ในอัตราส่วนใกล้เคียง 1:1 เห็นหลายคนกินไม่
ได้นอนไม่หลับถ้าไม่ได้ค่านี้ เลยลองสืบค้นที่มาของค่านี้มาเล่าสู่กันฟัง...

เมื่อเราโยนก้อนหินให้ตกไปกลางบ่อน้ำนิ่ง เราจะสังเกตุเห็นระลอกคลื่นเกิดจากจุดที่ก้อนหินจมวิ่งออกมาเป็นวงกว้างไปหาขอบบ่อ  แต่เมื่อมันกระทบ
ขอบบ่อก็จะเกิดคลื่นสะท้อนกลับในทิศทางตรงข้ามกลับไป ถ้าเราสามารถมองภาพตัดขวางได้เมื่อระลอกคลื่นทั้งสองมาเจอกันก็จะเกิดการผสมกลม
กลืนกันจนเราไม่สามารถสังเกตุได้อีกต่อไปว่าคลื่นเคลื่อนตัวในทิศทางใด  ในตอนนี้คือช่วงเวลาที่เรียกว่า Standing Wave ซึ่งส่วนที่เสริมกันใน
ทิศทางเดียวกันทำให้เกิดค่าที่มากขึ้นในขณะส่วนที่หักล้างกันจะทำให้ได้ค่าที่น้อยลง

SWR ย่อมาจาก Standing Wave Ratio เป็นการคำนวณผลทางคณิตศาสตร์จากผลของคลื่นสนามแม่เหล็กในสายนำสัญญาณ
(Transmission Line) โดยสามารถหาค่าได้หลายวิธีแต่วิธีที่นิยมโดยทั่วไปคือ คิดจากสัดส่วนระหว่างค่าแรงดันสูงสุดกับแรงดันต่ำสุดของคลื่น
วิทยุ (RF) ที่เกิดในสายนำสัญญาณหรือที่รู้จักกันในชื่อ "VSWR" จากสมการต่อไปนี้

และ

คำนวนเป็นค่า VSWR ได้เป็น

เมื่อ

    -Vf เป็นแรงดันจากคลื่นส่ง (forward) จากเครื่องส่ง และ Vr เป็นแรงดันจากคลื่นสะท้อนกลับ (reverse)
    -p เป็นอัตราส่วนระหว่างแรงดันจากคลื่นสะท้อนเมื่อเทียบกับคลื่นส่ง p = Vr / Vf

ความจริงเกี่ยวกับ SWR

    -การคำนวน SWR สามารถคำนวณได้จากค่าของกระแสได้เช่นกัน เรียกว่า ISWR ซึ่งได้ค่าเท่ากัน
    -ค่า SWR มีผลกับค่ากำลังส่งที่ส่งจากเครื่องส่งผ่านสายนำสัญญาณไปยังสายอากาศ ค่า SWR สูงทำให้เกิดการสูญเสียในสายนำสัญญาณมาก  เหลือกำลังส่งถึงสายอากาศน้อยลง
    -ค่า SWR มีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 1 เสมอ จะเท่ากับ 1 ต่อเมื่อค่าความต้านทานในสายนำกับสายอากาศเท่ากัน
    -ในทางปฏิบัิติค่า SWR 1.000 : 1 เกิดขึ้นได้ยากมากและไม่มีอุปกรณ์ใดมีความละเอียดถึงขนาดนั้น เนื่องจากค่าสูญเสียจากจุดต่อต่าง ๆ
    -ค่าของ SWR ไม่ได้เป็นปัจจัยหลักที่บอกว่าสายอากาศตัวใด รับ-ส่ง ได้ดีกว่ากัน  เนื่องจากปัจจัยหลักที่ทำให้สายอากาศ รับ-ส่ง
มาจากการออกแบบ, ประเภทสายอากาศ, การติดตั้งและสถานที่, ฯลฯ อย่างไรก็ดี เมื่อคุณสามารถเปรียบเทียบสายอากาศประเภทเดียวกัน
ที่เดียวกันในสภาพแวดล้อมเหมือนกัน สิ่งที่ต้องพิจารณาต่อไปคือค่าความสูญเสียด้วยการวัด SWR


ที่มา : http://www.hs1ap.org/index.php/2011-03-25-06-26-46/102-0401-general/86-swr
บันทึกการเข้า
how2ham
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 101


ตามหมาย นว.10(01)864/51


« ตอบ #29 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2012, 13:00:35 »

วันนี้อยู่บ้านว่างๆ ก็เลยเอาลวดทองเหลือง มานั่งทำสายอากาศ แบบ 5/8 กราวด์เพลน กะว่าจะเอาไปให้เพื่อนเล่น
ก็เลยพยายามแมทให้ค่า swr ลงต่ำที่สุด จนได้ที่ 1 ต่อ 1
ผลกลับกลายเป็นว่า  ส่งไม่ออกครับ ส่งไม่ออกจริงๆ รับใครก็รับได้ไม่ค่อยดี
         เช็คกำลังส่ง ก็ 5วัตต์เท่าเดิม แต่ส่งไปก็ไม่มีใครรับได้ คนที่รับได้ก็บอกว่า เสา1/4มาดีกว่า
มันเกิดอะไรขึ้น แล้วไหนใครว่า ยิ่งswr ยิ่งต่ำยิ่งดีไง
         เลยลองใหม่ คราวนี้แมทให้เป็น 1.3 ต่อ1  โห ระเบิดเถิดเิทงเลยครับทีนี้
ตกลงว่า มันต่ำไปก็ไม่ดีใช่ไหมเนี่ย
         เอ้าใครเคยเจอ  มาแจมกันครับ
สวัสดีครับพี่ hs1gf และพี่ๆ สมาชิกทุกท่านครับ

ขออนุญาตพี่ hs1gf ครับ ผมอยากเห็นรูปร่างหน้าตาของสายอากาศครับ นอกจากมีกราวน์เพลนแล้ว ยังมีคอยล์กับคาปาซิเตอร์เป็นส่วนประกอบด้วยหรือเปล่าครับ ? ขอบคุณครับ ^^
บันทึกการเข้า

Avionics technician
HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND
   

พื้นที่โฆษณา ไฟฉายแรงๆ /วิทยุสื่อสาร /กล้องแอบถ่าย /เครื่องดักฟัง /GPS ติดตามรถหาย ระบุตำแหน่ง ผ่านดาวเทียม
คลิ้กไปดูที่ลิ้งค์ข้างล่างเลยครับ
http://www.spy-thai.com/


GPS ติดตามรถหาย ดักฟังเสียงสนทนาในรถ หรือระบุตำแหน่งรถ สั่งดับเครื่อง
ติดตามรถได้ทั่วไทยโดยไม่มีค่าบริการรายเดือน / Tel. 086-9455977
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  


 
กระโดดไป:  

ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ�
ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ�


Webmaster Earn Money! By Affiliate Program 100% Pay
www.samuismile.com

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF | SMF © 2006-2009, Simple Machines
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!