HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND
29 กันยายน 2024, 10:32:06 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: hamsiam.com รับสมัครสมาชิกใหม่ 2-3 เดือน/ครั้ง รอบหน้ารับสมัครวันใหน กรุณาติดตามจากข่าวหน้าเวปนะครับ
Google
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  


หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โลกจะแตก จริงหรือ  (อ่าน 4404 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
M_moto
member..
Hero Member
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 573


ชาติ ศาส กษัตริย์ และประชาธิปไตย


« ตอบ #10 เมื่อ: 18 เมษายน 2012, 00:15:33 »

โลกนะครับ  ไม่ใช้แก้วน้ำ  จะได้แตก

แต่ที่แนน  เรากำลังจะอดอยาก  ไม่มีอาหาร  ขาดพลังงาน  เกิดภัยพิบัติ  ฯลฯ 

ไม่ต้องเชื่อใครครับ  เราตาย  ด้วยภัยต่างๆ  ก่อนโลกแตก

ปล.  ผมรอเขื่อนแตกมา 2 ครั้งแล้ว  เชื่อกันทั้งประเทศ มันก็ไม่แตก  แต่จะบอกให้ปีนี้อย่าให้ฝนทิ้งช่วงนะ  น้ำทะเลหนุนถึงอยุธยาแน่นอน  ฟันสายอากาศ

บันทึกการเข้า

ชุมพล  สายรัศมี  HS6XKB   145.700MHz(-600MHz) / CB245=CH76=น้ำริน01 / 27MHz AMFM=CH19C=M_moto
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตาก  165  หมู่ 7  ต.ไม้งาม  อ.เมือง จ.ตาก 63000
12call : 085 725 7926   e-Mail :M_moto(แอท)windowslive.com
HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND
« ตอบ #10 เมื่อ: 18 เมษายน 2012, 00:15:33 »

พื้นที่โฆษณา ขาย เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัตโนมัติ CTEK จาก สวีเดน ดีที่สุด/ถูกที่สุด+ประกัน5ปี
คลิ้กไปดูที่ลิ้งค์ข้างล่างเลยครับ
http://www.spy-thai.com/


GPS ติดตามรถหาย ดักฟังเสียงสนทนาในรถ หรือระบุตำแหน่งรถ สั่งดับเครื่อง
ติดตามรถได้ทั่วไทยโดยไม่มีค่าบริการรายเดือน / Tel. 086-9455977
 บันทึกการเข้า
MR.BOY
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2878


ตู้ ปณ.123 ปณจ.จันทบุรี 22000


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 18 เมษายน 2012, 00:25:32 »

สัญญาณเตือน   เตือนให้ทุกคนเตรียมพร้อม อยู่ในความไม่ประมาท จะเกิดหรือไม่ก็ต้องไม่ประมาท หากเกิดจากหนักก็จะทุเลา หรือไม่เกิดก็ใช้ชีวิตตามปกติ แต่ต้องไม่ประมาทและเตรียมพร้อมเสมอ
บันทึกการเข้า

วิทยุสมัครเล่น กับ เทคโนโลยีสมัยใหม่
ที่ทำให้คนรุ่นใหม่ลืมวงการนี้
HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND
« ตอบ #11 เมื่อ: 18 เมษายน 2012, 00:25:32 »

 บันทึกการเข้า
HS3JBX
ผู้ช่วยผู้ดูแลบอร์ด
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 14261


ชีวิตผมไม่เห็นเหงื่อไม่ได้ตังค์


เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 18 เมษายน 2012, 00:42:41 »

ถ้าไม่มีปัญหา โลกไ่ม่แตกหรอกครับ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า


คลิกPMที่นี่เลยครับหากต้องการติดต่อผู้ดูแล
ทองพูน นุโยนรัมย์ 0614540972-ais
กสิกรไทย 2432123825 กรุงไทย 1010531972
tuiz
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6327


ไม่รับปรึกษา ปัญหา วิทยุสื่อสาร เนื่องจากไม่ใช่ช่าง ครับ..


« ตอบ #13 เมื่อ: 18 เมษายน 2012, 00:44:33 »

ถ้าไม่มีปัญหา โลกไ่ม่แตกหรอกครับ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

ผมหาที่กด like ไม่เจอ ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

บรรจง แสนปินตา

ธนาคารกสิกรไทย สาขา ถนนฉัตรไชย ลำปาง 194-2-91288-5
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขา ม.ราชภัฏลำปาง  439-1-02927-7
ธนาคารกรุงไทย  สาขา ประตูชัย  536-0-21783-9

ติดต่อได้ทางPM  หรือโทร 081-8835989 ติดต่อทางโทรศัพท์ได้ในช่วง 10.00-22.00 น. เท่านั้น หรือจะ line (id=tuiz_lp)
MR.BOY
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2878


ตู้ ปณ.123 ปณจ.จันทบุรี 22000


เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 18 เมษายน 2012, 00:47:48 »

ถ้าไม่มีปัญหา โลกไ่ม่แตกหรอกครับ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

ผมหาที่กด like ไม่เจอ ยิงฟันยิ้ม



โอ้วววววว   จบเลย  เจอคำตอบนี้  ผมยอม  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
birdte
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1445


HS3WZY


« ตอบ #15 เมื่อ: 18 เมษายน 2012, 01:11:05 »

คราวที่แล้ว สงสัยยาวไป
สรุปว่า แตกจริง แต่ไม่ใช่ตอนนี้ครับ
ยุคนี้ ยุคภัทรกัปป์ ต้องมีพระพุทธเจ้าเกิดในกัปป์นี้ 5 พระองค์
นี่ก็เพิ่งได้มาแค่ 4 เอง ต้องครบ 5 ก่อนครับ หลังจากนั้นจึงจะแตก
แล้วกัปป์หน้าก็ค่อยว่ากันใหม่ จบ...

like ชอบแบบสรุปมากกว่า อิอิ
บันทึกการเข้า

(เบิร์ด) Tel.0827508146
mintra2601
ผู้เช่าพื้นที่โฆษณา
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1997


ไม่ได้เป็นผู้เช่าพื้นที่แล้วนะรอปลดสถานะโดยผู้ดูแล


เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 18 เมษายน 2012, 02:08:06 »

6.1  สาเหตุแห่งการแตกทำลายของจักรวาล

          อย่าเพิ่งคิดไปไกลด้วยความเข้าใจผิดเพราะความเคยชินว่า สิ่งที่จะทำลายโลกจะเป็นอาวุธ ยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่มนุษย์ใช้ห้ำหั่นกันในยุคสมัยนี้ หรืออาวุธมหาประลัยทั้งหลายที่มนุษย์แข่งขันประดิษฐ์ คิดค้นกันแต่อย่างใด แต่สิ่งที่จะทำลายโลกที่น่ารื่นรมย์ในความคิดของหลายท่านนั้นมีอยู่ 3 สิ่งด้วยกัน คือ  ไฟ  น้ำ และลม
          ทั้ง 3 สิ่งนี้จะเป็นตัวทำลายโลก แต่อย่าเข้าใจนำหน้าไปก่อนว่า ไฟอะไรกันจะเผาไหม้ได้ทั้งโลก ขนาดมีผู้ลักลอบเผาบ่อน้ำมันตั้งหลายบ่อ ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุด ก็ไม่เห็นว่าจะเกิดความเสียหายมากมายอะไรนัก และอะไรหลายๆ อย่างในโลกก็ไม่ใช่ว่าจะไหม้ไฟไปเสียทั้งหมด และเช่นเดียวกัน อย่าเพิ่งเข้าใจว่า น้ำและลมจะทำลายโลกไม่ได้ เพราะคุ้นเคยกับภาพ หรือข่าวน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ต่างๆ พายุ ถล่มในหลายภูมิภาค ซึ่งก็ไม่เห็นจะสร้างความเสียหายมากมายแต่อย่างใด
          ที่กล่าวเช่นนั้นเพราะว่า ไฟ น้ำ และลม ที่สามารถทำลายโลกได้นี้ ไม่ใช่ ไฟ น้ำ และลมอย่างที่เราเห็นหรือรู้จักกัน แต่เป็นไฟ น้ำ และลมประลัยกัลป์ที่มีอานุภาพในการทำลายมหาศาล เพราะเกิดด้วย แรงกรรมของสัตวโลก ซึ่งถ้าจะกล่าวตรงๆ แล้ว สัตวโลกที่ว่านี้ก็คือมนุษย์นั่นเอง เพราะว่าสัตว์อื่น ไม่สามารถจะทำกรรมอะไรได้มากมายเท่ามนุษย์ ส่วนมากล้วนกำลังเสวยวิบาก คือผลกรรมที่ตนเคยทำเมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ พวกเทวดา และพรหมในชั้นต่างๆ ก็เสวยผลบุญอยู่ และปกติก็มีจิตใจที่ดีงามอยู่แล้ว ถึงได้ไปเกิดตรงนั้นได้
          ส่วนพวกที่เสวยทุกข์อยู่ในอบาย ไม่ว่าจะเป็นในมหานรกขุมต่างๆ ในยมโลก ที่เป็นเปรต อสุรกาย หรือแม้แต่สัตว์ดิรัจฉาน เพราะว่าสัตว์ที่เกิดในอบายนี้ ก็ย่อมต้องรับผลของบาปที่ตนกระทำ ด้วยวิธีการ และลักษณะต่างๆ กันไปตามแต่ละภพภูมิ จึงไม่มีโอกาสที่จะทำสิ่งไม่ดี ก็เหลือเพียงแต่มนุษย์เท่านั้นที่มี โอกาสอย่างเสรี ในการคิด พูด และทำสิ่งต่างๆ และเพราะเหตุที่มีเสรีภาพ ในการคิด พูด และทำได้ไม่มีที่ สิ้นสุดนี้เอง จึงทำให้มนุษย์ทำสิ่งไม่ดี ทำกรรมชั่ว เมื่อทำมากเข้า หนาแน่นเข้า ผลกรรมจึงทำให้โลกถูกทำลายลงในที่สุด

6.2  สิ่งที่ทำลายโลกขึ้นอยู่กับจิตใจมนุษย์
 
         ถึงแม้ว่าทั้ง ไฟ น้ำ และ ลม จะเป็นสิ่งทำลายโลกและสรรพสิ่งทั้งปวง (ซึ่งไม่มีสิ่งใดๆ ที่จะมีอานุภาพ การทำลายมากไปกว่านี้) แต่ใช่ว่าทั้ง 3 สิ่ง จะสามัคคีชุมนุมมะรุมมะตุ้มตะลุมบอนออกฤทธิ์ถล่มโลกจน แตกสลายก็หาไม่ เพราะการทำลายจะเกิดขึ้นเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง คือถ้าเป็นไฟ ก็ไฟอย่างเดียว ถ้าเป็นน้ำก็น้ำอย่างเดียว และถ้าเป็นลมก็ลมอย่างเดียว  
          การที่สิ่งใดจะทำลายโลกนั้น ขึ้นอยู่กับจิตใจของมนุษย์ว่า หนาแน่นไปด้วยกิเลสตระกูลใดมากที่สุด   ซึ่งถ้าจิตใจมนุษย์หนาแน่นด้วยกิเลสตระกูลโทสะ โลกจะถูกทำลายด้วยไฟ ถ้ามนุษย์มีจิตใจที่หนาแน่นไปด้วย ราคะ โลกจะถูกทำลายด้วยน้ำ และถ้าจิตใจของมนุษย์หนาแน่นด้วยกิเลสตระกูลโมหะ โลกก็จะถูกทำลาย ด้วยลม
          เมื่อรู้อย่างนี้แล้วเราก็สามารถเลือกได้ว่า เราจะให้โลกถูกทำลายด้วยอะไรดี ถ้าอยากให้โลกถูก ทำลายด้วยไฟ ก็เกลียดกันเข้าไป โกรธกันเข้าไป ถ้าอยากจะให้โลกถูกทำลายด้วยน้ำก็โลภกันให้มากๆ    เห็นแก่ตัวกันเข้าไป หมกมุ่นกามกันให้มาก และถ้าอยากจะให้โลกถูกทำลายด้วยลมก็ไม่ต้องสนใจกฎแห่งกรรม ไม่ต้องเชื่อบุญเชื่อบาป จะทำอะไรก็จงทำด้วยความพอใจไปเถิด แต่ถ้าอยากให้โลกอยู่รอดปลอดภัย ไม่ถูกสิ่งใดทำลายเลย ก็ต้องช่วยกันให้มนุษย์ทั่วทั้งโลกไม่ถูกครอบงำด้วยกิเลสทั้ง 3 ตระกูล

         สิ่งที่ทำลายโลก                            กิเลสในใจมนุษย์                      
                       ไฟ                                     กิเลสตระกูลโทสะ
                       น้ำ                                      กิเลสตระกูลราคะ
                       ลม                                     กิเลสตระกูลโมหะ
      
        
          นอกจากโลกจะไม่ถูกทำลายด้วย ไฟ น้ำ หรือลมพร้อมกัน แต่จะถูกทำลายด้วยอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังกล่าวแล้ว ในการทำลายของทั้ง 3 สิ่งนี้ ยังมีระยะเวลาและลำดับในการทำลายด้วย โลกจะถูกทำลายด้วยไฟเป็นสิ่งแรก และจะถูกทำลายเป็นครั้งๆ ไป ถึง 7 ครั้ง ในครั้งที่ 8 โลกจะถูกทำลายด้วยน้ำ  หลังจากนั้นถูกทำลายด้วยไฟอีก 7 ครั้ง แล้วถูกทำลายด้วยน้ำอีก จะเป็นเช่นนี้จนกระทั่งครั้งที่ 64 โลกจึง จะถูกทำลายด้วยลม 1 ครั้ง หลังจากนั้นจึงเริ่มมีการเกิดขึ้นของโลกและจักรวาลขึ้นใหม่ และโลกก็จะถูกทำลายอีกจะเป็นอย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุด
         เมื่อรวมจำนวนที่โลกถูกทำลายด้วยสิ่งต่างๆ ใน 64 ครั้ง จะถูกทำลายด้วยไฟ 56 ครั้ง ถูกทำลาย ด้วยน้ำ 7 ครั้ง และถูกทำลายด้วยลม 1 ครั้ง

6.3  ขอบเขตการทำลายของ ไฟ น้ำ และลม

          นอกจากจำนวนครั้งในการทำลายของสิ่งที่ทำลายโลกแต่ละชนิดจะแตกต่างกันแล้ว อานุภาพในการทำลายยังแตกต่างกันอีก ซึ่งแต่ละสิ่งมีขอบเขตในการทำลายดังนี้

6.3.1 การทำลายโดยไฟ
          ไฟจะทำลายภพภูมิต่างๆ 14 ภพภูมิ คือ
          1.  ภพอบายทั้ง 4 ได้แก่ นรก เปรต อสุรกาย ดิรัจฉาน
          2.  ภพมนุษย์
          3.  ภพสวรรค์ทั้ง 6 ได้แก่ จาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา ดุสิตา นิมมานรดี และ       ปรนิมมิตวสวัตดี
          4.  ภพของพรหมที่ได้ปฐมฌาน 3 ได้แก่ พรหมปาริสัชชา พรหมปุโรหิตา และมหาพรหมา

6.3.2 การทำลายโดยน้ำ
          น้ำจะทำลายภพภูมิต่างๆ 17 ภพภูมิ คือ
          1. ภพอบายทั้ง 4
          2. ภพมนุษย์
          3. ภพสวรรค์ทั้ง 6
          4. ภพของพรหมที่ได้ปฐมฌาน 3  
          5. ภพของพรหมที่ได้ทุติยฌาน 3 ได้แก่ พรหมปริตตาภา พรหมอัปปมาณาภา และพรหมอาภัสสรา

6.3.3 การทำลายโดยลม
          ลมจะทำลายภพภูมิต่างๆ 20 ภพภูมิ คือ  
          1. ภพอบายทั้ง 4
          2. ภพมนุษย์
          3. ภพสวรรค์ทั้ง 6
          4. ภพของพรหมที่ได้ปฐมฌาน 3  
          5. ภพของพรหมที่ได้ทุติยฌาน 3
          6. ภพของพรหมที่ได้ตติยฌาน 3 ได้แก่ พรหมปริตตสุภา พรหมอัปปมาณสุภาและพรหมสุภกิณหา

6.4 ลักษณะที่จักรวาลถูกทำลาย

          6.4.1  เมื่อจักรวาลถูกทำลายด้วยไฟ
          การที่โลกถูกทำลายด้วยไฟนั้น เริ่มจากจะไม่มีฝนตกเป็นเวลายาวนาน ความแห้งแล้งเริ่มปรากฏขึ้น ต้นไม้ทั้งหลายต่างเหี่ยวแห้งและตายจนหมดสิ้น ในกาลต่อมา ดวงอาทิตย์ดวงที่ 2 ปรากฏขึ้น ทำให้ ขณะนั้นโลกและจักรวาลมีดวงอาทิตย์ถึง 2 ดวง ทำให้ไม่มีกลางวันและกลางคืน เนื่องเพราะว่าโลกถูก แสงสว่างเจิดจ้าจากดวงอาทิตย์ทั้ง 2 ด้าน
          ดวงอาทิตย์ดวงที่เกิดขึ้นมาใหม่นี้ จะมีความร้อนรุนแรงกว่าดวงอาทิตย์ที่มีมาแต่เดิม ทั้งนี้เป็นเพราะดวงอาทิตย์ดวงที่เกิดขึ้นใหม่นี้เกิดด้วยอานุภาพกรรมของมนุษย์ จึงไม่มีสุริยเทพบุตรอยู่เหมือน ดวงอาทิตย์ดวงแรกซึ่งไม่ได้เกิดจากแรงกรรม และด้วยความร้อนแรงที่มากขึ้นอย่างมหาศาล สุริยเทพบุตรที่ อาศัยอยู่ในดวงอาทิตย์ดวงเดิมนั้น ก็ไม่อาจจะอยู่ต่อไปได้ จึงเร่งทำความเพียรเจริญภาวนา เพื่อให้ได้ฌาน และหนีไปบังเกิดยังพรหมโลกชั้นสูง ซึ่งเป็นภพที่อานุภาพการทำลายไปไม่ถึง
          และเพราะเหตุที่มีดวงอาทิตย์ปรากฏขึ้นถึง 2 ดวง อุณหภูมิความร้อนในโลกจึงทวีขึ้นอย่างมากมาย ส่งผลให้บนท้องฟ้าปราศจากเมฆและหมอก น้ำตามแหล่งน้ำต่างๆ เหือดแห้ง น้ำที่ยังเหลืออยู่ในโลก มีเพียงน้ำในแม่น้ำ 5 สาย คือแม่น้ำคงคา ยมุนา อจิรวดี มหิ และสรภู เท่านั้น  มนุษย์ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้  ต่างล้มตายและไปบังเกิดในพรหมโลกทั้งหมด เพราะพากันเร่งรีบเจริญภาวนาเพื่อให้ได้ฌานกัน ทั้งนี้เพราะทราบล่วงหน้าว่าภัยร้ายแรงจะมาเยือน
          สาเหตุที่มนุษย์ทราบว่าโลกจะถูกทำลายนั้น เนื่องจากก่อนที่โลกจะถูกทำลายแสนปี จะมีเทวดาประเภทหนึ่ง เรียกว่า โลกพยุหเทวดา นุ่งห่มด้วยผ้าสีแดง มาป่าวประกาศให้มนุษย์ทราบว่า อีกแสนปี  ข้างหน้าโลกจะพินาศ รวมทั้งจักรวาล ตลอดจนสรรพสิ่งทั้งปวง แม้กระทั่งภูมิของสวรรค์ทั้ง 6 ชั้น จนถึงพรหมโลกชั้นที่ได้ปฐมฌาน และยังแนะนำต่อไปอีกว่า อย่าประมาทให้เร่งสร้างบุญกุศล เพื่อจะได้ไปเกิดในภูมิที่พ้นจากความพินาศนี้
          หลังจากที่เทวดานั้นมาประกาศให้มนุษย์ทราบแล้ว มนุษย์ต่างบังเกิดความสลดสังเวชใจ จึงเร่งสร้างบุญกุศล และบำเพ็ญภาวนากันจนได้ฌานสมาบัติ ตายแล้วไปบังเกิดในพรหมโลก เหล่าเทวดา และพรหมก็เช่นกัน ต่างเร่งเจริญภาวนาเพื่อจะได้ไปบังเกิดในภพภูมิที่ปลอดภัย ส่วนสัตว์ในอบายภูมิทั้งหลายเมื่อพ้นจากวิบากกรรมมาเกิดเป็นมนุษย์ และทราบเรื่องที่เทวดามาประกาศ ก็เร่งสร้างบุญกุศลและเจริญภาวนาเช่นกัน คงเหลือเพียงผู้ที่มีมิจฉาทิฏฐิที่ไม่เร่งสร้างบุญกุศล เมื่อโลกถูกทำลายจึงไปบังเกิดใน ภพภูมิเดิมของจักรวาลอื่นที่ยังไม่ถูกทำลาย
          หลังจากนั้นมาอีกยาวนาน ดวงอาทิตย์ดวงที่ 3 ปรากฏขึ้น และด้วยอานุภาพความร้อนแรงที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้น้ำที่เคยเหลืออยู่ในแม่น้ำทั้ง 5 นั้น เหือดแห้งไปจนหมดสิ้น ต่อมาปรากฏมีดวงอาทิตย์ดวงที่ 4  ความร้อนแรงยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทับทวี จนกระทั่งทำให้น้ำในสระใหญ่บริเวณป่าหิมพานต์ซึ่งละลายมาจากหิมะ แห้งหายจนหมดสิ้น น้ำในมหาสมุทรของจักรวาลเริ่มแห้งขอดลง
          หลังจากนั้น ดวงอาทิตย์ดวงที่ 5 ก็บังเกิดขึ้น ถึงตรงนี้ น้ำในมหาสมุทรต่างๆ เหือดแห้งจนหมดสิ้น และเมื่อดวงอาทิตย์ดวงที่ 6 ปรากฏ อานุภาพของความร้อนจึงทำให้แผ่นดินและภูเขาไม่หลงเหลือ ธาตุน้ำอยู่เลย ทำให้ไม่สามารถคงสภาพเดิมไว้ได้ กลายเป็นผงฝุ่นฟุ้งไปทั่วทั้งโลก
          ต่อจากนั้นดวงอาทิตย์ดวงที่ 7 ก็ปรากฏขึ้น ด้วยความร้อนแรงที่ไม่มีประมาณ ทำให้โลกธาตุทั้งแสนโกฏิจักรวาลลุกเป็นไฟขึ้นพร้อมกัน เกิดการระเบิดเสียงดังสนั่นกึกก้องกัมปนาท ยอดเขาพระสุเมรุอันเป็นที่ตั้งของสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา และดาวดึงส์ถอนหลุดออกจากที่ แล้วแตกแยกย่อยกระจัดกระจายสูญหายไปในอากาศ
          สำหรับเปลวไฟที่เผาทำลายโลกและจักรวาลนี้ จะเริ่มที่โลกมนุษย์ก่อน จากนั้นจึงลุกลามไปยังเทวโลกทุกชั้นตามลำดับ และเลยไปถึงพรหมโลกชั้นต้น ซึ่งเป็นพรหมที่ได้ปฐมฌาน ได้แก่ พรหมปาริสัชชา พรหมปุโรหิตา และมหาพรหมมา ไฟนี้จะไหม้อยู่เป็นเวลาที่ยาวนานมาก จนกระทั่งไม่มีสิ่งใดหลงเหลือ ไฟจึงมอดดับลงในพรหมโลกชั้นนี้ หลังจากไฟมอดดับไปแล้ว จักรวาลเหลือเพียงอากาศว่างเปล่าไม่มีสิ่งใดๆ บังเกิดความมืดมิดขึ้นทั่วทั้งจักรวาลเป็นเวลายาวนาน

          6.4.2  เมื่อจักรวาลถูกทำลายด้วยน้ำ
          การที่โลกถูกทำลายด้วยน้ำ จะไม่มีดวงอาทิตย์ปรากฏขึ้นเหมือนกับที่โลกถูกทำลายด้วยไฟ โลกยังคงมีดวงอาทิตย์เพียงดวงเดียวอย่างที่เคยเป็นมา แต่การทำลายจะเริ่มจาก มีเมฆที่มีฤทธิ์เป็นกรดเกิดขึ้น แล้วฝนจึงตกลงมาจากเมฆที่มีฤทธิ์เป็นกรดนั้น ทำให้กลายเป็นน้ำกรดที่มีฤทธิ์รุนแรง สามารถกัดละลายสรรพสิ่งทั้งหลายให้ละลายได้ โดยจะตกต่อเนื่อง ไม่มีขาดช่วงเลย แรกๆ ก็ตกมาทีละน้อยและมีเม็ดละเอียด  แล้วจึงตกหนักขึ้น พร้อมกับขนาดของเม็ดที่โตขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเหมือนสายน้ำ ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นๆ จนในที่สุด ท่วมพื้นแผ่นดินและภูเขา ท่วมโลกจนกระทั่งเต็มทั่วท้องจักรวาลทั้งแสนโกฏิจักรวาล
          น้ำซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดรุนแรงนี้ จะกัดละลายทุกสิ่งทุกอย่างจนสูญสลายไม่มีเหลือ ระดับน้ำจะสูงขึ้นไป จนท่วมสวรรค์ชั้นต่างๆ ท่วมถึงพรหมโลกชั้นที่ได้ทุติยฌาน คือ พรหมปริตตาภา พรหมอัปปมาณาภา และพรหมอาภัสสรา แล้วหยุดเพียงเท่านี้ สิ่งทั้งหลายที่จมน้ำหรือถูกท่วมถึง ก็จะถูกกัดละลายจนหมดสิ้น
          เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างถูกกัดละลายจนไม่เหลือสิ่งใดๆ เลย น้ำซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดนั้นจะยุบแห้งหายไป เหลือเพียงอากาศที่ว่างเปล่าโล่งเตียนไม่หลงเหลือสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น ทั่วทั้งจักรวาลมืดมิดไม่มีแสงสว่างใดๆ

          6.4.3  เมื่อจักรวาลถูกทำลายด้วยลม
          ในครั้งที่โลกและจักรวาลถูกทำลายด้วยลม โลกยังคงมีดวงอาทิตย์ดวงเดียวเช่นที่เคยเป็นมา แต่ การทำลายด้วยลมเริ่มจากมีลมเกิดขึ้น ในช่วงแรกเป็นเพียงลมอ่อนๆ แล้วจึงแรงขึ้นตามลำดับ จากที่พัด พาสิ่งที่มีน้ำหนักเบา ก็แรงจนสามารถทำให้สิ่งต่างๆ  พัดปลิวไปในอากาศได้ เริ่มจากที่เพียงพัดฝุ่นให้ฟุ้งตลบขึ้น เป็นพัดพาทราย กรวด และก้อนหิน และแรงขึ้นจนพัดสิ่งต่างๆ ที่มีขนาดใหญ่ ทั้งต้นไม้ อาคารบ้านเรือน ตลอดจนสรรพสิ่ง หลุดลอยขึ้นไปในอากาศ
          ด้วยอานุภาพรุนแรงอย่างมหาศาล จึงทำให้สิ่งต่างๆ ที่ถูกพัดขึ้นไปแหลกละเอียดกระจัดกระจายไม่เหลือสิ่งใดๆ เลย
          ต่อมาเกิดลมขึ้นใต้ผืนแผ่นดิน ความรุนแรงของลมได้พัดพลิกแผ่นดินให้หงายขึ้น และพัดปลิวขึ้นไปในอากาศ แม้แต่ภูเขา และน้ำจากแหล่งต่างๆ ทั้งในแม่น้ำ ทะเล และมหาสมุทร ทุกสิ่งทุกอย่างถูกพัดปลิวขึ้นสู่อากาศ และแหลกกระจุยกระจายด้วยแรงลมที่มีความรุนแรงในการฉีกทำลายมหาศาล
          ลมได้พัดทำลายสรรพสิ่งสิ้นทั้งโลก พัดทำลายสิ่งต่างๆ ในจักรวาล เขาพระสุเมรุถูกพัดหลุดลอยขึ้นไปในอากาศ และแหลกละเอียดกระจัดกระจายไม่เหลือเศษ สวรรค์ชั้นต่างๆ จักรวาลทั้งหลายกระทบกระแทกเข้าหากันจนแตกละเอียดเป็นผุยผง ตลอดจนถึงพรหมโลกชั้นที่ได้ตติยฌานทั้ง 3 อันได้แก่  พรหมปริตตสุภา พรหมอัปปมาณสุภา และพรหมสุภกิณหา ได้ถูกลมพัดทำลายจนสิ้น
          เมื่อสิ่งต่างๆ ถูกทำลายจนหมดสิ้น ลมจึงสงบหายไป เหลือเพียงความเวิ้งว้างของท้องจักรวาล ที่มีแต่ความว่างเปล่าโล่งเตียนไม่หลงเหลือสิ่งใดๆ ปรากฏเพียงความมืดมิดทั่วทั้งจักรวาล

6.5  เหตุที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงถึงการทำลายของโลก

          การที่พระพุทธองค์ทรงแสดงถึงการทำลายของโลกนี้ มิได้มีพระประสงค์ที่จะให้ผู้ใดหวาดกลัว มิได้ประสงค์จะเตือนให้ระวังภัยที่โลกจะถูกทำลาย และมิได้มีพระประสงค์จะแสดงเพื่อให้เป็นศาสตร์ว่าด้วย ความรู้เรื่องการเกิดและการทำลายของโลก แต่ที่ทรงแสดงถึงการที่โลกถูกทำลายนี้ ก็เพื่อที่จะแสดงให้เกิดความเบื่อหน่ายในโลก เบื่อหน่ายในการเวียนว่ายในสังสารวัฏที่หาเบื้องต้นและเบื้องปลายไม่พบ
          เพราะแม้ว่าภพภูมิต่างๆ จะน่ารื่นรมย์ สวยสดงดงาม และมีสัมผัสอันเป็นสุขอย่างไรก็ตาม แต่ สิ่งทั้งหลายเหล่านั้น ล้วนไม่เที่ยงแท้ถาวร ไม่มีผู้ใดเลยที่จะสามารถเป็นเจ้าของหรือครอบครองสิ่งใดได้ ตลอดไป และไม่มีใครที่จะสามารถรักษาให้สิ่งอันเป็นที่รักที่พอใจทั้งหลายมิให้เปลี่ยนแปลง เมื่อถึงเวลาสิ่งต่างๆ ก็มีอันต้องเสื่อมสลายหมดอายุขัยไป ไม่สามารถคงสภาพเดิมอยู่ได้ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่พึง พอใจหรือไม่ สิ่งเหล่านั้นย่อมต้องจากเราไป หรือบางครั้งเราก็เป็นผู้ที่ต้องจากไปเสียเอง ดังนั้นหากยัง ต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่อีก ก็ยังจะต้องเผชิญกับทุกข์นานาประการอีกไม่สิ้นสุด
          ด้วยเหตุนี้พระพุทธองค์จึงทรงแสดงถึงการที่โลกถูกทำลายดังนี้  เพื่อให้เกิดความเบื่อหน่าย สลด สังเวชใจ และหาทางหลุดพ้นในที่สุด ดังที่แสดงใน สุริยสูตร ว่า
         "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ไม่น่าชื่นชม นี้เป็นกำหนด ควรเบื่อหน่าย ควรคลายกำหนัด ควรหลุดพ้นในสังขารทั้งปวง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ขุนเขาสิเนรุ โดยยาว 84,000 โยชน์ โดยกว้าง 84,000 โยชน์ หยั่งลงในมหาสมุทร 84,000 โยชน์ สูงจากมหาสมุทรขึ้นไป 84,000 โยชน์ มีกาลบางคราวที่ฝนไม่ตกหลายปี   หลายร้อยปี หลายพันปี หลายแสนปี เมื่อฝนไม่ตก พืชคาม ภูตคาม และติณชาติที่ใช้เข้ายา ป่าไม้ใหญ่ ย่อมเฉาเหี่ยวแห้ง เป็นอยู่ไม่ได้ ฉันใด สังขารก็ฉันนั้น เป็นสภาพไม่เที่ยงไม่ยั่งยืน ไม่น่าชื่นชม นี้เป็นกำหนด ควรเบื่อหน่าย ควรคลายกำหนัด ควรหลุดพ้นในสังขารทั้งปวง
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในกาลบางครั้งบางคราว โดยล่วงไปแห่งกาลนาน พระอาทิตย์ดวงที่ 2 ปรากฏ เพราะพระอาทิตย์ดวงที่ 2 ปรากฏ แม่น้ำลำคลองทั้งหมด ย่อมงวดแห้ง ไม่มีน้ำ ฉันใด สังขารก็ฉันนั้น เป็นสภาพไม่เที่ยง...ควรหลุดพ้น
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในกาลบางครั้งบางคราว โดยล่วงไปแห่งกาลนาน พระอาทิตย์ดวงที่ 3 ปรากฏ เพราะพระอาทิตย์ดวงที่ 3 ปรากฏ แม่น้ำสายใหญ่ๆ คือ แม่น้ำคงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู มหิ ทั้งหมดย่อมงวดแห้ง ไม่มีน้ำ ฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังขารทั้งหลายก็ฉันนั้น เป็นสภาพไม่เที่ยง... ควรหลุดพ้น"

         ทรงตรัสถึงลักษณะที่โลกและจักรวาล ตลอดจนสรรพสิ่งถูกทำลายลง เมื่อดวงอาทิตย์มาปรากฏ เพิ่มขึ้นเช่นนี้ จนถึง 7 ดวง และทรงตรัสให้เบื่อหน่าย คลายกำหนัด และหลุดพ้นในสังขารทั้งปวงดังนี้ เช่นกัน ทรงตรัสอีกว่า แม้จะเกิดเป็นท้าวสักกะ เป็นพรหม เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ก็ไม่พ้นจากทุกข์ได้เพราะ ยังไม่ตรัสรู้ไม่ได้แทงตลอดธรรม 4 ประการ คือ อริยศีล อริยสมาธิ อริยปัญญา และอริยวิมุตติ ซึ่งถ้าหากผู้ใดแทงตลอดในธรรมทั้ง 4 ประการนี้ ก็ชื่อว่าตรัสรู้แล้ว แทงตลอดแล้ว สามารถถอนตัณหาในภพอันเป็นเหตุทำให้เกิดได้แล้ว จึงไม่ต้องบังเกิดอีกต่อไป เป็นการปลอดภัยอย่างแท้จริง

ขอแปะไว้ก่อน เด่วมาอ่านให้จบ ยิงฟันยิ้ม  ท่านเอามาจากไหนครับ ผมอยากอ่านเพิ่มเติมครับ
บันทึกการเข้า

มนตรี  โพยนอก
49/109 ม.2 ซ.สายไหม34  สายไหม กทม 10220

บัญชี ออมทรัพย์ 865-016-7862  ธ.กรุงเทพ สาขา แฟร์ชั่นฯ ยิ้มกว้างๆ

0875699085 dtac / 0891634023 true สดวก12.00-23.00น.

ติดตาม สอบถาม ได้ที่
https://www.facebook.com/MontriShopRescue

ผมไม่ได้เป็นผู้เช่าพื้นที่โฆษณานานแล้วนะครับรอเจ้าของเวปปลด
inbox
Sr. Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 397

กดที่รูปโลกด้านล่าง


« ตอบ #17 เมื่อ: 18 เมษายน 2012, 04:16:27 »

 ตกใจ
บันทึกการเข้า

ขณะที่เรายังมีลมหายใจ การใช้ชีวิตในโลกนี้ก็ไม่มีอะไรแน่นอน
เปิดใจให้กว้าง มองที่ปลายฟ้าบ้าง อย่ามองแต่ส้นตีน
แฮมโคราชา
แฮมรุ่นเก๋าแต่ไม่เก่า
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12476


HS3BXY ณ โคราชา


เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 18 เมษายน 2012, 08:56:15 »

มนุษย์ หนอ มนุษย์ กลัวโลกจะแตก ทำไมไม่กลัวหัวแตกกันล่ะครับ เมื่อคืนกลับบ้านดึก 555+++ ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

HS3BXY (แอท) ปากช่อง
โทร 0933243377 AIS
e20xnk
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 703


อยากได้ของดีต้องลงทุน


« ตอบ #19 เมื่อ: 18 เมษายน 2012, 09:14:54 »

มนุษย์ หนอ มนุษย์ กลัวโลกจะแตก ทำไมไม่กลัวหัวแตกกันล่ะครับ เมื่อคืนกลับบ้านดึก 555+++ ยิงฟันยิ้ม
555+ ;Dระวังน้อ
บันทึกการเข้า

e20xnk T.. 089-222-8294  (144.525mhz

019-2-849-213 สาขาบางคอแหลม
HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND
   

 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  


 
กระโดดไป:  

ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ�
ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ�


Webmaster Earn Money! By Affiliate Program 100% Pay
www.samuismile.com

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF | SMF © 2006-2009, Simple Machines
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!