โดยปกติการติดตั้งแก๊สธรรมชาติ (เอ็นจีวี, แอลพีจี) ในประเทศไทย จะติดตั้งได้เฉพาะเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินเพียงเท่านั้น แต่ปัจจุบันสามารถใช้แก๊สธรรมชาติ ร่วมกับเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลได้เป็นผลสำเร็จ โดยไม่ต้องดัดแปลงเครื่องยนต์ และช่วยประหยัดน้ำมันดีเซลได้มากถึง 95% ในอัตราความเร็วคงที่ 90 กม.ต่อชม.
โครงการพัฒนาชุดควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์เชิงพาณิชย์ สำหรับเครื่องยนต์เชื้อเพลิงคู่ดีเซลและแก๊สธรรมชาติ เป็นผลงานนวัตกรรมการออกแบบโปรแกรมการควบคุมเครื่องยนต์เชื้อเพลิงคู่ ของ ผศ.ดร.วิทิต ฉัตรรัตนกุลชัย หัวหน้าโครงการ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับนักวิจัยจากห้องปฏิบัติการควบคุมหุ่นยนต์และการสั่นสะเทือน ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล มก. ได้แก่ นายกิตติพงษ์ เยาวาจา นายวัชรพล บิลหะยีหมัด และนายศุภรัฐ ดำยศ
นวัตกรรมดังกล่าว สามารถตอบโจทย์และลดปัญหาน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีราคาสูงในปัจจุบัน กล่าวคือ โดยปกติเครื่องยนต์ดีเซลต้องใช้น้ำมันดีเซล ซึ่งต้องนำเข้าจากต่างประเทศและมีราคาสูง ดังนั้น เจ้าของรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซล จึงพยายามที่จะนำแก๊สธรรมชาติมาใช้กับเครื่องยนต์ดีเซล แต่ก็มีปัญหา 2 ประการ คือ
1. ต้องดัดแปลงเครื่องยนต์มาก ทำให้ไม่คุ้มกับการลงทุน และ 2. รถที่ไม่ต้องดัดแปลงเครื่องยนต์ ก็ควบคุมเครื่องยนต์ได้เพียงบางส่วน จึงประหยัดน้ำมันดีเซลได้ไม่เท่าที่ควร
จากปัญหาดังกล่าว นักวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงได้คิดค้นออกแบบระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์เองทั้งหมดของเครื่องยนต์ดีเซลดัดแปลงใช้เชื้อเพลิงคู่ดีเซลและแก๊สธรรมชาติ มีจุดเด่น เป็นชุดควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์มาตรฐานจากอเมริกา เดินเครื่องเบาด้วยเชื้อเพลิงคู่ สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้หลายรูปแบบ ได้แก่ โหมดประหยัด โหมดแรงม้า โหมดขับสบาย และโหมดสมดุล นอกจากนี้ยังสามารถปรับการควบคุมได้ตามคุณภาพของแก๊สฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกด้วย
ผศ.ดร.วิทิต ฉัตรรัตนกุลชัย เปิดเผยว่า จากการทดลองนำชุดควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ไปใช้กับเครื่องยนต์รถกระบะดีเซล โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ 2.5 ลิตรรุ่นล่าสุด ได้ผลสรุปว่า ใน การวิ่งทางไกล ด้วยความเร็วคงที่ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนเกียร์ 5 ได้ระยะทาง 355 กิโลเมตรต่อน้ำมันดีเซลหนึ่งลิตร ซึ่งเมื่อเทียบกับการที่ใช้น้ำมันดีเซลเพียงอย่างเดียวสามารถวิ่งได้เพียง 19 กิโลเมตร หรือคิดเป็นการแทนน้ำมันดีเซลด้วยแก๊สธรรมชาติเท่ากับ 95 เปอร์เซ็นต์โดยปริมาตร เท่ากับประหยัดน้ำมันดีเซลได้ถึง 95%
สำหรับการวิ่งในเมือง ได้ทำการทดลองขับรอบมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รวมเป็นระยะทาง 50 กิโลเมตร ปรากฏว่า การใช้น้ำมันดีเซลลดเหลือ 25 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันดีเซลเพียงอย่างเดียว ต้นทุนเชื้อเพลิงทั้งหมด (ดีเซลและแก๊ส) คิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ เมื่อคิดราคาดีเซลที่ 34 บาทต่อลิตร ราคาแก๊สธรรมชาติ 9.5 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันดีเซลเพียงอย่างเดียว
นับได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถยนต์ในช่วงนี้ที่ราคาน้ำมันสูงและแก๊สธรรมชาติก็มีการปรับราคาสูงขึ้นเช่นกัน สำหรับค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนในการติดตั้งชุดควบคุมอิเล็กทรอนิกส์พร้อมการติดตั้งระบบแก๊สธรรมชาติ อยู่ที่ราคา 55,000 บาท ซึ่งเมื่อคำนวณจุดคุ้มทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 6 เดือนเท่านั้น จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้รถยนต์และรวมไปถึงโรงงานผลิตรถยนต์ที่ต้องคำนึงถึงการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นที่ตั้ง
ผู้สนใจขอคำแนะนำและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โทร. 0-2942-8555 ต่อ 1083-4
ผกามาศ ธนพัฒนพงศ์
ประชาสัมพันธ์ มก.
ที่มา
http://www.dailynews.co.th/technology/18079