http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/00124300.PDFhttp://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2548/00168353.PDFhttp://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2553/E/089/42.PDFhttp://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2553/E/089/81.PDFมาตรา ๑๓ ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถทุกชนิดในทางเดินรถใช้ไฟสัญญาณแสงวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน เสียงสัญญาณที่เป็นเสียงนกหวีดเสียงที่แตกพร่า เสียงหลายเสียง เสียงดังเกินสมควร หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นตามที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
อธิบดีมีอำนาจอนุญาตให้รถฉุกเฉิน รถในราชการทหารหรือตำรวจหรือรถอื่นใช้ไฟสัญญาณวับวาบหรือใช้เสียงสัญญาณไซเรนหรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นได้ ในการนี้อธิบดีจะกำหนดเงื่อนไขในการใช้ไฟสัญญาณหรือเสียงสัญญาณรวมทั้งกำหนดเครื่องหมายที่แสดงถึงลักษณะของรถดังกล่าวด้วยก็ได้โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข้อกำหนดสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรื่อง กำหนดเงื่อนไขในการใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรนหรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นและเครื่องหมายแสดงลักษณะของรถฉุกเฉิน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำหนดเงื่อนไขในการใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นและเครื่องหมายแสดงลักษณะของรถฉุกเฉิน โดยออกข้อกำหนดไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกข้อกำหนดกรมตำรวจ เรื่อง กำหนดเงื่อนไขในการใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นและเครื่องหมายแสดงลักษณะของรถฉุกเฉิน ฉบับลงวันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๖
ข้อ ๒ การขออนุญาตใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่น ให้เป็นไปตามประกาศของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ข้อ ๓ รถที่จะอนุญาตให้ใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่น จะต้องเป็นรถดังต่อไปนี้
๓.๑ รถในราชการทหารหรือตำรวจ
๓.๒ รถดับเพลิงและรถพยาบาลของทางราชการ
๓.๓ รถอื่นที่ได้รับอนุญาตจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือผู้ได้รับมอบอำนาจ
ข้อ ๔ รถที่จะใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่น จะต้องได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือผู้ได้รับมอบอำนาจเสียก่อน จึงจะติดตั้งและใช้ไฟสัญญาณหรือเสียงสัญญาณได้
หนังสืออนุญาตตามความในวรรคก่อนให้เป็นไปตามแบบท้ายข้อกำหนดนี้
ข้อ ๕ รถของทางราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว ให้ใช้ได้ตลอดไปจนกว่าจะมีการจำหน่วยรถนั้น หรือมีการเปลี่ยนภารกิจของการใช้รถและภารกิจนั้นไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะอนุญาตให้ใช้ไฟสัญญาณวับวาบหรือเสียงสัญญาณได้ สำหรับรถอื่นๆ ให้มีอายุไม่เกินกว่า ๓ ปี นับแต่วันอนุญาตและทั้งนี้ให้ถ่ายสำเนาหนังสืออนุญาตติดไว้ที่กระจกบังลมด้านหน้าของรถในสภาพมองเห็นได้ชัดเจน เพื่อการตรวจสอบของเจ้าพนักงานตลอดระยะเวลาการใช้รถดังกล่าว
ข้อ ๖ ลักษณะของไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่น
๖.๑ ไฟสัญญาณจะต้องติดตั้งบนหลังคาให้เห็นได้ชัดเจน แสงของไฟสัญญาณจะต้องส่องออกทางด้านหน้ารถกะพริบวับวาบหรือหมุนให้แสงส่องวับวาบโดยรอบรถก็ได้ สีของแสงไฟสัญญาณให้ใช้ดังนี้
๖.๑.๑ แสงแดง สำหรับรถในราชการทหารหรือตำรวจ รถดับเพลิงและรถในราชการอื่นที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเห็นสมควรเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย
๖.๑.๒ แสงน้ำเงิน สำหรับรถพยาบาล
๖.๑.๓ แสงเหลือง สำหรับรถอื่น
๖.๒ เสียงสัญญาณ ให้ใช้ดังนี้
๖.๒.๑ เสียงสัญญาณไซเรน สำหรับรถในราชการทหารหรือตำรวจ รถดับเพลิง และรถในราชการอื่นที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเห็นสมควรเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย
๖.๒.๒ เสียงสัญญาณหลายเสียง (เสียงสูงต่ำสลับกัน) สำหรับรถพยาบาล
ข้อ ๗ เครื่องหมายแสดงลักษณะของรถฉุกเฉิน
๗.๑ รถฉุกเฉินยกเว้นรถในราชการทหารหรือตำรวจ รถของทางราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ จะต้องมีข้อความว่า “รถฉุกเฉินได้รับอนุญาตแล้ว” และข้อความระบุชื่อจังหวัดที่อนุญาต เป็นตัวอักษรสีแดงพื้นสีขาว มีขนาดความสูง ๑๐ เซนติเมตร ติดไว้ที่ด้านข้างรถทั้งสองด้านโดยจะอยู่ในแถวเดียวกันหรือคนละแถวก็ได้
๗.๒ รถดับเพลิงเอกชน ให้มีข้อความว่า “หน่วยอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย…….(ชื่อหน่วยงาน)……..” เป็นตัวอักษรสีขาว มีขนาดความสูง ๑๐ เซนติเมตร เหนือข้อความตามข้อ ๗.๑
๗.๓ รถพยาบาลเอกชน ให้มีข้อความระบุชื่อหน่วยงาน เป็นตัวอักษรสีน้ำเงิน มีขนาดความสูง ๑๐ เซนติเมตร เหนือข้อความตามข้อ ๗.๑
๗.๔ รถอื่นปฏิบัติทำนองเดียวกับข้อ ๗.๓ โดยตัวอักษรเป็นสีขาวอยู่ภายในกรอบพื้นสีเหลือง
๗.๕ กรณีที่มีเครื่องหมายแสดงสัญลักษณ์ของนิติบุคคลสำหรับหน่วยงานเอกชน ให้ติดเครื่องหมายดังกล่าว ไว้ที่ประตูหน้าเท่านั้น
๗.๖ เฉพาะรถเอกชน นอกจากข้อความและสัญลักษณ์ดังกล่าวข้างต้น ห้ามมิให้มีข้อความหรือสัญลักษณ์อื่นใด
ข้อ ๘ การใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่น
๘.๑ การใช้ไฟสัญญาณและเสียงสัญญาณพร้อมกัน ให้ใช้ในกรณีจำเป็นต้องใช้รถเดินทางเพื่อปฏิบัติหน้าที่เมื่อมีเหตุฉุกเฉินโดยรีบด่วน หรือเพื่อนำหรือปิดท้ายขบวนซึ่งจำเป็นต้องอารักขาให้ความปลอดภัยเป็นพิเศษ
๘.๒ การใช้ไฟสัญญาณโดยไม่ใช้เสียงสัญญาณ ให้ใช้ในกรณีที่จำเป็นต้องเดินทางเพื่อปฏิบัติหน้าที่โดยเร็ว การนำหรือปิดขบวนรถ ขบวนคนเดินเท้า ซึ่งอาจกีดขวางการจราจร หรือในกรณีที่หยุดรถปฏิบัติหน้าที่เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน หรือกรณีที่จำเป็นเพื่อให้ผู้ใช้ทางทราบและสังเกตเห็นได้ง่าย
๘.๓ รถอื่นนอกจากรถในราชการทหารหรือตำรวจ รถดับเพลิง รถพยาบาล ให้ใช้ไฟสัญญาณเพียงอย่างเดียว เว้นแต่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะเห็นสมควรเป็นอย่างอื่น
๘.๔ รถโรงเรียน ห้ามมิให้ใช้ไฟสัญญาณวับวาบขณะขับรถในทาง เว้นแต่ในขณะหยุดรถเพื่อรับส่งนักเรียนขึ้นหรือลงรถหรือในขณะหยุดรถเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้ใช้ทางทราบและสังเกตเห็นได้ง่ายและไม่ต้องปฏิบัติตามข้อ ๗
ข้อ ๙ การเพิกถอน และการส่งคืนหนังสืออนุญาต
๙.๑ กรณีผู้รับอนุญาต เจ้าของรถหรือผู้ขับขี่กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
๙.๑.๑ ใช้ไฟสัญญาณหรือเสียงสัญญาณโดยไม่มีเหตุอันสมควร
๙.๑.๒ กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๓ (๑) และ (๒)
๙.๑.๓ กระทำความผิดกฎหมาย อันเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี
๙.๑.๔ กระทำความผิดอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ตั้งแต่สองครั้งขึ้นไป คือ
๙.๑.๔.๑ ความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ยกเว้นมาตรา ๔๓ (๑) และ (๒)
๙.๑.๔.๒ ความผิดตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวกับการจราจร
๙.๑.๔.๓ ใช้รถที่มีอุปกรณ์ไม่ครบถ้วนตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกประกาศกำหนดไว้ หรืออยู่ในสภาพที่ไม่สามารถใช้การได้ดีหรืออาจเกิดอันตราย
๙.๑.๕ ใช้ไฟสัญญาณวับวาบหรือเสียงสัญญาณไม่ตรงตามที่ได้รับอนุญาต หรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดหรือประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ให้เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานสอบสวนจัดทำรายงานแสดงเหตุแห่ง
พฤติการณ์ของความผิดและผลคดีถึงที่สุด พร้อมความเห็นเสนอไปยังกองบังคับการตำรวจจราจร หรือตำรวจภูธรจังหวัด แล้วแต่กรณี เพื่อนำเสนอผู้อนุญาตเป็นผู้พิจารณาว่ากล่าวตักเตือนหรือเพิกถอนหนังสืออนุญาต
๙.๒ รถของทางราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เมื่อมีการเปลี่ยน
ภารกิจของการใช้รถ และภารกิจนั้นไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะอนุญาตให้ใช้ไฟสัญญาณวับวาบหรือเสียงสัญญาณได้ หรือกรณีที่มีการจำหน่ายจ่ายโอน ให้มีหนังสือและนำหนังสืออนุญาตส่งคืนไปยังกองบังคับการตำรวจจราจร หรือตำรวจภูธรจังหวัด ภายใน ๗ วัน นับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลงภารกิจ หรือวันที่มีการจำหน่ายจ่ายโอน แล้วแต่กรณี เพื่อยกเลิกหนังสืออนุญาตนั้น
๙.๓ รถของเอกชน เมื่อเปลี่ยนเจ้าของหรือผู้ครอบครอง เปลี่ยนสภาพรถ เปลี่ยนวัตถุประสงค์ของการใช้รถ หรือถูกเพิกถอนหนังสืออนุญาต ให้ผู้ได้รับอนุญาต เจ้าของหรือผู้ครอบครองรถ ดำเนินการลบข้อความตามข้อ ๗ และถอดไฟสัญญาณ เสียงสัญญาณที่ได้รับอนุญาตให้ติดตั้งออกจากรถนั้นทันที แล้วให้มีหนังสือแจ้งและนำหนังสืออนุญาตส่งคืนไปยังกองบังคับการตำรวจจราจร หรือตำรวจภูธรจังหวัด ภายใน ๗ วัน นับแต่วันที่ได้มีการเปลี่ยนเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถ เปลี่ยนสภาพรถ เปลี่ยนวัตถุประสงค์ของการใช้รถ หรือได้รับทราบคำสั่งการเพิกถอนแล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๐ การขอต่ออายุการอนุญาต ให้ยื่นเรื่องขอต่อก่อนครบกำหนดอย่างน้อย ๒ เดือน และให้ใช้ต่อไปได้ จนกว่าจะได้รับแจ้งไม่อนุญาต
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
พลตำรวจเอก สันต์ ศรุตานนท์
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
หนังสืออนุญาต
ให้ใช้ไฟสัญญาณวับวาบ หรือใช้เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่น
---------------------------------------------------------------
ข้อกำหนดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เรื่อง กำหนดเงื่อนไขในการใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นและเครื่องหมายแสดงลักษณะของรถฉุกเฉิน
(ฉบับที่ ๒)
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงแก้ไขข้อกำหนดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง กำหนดเงื่อนไขในการใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นและเครื่องหมายแสดงลักษณะของรถฉุกเฉิน ฉบับลงวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงออกข้อกำหนดไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ข้อกำหนดนี้เรียกว่า “ข้อกำหนดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง กำหนดเงื่อนไขในการใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นและเครื่องหมายแสดงลักษณะของรถฉุกเฉิน (ฉบับที่ ๒)”
ข้อ ๒ ให้ยกเลิกความในข้อ ๖.๑ แห่งข้อกำหนดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง กำหนดเงื่อนไขในการใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นและเครื่องหมายแสดงลักษณะของรถฉุกเฉิน ฉบับลงวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“๖.๑ ไฟสัญญาณจะต้องติดตั้งบนหลังคาให้เห็นได้ชัดเจน แสงของไฟสัญญาณจะต้องส่องออกทางด้านหน้ารถกระพริบวับวาบหรือหมุนให้แสงสว่างวับวาบโดยรอบรถก็ได้ สีของแสงไฟสัญญาณให้ใช้ ดังนี้
๖.๑.๑ แสงแดง สำหรับรถในราชการทหารหรือตำรวจ รถดับเพลิง และรถในราชการอื่นที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เห็นสมควรเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย
๖.๑.๒ แสงแดงและน้ำเงิน สำหรับรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากปลัดกระทรวงสาธารณสุข
๖.๑.๓ แสงน้ำเงิน สำหรับรถพยาบาลประเภทอื่นนอกจากรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินตามข้อ ๖.๑.๒
๖.๑.๔ แสงเหลือง สำหรับรถอื่น”
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
กำหนด ณ วันที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๗
พลตำรวจเอก สุนทร ซ้ายขวัญ
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชา