พวกเราเคยได้ยินเรื่องค่านำส่งของโรงพยาบาลเอกชนกันหรือเปล่า

[tachpong]

วิธีเดียวที่จะหยุดอาชีพนี้คือ....โรงพยาบาลต้องไม่จ่ายค่านำส่ง

[HS 3 UEW]

         ไอ้ที่ว่าเรียกรับเงินผมขอให้กันส่วนที่ดีๆออกนะคับเพราะพวกเหลือบในคราบบักบุญมีจริง
แต่ยังน้อยกว่านักบุญที่มีจิตอาสาเต็มเปี่ยมเยอะ อย่าง รพ ก็อยากได้คนเจ็บจึงมีการตอบแทนน้ำใจ
ด้วยวิธีนี้ แต่ถ้าเจอคนจิตอาสาจริงๆและเปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรมต่อเพื่อนมนุษย์มันจะไม่เกิดเหตุการณ์
เช่นนี้แน่นอน ขอบคุนคับ
          อย่าอ้างว่ารถต้องเติมน้ำมันไม่ได้เติมน้ำ
          จิตอาสาจริงเท่านั้นที่รู้ว่าบาปบุญมันมีจริง

[tey]

มันเป็นมานานแล้วละ

http://www.212cafe.com/freewebboard/view.php?user=sareeya&id=2421

ประเด็นข่าวดัง: ศูนย์พญาอินทรีเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข ยกเลิกการจ่ายค่าเคสแก่ หน่วยกู้ชีพที่ส่งผู้บาดเจ็บบนท้องถนนเพราะเป็นที่มาของการยิงกัน ทำร้ายกัน เรื่องนี้สื่อมวลฃนทั้งหลาย รู้หรือไม่ จ่ายกัน 500-1200 บาท ที่เข้าใจกันว่ารพ.แจก ข้อเท็จจริงแล้ว กระทรวงสาธารณสุข เป็น ผู้จ่ายค่าเคสเอง นั่นไง.....จึงแย่งกันเพื่อสร้างยอดรายได้

========================================
อ่านแล้วต้องร้อง หึ หึ ในลำคอ ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย ถึงยุคสมัยนี้เมื่อเจ็บป่วยฉุกเฉิน เรายังอยากให้ใครช่วยเหลือเราตามใจชอบได้อยู่เหรอ ชีวิตมนุษย์เนี่ยนะ ทำด้วยใจ มันเพ้อฝันมากเลย เท่ากับว่าเรายอมรับด้วยว่าการทำด้วยใจมันจะมีมาตรฐานเท่ากันทุกคน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เครื่องแบบที่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับระบบโดยรวม อุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน ต่างหล่นมาจากฟ้าให้เราใช้ได้ฟรีๆ เช่นนั้นหรือ?

การจ่ายค่าเคสต่างจากค่าดำเนินการตรงที่ ค่าเคสที่จ่ายจากโรงพยาบาลเอกชน แอบจ่ายให้หน่วยที่ไปส่งคนเจ็บจากอุบัติเหตุจราจรที่โรงพยาบาลนั้นๆ แต่ค่าดำเนินการจ่ายให้ที่ศูนย์กู้ชีพ ไม่ได้จ่ายให้หน่วยบริการโดยตรง ศูนย์กู้ชีพนั้นๆจึงสามารถบริหารเงินนี้เป็นค่าเงินเดือน ค่าอุปกรณ์ ตามระเบียบรถ FR, BLS, ALS ที่กำหนดจากกระทรวงได้ ถามว่าถ้าไม่จ่ายแล้วจะมีใครหน้าไหนยอมมาโดนบังคับให้ต้องใส่เครื่องแบบนี้ มีอุปกรณ์นี้ ผ่านการอบรมนี้ และที่สำคัญต้องออกเคสตามคำสั่งของศูนย์สั่งการเท่านั้น และต้องอยู่ในเขตรับผิดชอบอีกด้วย นี่ขนาดจ่ายยังทำนอกระเบียบเยอะแยะ ถ้าไม่จ่ายมีหวังกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นเจ้าภาพ คงสั่งอะไรไม่ได้เลย ซึ่งนี่ไม่ใช่ระบบที่ประชาชนควรจะได้รับ เพราะจะขาดประสิทธิภาพและสิ้นเปลืองมหาศาล

การทำด้วยใจนั้นดี แต่ม้นไม่เหมาะกับระบบช่วยชีวิตฉุกเฉินเลย เพราะจะขาดเอกภาพอย่างมาก

ว่ามั้ย? การจ่ายค่าดำเนินการในต่างประเทศ ที่รัฐไม่สามารถจัดหน่วยบริการให้ครอบคลุมทั่วไปนั้น จะใช้วิธีจ้างเอกชนวิ่ง ซึ่งประหยัดกว่ารัฐทำเอง โดยจ่ายกันครั้งละเป็นหมื่นๆบาท (800 เหรียญ) ในขณะที่ประเทศที่รัฐดำเนินการทั้งหมดนั้น ต่างประสบปัญหาการเงินแทบเอาตัวไม่รอดทั้งนั้น เช่น ที่อังกฤษ ออสเตรเลีย

สมมติว่ารัฐ (สาสุข) จัดตั้งศูนย์กู้ชีพด้วยเงินตัวเองทั้งหมด ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นมันต้องมากกว่า 2,000 บาทต่อเคสแน่นอน การจ่ายครั้งละ 500 - 1,000 ต่อเคส เพื่อเป็นค่าดำเนินการ โดยมีเจ้าภาพควบคุมสั่งการ จึงเป็นเรื่องที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพสูงมาก

ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากความหย่อนยานของการควบคุมหน่วยบริการ ถ้า กทม. ก็คือศูนย์เอราวัณ ที่ตอนนี้ทำตัวไม่ค่อยรู้ร้อนรู้หนาวเท่าไหร่ ถ้าจะควบคุมมันมีวิธีอยู่เยอะแยะ ตัวอย่างเช่นมีการสุ่มตรวจหน่วยบริการที่ออกเคสตามที่ต่างๆ คือไปดูการทำงาน ณ จุดเกิดเหตุ ถ้าพบความผิด (เช่น ยิงกันแบบนี้) ก็ควรประสานตำรวจให้จับกุมเดี๋ยวนั้น

[boy service]

ไม่ไช่ค่าเคสอย่างเดียวครับ ถ้าตาย จนท.ห้องศพขายโลงอีกเจอมาแล้ว ถ้าไม่ขายเองก็ติดต่อหรือให้เบอร์ญาติกับรถที่มาเก็บศพ เดี๋ยวนี้รถมูลนิธิที่เก็บศพมีการขายโลงด้วย ถ้าไม่ขายเองกลัวโดนร้องเรียน ก็จะแจ้งให้ร้านโลงมาที่เกิดเหตุ ถ้าขายโลงได้ หรือใช้รถรับส่ง ก็จะได้เปอร์เซ็นต์ ทำไมผมรู้เพราะผมก็อาชีพขายโลง เคยให้เปอร์เซ็นต์พวกนี้อยู่ เราต้องขายโลงราคาสูง เพราะต้องให้เปอร์เซ็นต์พวกรถมูลนิธิ ตอนหลังผมให้เปอร์เซ็นต์น้อย เพราะว่าเราขายโลงถูก ไม่แพง สงสารญาติเขา พวกนี้ขายเองเลย เพราะติดต่อร้านทำโลง ได้ราคาส่ง ขายราคาสูง ขายเอง เอากำไรเองเต็มๆ สบายเลย พอเราเข้าไปที่เกิดเหตุ พวกนี้จะไล่เราเลย บอกว่าคุยกับญาติเรียบร้อยแล้ว  ญาติบางคนกลัวไม่มีรถ ไม่มีโลง กลัวจะรับศพไม่ได้(กรณีส่งศพไปตรวจที่นิติเวช) เข้าทางพวกนี้เลย แถมขู่อีกต่างหาก ว่าต้องให้พวกนี้ดำเนินการถึงจะรับศพได้ เวรกรรม( ทำไมจะรับไม่ได้ก็มันญาติเรานี่หว่า เอกสารครบก็รับได้ 1.สำเนาบัตรประชาชน 2.สำเนาทะเบียนบ้าน อย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งของคนตาย และของคนรับศพ ไปแจ้งขอรับศพ แค่นี้ก็รับได้แล้ว )ถ้าต่างชาติ ก็เพิ่มหนังสือมอบอำนาจจากสถานทูต มีข้อสงสัยโทรไปถามที่นิติเวชเลย 02-2076108,02-2512925-6 จะได้ไม่โดนเอาเปรียบครับ

[tachpong]

ณ กระทู้นี้ผมขอต่อต้านเงินนอกระบบที่โรงพยาบาลแอบให้เป็นการดึงลูกค้านะครับ

ส่วนเงินในระบบการแพทย์ฉุกเฉินผมมองว่าไม่ผิดหรอกมันเป็นระบบที่เปิดเผย

แต่ยืนยันในพื้นที่ผมมีอาชีพนี้จริงชนิดว่ากินอิ่มนอนหลับเลยเคสละ300 สองเคส600 สามเคส900 (เงิน รพ.แอบให้)

พออยู่หน่วยงานใหญ่ๆเค้าว่าเอาก็เลยออกไปรวมตัวกันแล้วเรียกตัวเองว่ากู้ภัย (ไครรองรับ) ส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ครับ

เพราะถ้าอยู่ในมูลนิธิใหญ่ๆคงทำลำบากแจ้ง ว.8 ว่าส่งที่นี้ ก็โดนด่าลอยๆในช่องแล้ว

คนสายไหมเค้ารู้ดี

[tachpong]

ถึงคุณ tey ครับ เงินในระบบการแพทย์ฉุกเฉินเค้าจ่ายให้หน่วยงานที่ผ่านการตรวจและขัดกรองผมเข้าใจและเห็นด้วย

แต่กระทู้นี้เค้าต่อต้อนเงินใต้โต๊ะที่แอบให้คนนำส่งของโรงพยาบาลเอกชนบางโรงพยาบาลเพื่อเรียกลูกค้าโดยมันเลยเกิดปัญหา

ขอเรียนนะครับว่าต้องแยกแยะเพราะระบบการแพทย์ที่รัฐจัดไม่เลือกโรงพยาบาลที่ส่ง

แต่เงินใต้โต๊ะนั้นเลือกโรงพยาบาลส่งไกลแค่ไหนก็ไปส่ง

เงินในระบบไม่เกี่ยวเพราะไม่สร้างปัญหา แต่เงินใต้โต๊ะต่างหากที่สร้างปัญหา

ถ้าเป็นคนกู้ภัยเค้าจะรู้จักดี

[kanchai]

ผมก็เป็นอาสาสมัครคนนึงของมูลนิธิอาสาหนองจอก  (ศูนย์ราชพฤกษ์) มูลนิธิของชาวหนองจอก กทม.  มีอุดมการไม่แสวงหาผลประโยชน์จากคนเจ็บที่พวกเขาก็ได้รับความเดือดร้อน  ช่วยเหลือเฉพาะในพื้นที่เขตหนองจอก กทม.  เพราะชาวหนองจอกร่วมกันก่อตั้งกันขึ้นมากว่า 30 ปี  ไม่เคยออกไปปฎิบัติงานนอกพื้นที่เลย  ถือว่าเราให้เกียตริกับหน่วยงานในพื้นที่นั้น  แต่เพราะผลประโยชน์และค่าตอบแทนจากเอกชน  ก็ทำให้อาสาสมัครของบางหน่วยงานโลภมากเข้าไปหาผลประโยชน์ในพื้นที่ที่เขามีหน่วยงานรับผิดชอบแล้ว  มูลนิธิของผมก็เช่นกัน  ที่ถูกก้าวก่ายงาน  ในพื้นที่เขตหนองจอกก็มี รพ.เวชการุณย์รัศมี (รพ.หนองจอก)  ใกล้ๆ  แต่มูลนิธิที่เข้ามาก้าวก่ายงานก็นำส่งเอกชนที่มีนบุรี  ซึ่งมีระยะทางกว่า 20 กม.  บางครั้งราชพฤกษ์เข้าไปช่วยเหลือก่อน พวกมันก็ไม่พอใจรวมพวกมาทำร้าย  ดูความโหดของมูลนิธิหนึ่งที่ทำร้าย มูลนิธิอาสาหนองจอก (ศูนย์ราชพฤกษ์)  http://arsanongchok.thde.com/-View.php?N=142

[kanchai]

ผมก็เป็นอาสาสมัครคนนึงของมูลนิธิอาสาหนองจอก  (ศูนย์ราชพฤกษ์) มูลนิธิของชาวหนองจอก กทม.  มีอุดมการไม่แสวงหาผลประโยชน์จากคนเจ็บที่พวกเขาก็ได้รับความเดือดร้อน  ช่วยเหลือเฉพาะในพื้นที่เขตหนองจอก กทม.  เพราะชาวหนองจอกร่วมกันก่อตั้งกันขึ้นมากว่า 30 ปี  ไม่เคยออกไปปฎิบัติงานนอกพื้นที่เลย  ถือว่าเราให้เกียตริกับหน่วยงานในพื้นที่นั้น  แต่เพราะผลประโยชน์และค่าตอบแทนจากเอกชน  ก็ทำให้อาสาสมัครของบางหน่วยงานโลภมากเข้าไปหาผลประโยชน์ในพื้นที่ที่เขามีหน่วยงานรับผิดชอบแล้ว  มูลนิธิของผมก็เช่นกัน  ที่ถูกก้าวก่ายงาน  ในพื้นที่เขตหนองจอกก็มี รพ.เวชการุณย์รัศมี (รพ.หนองจอก)  ใกล้ๆ  แต่มูลนิธิที่เข้ามาก้าวก่ายงานก็นำส่งเอกชนที่มีนบุรี  ซึ่งมีระยะทางกว่า 20 กม.  บางครั้งราชพฤกษ์เข้าไปช่วยเหลือก่อน พวกมันก็ไม่พอใจรวมพวกมาทำร้าย  ดูความโหดของมูลนิธิหนึ่งที่ทำร้าย มูลนิธิอาสาหนองจอก (ศูนย์ราชพฤกษ์)  http://arsanongchok.thde.com/-View.php?N=142

[hs1amm]

สาบานได้มั้ยเวลา รพ.ยื่นเงินให้ไม่รับ มูนนิธิมีชื่อน่าเชื่อถือเขาทำเพื่อเอาบุญ ผู้อาสัยมูนนิธิทำเพื่อเอาเงิน ขนคนเจ็บขึ้นรถ ล้วงควักทรัพย์สินหากป็นผู้หญิงสวยสลบไม่มีส่วนใหนจะไม่จะไม่โดนมือ น่ารังเกียจมากๆ อุบัติเหตุเกิดห่างจากรพ.ของรัฐ 200 ม ไม่เอาเข้าวิ่งไปส่งรพ.เอกชน ห่างไปอีก 2 กม อ้างว่ารักษาดีกว่า
คนดีๆๆที่ตั้งใจเพื่อกุศลขอเป็นกำลังใจครับ ส่วนคนเลวขอให้มันพบกับสิ่งที่มันเคยทำกับคนอื่นๆ