HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND

Home » Hilight, MSN, อาชญากรรม » ใบขับขี่เป็นทรัพย์สิน ตำรวจไม่สามารถยึดได้

ใบขับขี่เป็นทรัพย์สิน ตำรวจไม่สามารถยึดได้
Sep 15th, 2010

โปรดอ่าน…เพราะมีประโยชน์สำหรับผู้ขับขี่ ในรายการ บันทึกสถานะการณ์ ทางวิทยุแห่งประเทศไทยตอน 8.00 น. มีการสัมภาษณ์ คุณจาตุรงค์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรี เรื่องมาตรการความปลอดภัยในช่วงเทศกาล มีตอนหนึ่งที่ท่านพูดว่า



ใบขับขี่เป็นทรัพย์สิน ตำรวจไม่สามารถยึดได้ ตำรวจต้องออกใบสั่ง ให้ไปเสียค่าปรับ ถ้าหากยึดใบขับขี่ ถือเป็นการลักทรัพย์ แต่ความเป็นจริงทั้งในอดีตและในปัจจุบันนี้เวลาตำรวจทางหลวงหรือตำรวจจราจร และแม้แต่ตำรวจสายตรวจ หรือตามด่านต่างๆ เวลาเรียกรถเพื่อตรวจ มักจะขอดูใบขับขี่ และยึดเอาไป แล้วหาข้อหาให้ทราบ

บางทีก็ยึดแล้วเดินเข้าป้อมเพื่อให้คนขับรถเข้าไปเจรจา บางทีก็ยึดโดยไม่ให้ใบสั่งแต่บอกให้ไปเอาที่สถานี บางทีก็ยึดไปพร้อมออกใบสั่ง เพื่อให้ไปเสียค่าปรับ

ประชาชนส่วนใหญ่งง วิธีการปฏิบัติของตำรวจ ต่อไปนี้ถ้าตำรวจจะยึดใบขับขี่ต้องไม่ยอมให้ ไป ถ้าตำรวจเอาไปจริงๆ ต้องแจ้งความข้อหาลักทรัพย์ 

เวลาทำผิดกฏจราจร ตำรวจก็ให้ใบสั่งได้อยู่แล้ว และใบสั่งมีความสำคัญมาก ผู้รับต้องไปเสียค่าปรับ ถ้าไม่ไป ทางราชการก็มีมาตรการที่จัดการอยู่แล้ว เช่นไม่ต่อทะเบียนตัดคะแนน

เมื่อได้อ่าน และรู้เช่นนั้นแล้ว กรุณาส่งต่อ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเสียอารมณ์ ในเวลาขับรถเพื่อความปลอดภัย

Posted by  :  ครูทิพย์

ข่าวโดย : *



VN:F [1.9.3_1094]
please wait...
Rating: 7.6/10 (42 votes cast)
VN:F [1.9.3_1094]
Rating: +63 (from 69 votes)ใบขับขี่เป็นทรัพย์สิน ตำรวจไม่สามารถยึดได้ , 7.6 out of 10 based on 42 ratings (Visited 1 times, 1 visits today)
Tags: ตำรวจ, ทรัพย์สิน, ยึด, เสียค่าปรับ, ใบขับขี่, ใบสั่ง

จริงอ่ะ เค้าจะว่าเราหัวหมอไหม จะโดนจัดหนักป่ะ บ้านเรายิ่งเป็นเป็นแบบนั้น  :P

ต่อไปนี้ผมจะไม่ให้ อยากปรับก็เขียนใบสั่งมา จัดไป

ตำรวจดีมีมากตำรวจเลวก็มิใช่น้อย โดนมาแล้วครับไอ้ไม่ให้มันนี่แหละโดนหนักกว่าเก่าใครเคยโดนข้อหากระด้างกระเดื่องบ้างล่ะผมล่ะงง กฎหมายข้อไหน

ถูกใจครับสำหรับหัวข้อนี้...ในเว็บนี้น่าจะมาให้กด LIKE อิอิ   ;D  จะกดสัก 1000 ครั้ง

 :) :) :) :)

ใบขับขี่เป็นเอกสารของทางราชการไม่ใช่เหรอครับ...หรือผมจำผิดครับ ???

มันอยู่ที่ดุจพินิจของเจ้าพนักงานจราจรครับ
เมื่อกฎหมายให้อำนาจ เขาก็มีสิทธิ์ดำเนินการได้
ในเรื่องยึดใบขับขี่ได้หรือไม่ได้นั้น ต้องไปต่อสู้กันในชั้นศาล
จะเอาแบบให้แหลกเละเสียผู้เสียคนกันไปข้าง หรือประนีประนอม ก็เลือกเอาครับ

พรบ.จราจรทางบก ลักษณะที่ 18
อำนาจของเจ้าพนักงานจราจร และพนักงานเจ้าหน้าที่


มาตรา 140(1) เมื่อเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่พบว่าผู้ขับขี่ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทแห่ง พระราชบัญญัตินี้ หรือกฎหมายอันเกี่ยวกับรถนั้น ๆ จะว่ากล่าว ตักเตือนผู้ขับขี่ หรือออกใบสั่งให้ผู้ขับขี่ชำระค่า ปรับตามที่เปรียบเทียบก็ได้ ในกรณีที่ไม่พบตัวผู้ขับขี่ก็ให้ติดหรือผูกใบสั่งไว้ที่รถที่ผู้ขับขี่เห็นได้ง่าย สำหรับความผิดที่กำหนดไว้ในมาตรา 157 ทวิ มาตรา 159 มาตรา 160 และมาตรา 160 ทวิ ห้ามมิให้ว่ากล่าวตัก เตือนหรือทำการเปรียบเทียบ ในการออกใบสั่งให้ผู้ขับขี่ชำระค่าปรับตามที่เปรียบเทียบตามวรรคหนึ่งเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่จะเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ไว้เป็นการชั่วคราวก็ได้ แต่ต้องออกใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่ให้แก่ผู้ขับขี่ไว้ และเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ต้องรีบนำใบอนุญาตขับขี่ที่เรียกเก็บไว้ไปส่งมอบพนักงานสอบสวน ภายในแปดชั่วโมง นับแต่เวลาที่ออกใบสั่งใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่ที่ออกให้ตามวรรคสามให้ใช้แทนใบอนุญาตขับขี่ได้เป็นการชั่วคราวไม่เกินเจ็ดวัน เมื่อ เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือพนักงานสอบสวนได้ว่ากล่าวตักเตือนหรือทำการเปรียบเทียบปรับ และผู้ขับขี่ได้ชำระค่าปรับตามที่เปรียบเทียบแล้ว ให้คืนใบอนุญาตขับขี่ทันที ในกรณีเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ออกใบสั่งแต่ไม่พบตัวผู้ขับขี่ ให้สันนิษฐานว่าเจ้าของรถหรือผู้ ครอบครองรถเป็นผู้กระทำผิดดังกล่าวเว้นแต่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้อื่นเป็นผู้ขับขี่
การกำหนดจำนวนค่าปรับตามที่เปรียบเทียบ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่อธิบดีกำหนด ใบสั่งและใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่ ให้ทำตามแบบที่เจ้าพนักงานจราจรกำหนด

ผมว่าการยึดใบขับขี่ของตำรวจเป็นประเพณีไปแล้วครับ แต่ผมไม่เคยโดนยึดนะครับ เพราะ ข้างหลังใบขับขี่ของผมมีแบงค์สีแดงๆแนบไปด้วยตำรวจเลยไม่กล้ายึด  ;D ;D ;D

อย่างไปมองเลยครับว่าเป็นเอกสารของใคร....เพราะตามความเป็นจริงที่ทุกๆท่านทราบ ???
ยังไงก็โดนจับอยู่ดีครับถ้าได้เรียกแล้ว....จะยึดหรือไม่ยึดใบขับขี่ก็เหมือนกัน :o
ถกเถียงกันไปให้เสียความรู้สึกป่าวๆ.....ทางที่ดีที่สุดคือปฏิบัติตามกฎจราจร...จบ ;D

ขอโทษน่ะครับผม  ก็เป็นซะแบบนี้ไง  เมืองไทยถึงติดอันดับ  คอรัปชั่น  ถ้าไม่ปฏิบัติผิดจะไปกลัวทำไมเล่า  อิอิอิ

คอรัปชั่น คือ การทุจริตโดยใช้หรืออาศัยตำแหน่งหน้าที่ อำนาจและอิทธิพลที่ตนมีอยู่ เพื่อประโยชน์แก่ตนเองและหรือผู้อื่น รวมถึงการเลือกที่รักมักที่ชัง การเห็นแก่ญาติพี่น้อง กินสินบน ฉ้อราษฎร์บังหลวง การใช้ระบบอุปถัมภ์และความไม่เป็นธรรมอื่น ๆ ที่ข้าราชการหรือบุคคลใดใช้เป็นเครื่องมือในการลิดรอนความเป็นธรรมและ ความ ถูกต้องตามกฎหมายของสังคม

เห็นด้วยครับ

เห็นด้วยครับ แต่การยึดกุญแจนั้นไม่ถูกต้องครับ เว้นแต่เราแสดงอาการหนี หรือไม่ยอมให้ตรวจครับ

พอดีเพิ่งมาเจอ ใบขับขี่เป็นเอกสารของทางราชการ แม้แต่สมุดคู่มือรถพวกท่านก็เป็นเอกสารราชการ นะครับ
ไม่ผิดฐานลักทรัพย์แน่นอนครับ ยึดกุญแจไว้ก็ไม่ผิดฐานลักทรัพย์เนื่องจากไม่มีเจตนาเอามาเป็นของตำรวจเจตนาให้พวกท่านไปเสียค่าปรับ     ถ้าคุณจาตุรนต์พูดจริงก็มั่วครับ

   จริงๆแล้วต้นเหตุของข่าวชิ้นนี้ มาจากฟอร์เวิร์ดเมล์ที่ถูกส่งต่อๆกันมา โดยไม่ทราบว่าใครเป็นคนจัดทำขึ้น
แต่ก็สร้างความสับสนและความเข้าใจผิดให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก เพราะบางคนก็เชื่อสนิทใจตามข้อ
ความที่ได้รับมา
   ทั้งๆที่เจ้าหน้าที่ ก็ปฏิบัติตามกฏหมาย ในเมื่อพรบ.จราจรทางบกกำหนดให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนรถจักรยานยนต์
ต้องสวมใส่หมวกนิรภัย และกำหนดให้ผู้ขับขี่รถยนต์และผู้นั่งด้านหน้า ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย เจ้าพนักงานจึงไม่
มีทางเลือกอย่างอื่น
   และการยึดใบอนุญาตขับขี่หรือกุญแจรถไว้ ก็มีกำหนดระยะเวลาแน่นอนว่าจะต้องนำส่งพนักงานสอบสวนภาย
ในกี่ชั่วโมง และเจ้าพนักงานก็มิได้มีเจตนาจะยึดสิ่งเหล่านั้นเป็นของตนเอง จึงไม่มีความผิดแต่อย่างใด

ไม่รู้ว่าข้อความที่กล่าวเป็นจริงหรือเท็จ แต่เคยถามคนที่เป็นทนายความ เค้าชี้แจ้งว่า ตำรวจไม่สามารถยึดได้ถาวรได้ ยิ่งถ้าเป็นกุญแจถือว่าเป็นทรัทย์สินของเรา เพียงแต่ตรวจสอบได้เท่านั้น ทั้งนี้หากมีการฟ้องร้อง ศาลท่านพิจารณาตามความเหมาะสม ตามที่มาของเหตุ

ถูกต้องครับ
ผมก็ถามอัยการ+ผู้พิพาษามาแล้วครับ   เจตนาไม่ได้เอามาเป็นของตัวเองยังไงก็ไม่ผิดลักทรัพย์ จบข่าวเลิกคุยเรื่องนี้แล้ว ;D

จากบอร์ดนี้ http://fordheartmania.net/webboard/index.php?PHPSESSID=2e2f55adbd9bb2b844b8a6ae56e07284&topic=5153.0
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 40/2507
ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์สาธารณะที่นายทะเบียนยานพาหนะออกให้นั้น ไม่เป็นเอกสารสิทธิ แต่เป็นเอกสารราชการ
(http://fordheartmania.net/webboard/index.php?PHPSESSID=2e2f55adbd9bb2b844b8a6ae56e07284&action=dlattach;topic=5153.0;attach=31458;image)

ที่มา : http://www.deka2007.supremecourt.or.th/deka/web/search.jsp#

(http://fordheartmania.net/webboard/index.php?PHPSESSID=2e2f55adbd9bb2b844b8a6ae56e07284&action=dlattach;topic=5153.0;attach=31461;image)

+1
กฎหมายให้อำนาจ และมีกฎกระทรวงกำหนดวิธีปฏิบัติไว้

สุดท้ายปฏิบัติตามกฎ มีวินัย มีน้ำใจ ดีกว่าครับ ช่วยลดปัญหาการจราจร

ลองเข้าไปที่ http://www.chiangraifocus.com ซิครับ เขามีห้องสำหรับประชาชนกับตำรวจ จะมีตำรวจระดับสารวัตรผู้ใจดีมาไขข้อข้องใจให้ครับ

ถามเพื่อเป็นวิทยาทานว่า

กรณี เจ้าพนักงานจราจร หรือ เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจทางกฏหมาย ทำการบิดกุญแจ

คำถามคือ

1. ไม่ถือเป็นการลักทรัพย์ อันนี้เข้าใจ แต่ เป็นการละเมิดสิทธิหรือไม่ เพราะมีอากับกิริยาในการเอามือเข้ามาในรถ ถึงแม้ว่า จะเปิดกระจกรถอยู่แล้ว..เพราะเจนาของการเปิดกระจกมิใช่การหลบหนีอย่างแน่นอน
2. ในการจอดรถเพื่อการตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ฯ ...เหตุการณ์... รถหยุดสนิท เปิดกระจก แต่เกียร์ยังอยู่ที่เกียร์ D แล้วเปิดกระจก (ที่รีบเปิดกระจก เพราะแสดงเจตนาในการให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ)ใช้เท้าเหยีบแบรคไว้เพื่อเข้าเกียร์จอด ในจังหวะที่ จะเข้าเกียร์ N หรือ P (แต่ยังเข้าไม่สนิท) เจ้าหน้าที่ มาบิดกุญแจ ทำให้รถยนต์ดับโดยที่ไม่ได้เข้าเกียร์ N หรือ P (ทางเทคนิคไม่ทราบว่าจะมีผลต่อเครื่องยนต์หรือไม่) การกระทำเช่นนี้หาก รถยนต์ของเราเกินความขัดข้องในระบบเครื่องยนต์ จะเรียกร้องในสิทธิใดๆได้หรือไม่

  ก็เหมือนกรณีที่ตำรวจจราจรตั้งกรวยกลางถนน(เพื่อตั้งด่าน)มีคนขับรถไปชนกรวย กรวยเสียหาย
รถก็เสียหาย มีคำถามว่า
1. คนขับรถถูกตั้งข้อหา ทำให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย หรือว่า
2. ตำรวจถูกตั้งข้อหาวางสิ่งของกีดขวางทางจราจร

คาดว่าคงไม่เหมือน เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เกี่ยวเนื่องกันครับ

แล้วถ้าไม่ใช่การตั้งกรวยยางเพื่อการตั้งด่าน แต่เป็นการวางกรวยยางไว้โดยไม่มีเจ้าหน้าที่เฝ้า (ลืมทิ้งไว้ในที่ๆสามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ในระยะกระชั้นชิด เช่น ทางเลี้ยง ทางโค้ง ทางแยก ทางร่วม) ถ้าเรามาในอัตราความเร็วที่กำหนดตามกฏหมายทุกประการ แต่ไอ้เจ้ากรวยยางมันโผล่มาจากไหนก็ไม่ทราบในระยะกระชั้นชิด จะหักหลบก็ต้องชนรถคันอื่นในช่องทางเดินรถอื่น ก็เลยต้องชนมันแล้วเราเราเสียหายหละครับ

กรณีต่อมาเมื่อตรวจสอบแล้วทราบว่ากรวยยางจราจรนั้นเป็นทรัพย์สินของรัฐ

ที่ถามเพราะทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้บนท้องถนน ที่ถามมิใช่เพื่อ ...กวนประสาท ... เพื่องต้องการเป็นวิทยาทานให้ทุกท่านทราบสิทธิของบุคคลทั่วไป


เพราะการตั้งด่านทุกครั้งมีแผนปฏิบัติตามระเบียนราชการแน่นอน ไม่ใช่ด่านผี....แล้วถ้าเป็นด่านผีหละ มันก็น่าคิดได้เหมือนกัน

เคยเห็นหรือไม่ว่า มีคนแต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร มากัน 2 คน ขอบหมวกสีส้ม ยืนริมถนน อยู่ดีๆก็กระโดดออกมากลางถนนเพื่อให้รถที่มาด้วยความเร็วสูง(ตามที่กฏหมาทยกำหนด) หยุดเพื่อตรวจ, กวดขันวินัยจราจร แต่ไม่มีสัญญาณไฟวัววาบตามที่กำหนด แต่เอาไอ้เจ้ากรวยยางจราจรมาวาง ....เหอะๆ เหตุการณ์แบบนี้มีเสมอๆ

ตำรวจเขาชอบจับผิด ผมไม่ผิดโดนโบกมือไล่เป็นประจำแสดงว่าไม่ชอบจับถูก ฉนั้นเราอย่าทำผิดตำรวจก็ไม่จับเราแล้ว ;D

ช่าย ช่าย

ตอบเท่าที่ทราบ
1. ไม่ถือเป็นการละเมิด (ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิ เสรีภาพ การละเมิด หาได้จาก google) แต่อาจไม่สุภาพ
2. ทางเทคนิค ไม่มีผลต่อเครื่องยนต์ , หากขัดข้องจริง โดยช่างเทคนิคยืนยันนี้จริง สามารถเรียกร้องได้
    (ถ้าทำแบบนั้น รถคันหลังจะไปไม่ได้ ต้องเรียกให้ขับไปจอดหลบให้รถคันอื่นไปได้
     หากบิดกุญแจเลย รถคันนั้นๆ อาจมีพิรุธมากๆ หากช้าอาจออกรถไปได้ทันที ) ผิดถูก ขออภัย

ต่อด้วยที่วางกรวยยางบนถนน ลักษณะเดียวกับที่วางป้ายเครื่องจักรกำลังทำงานบนถนน มีใครขับไปชนหรือไม่
หรือขับรถตามรถคันหน้า คันหน้าหยุด เราต้องหยุด  แต่ถ้าเขาหยุด เราไปชน เราก็ผิด ตาม กม.จราจร
มีเหตุผลอื่นหรือไม่ ที่เราขับรถชนสิ่งของบนถนน เมื่อเลี้ยวในซอยหักศอก ยังไม่ชนมอไซต์ที่วิ่งสวนมาเลย
ฝากพิจารณาครับ

ตำรวจจราจรสามารถเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ของผู้กระทำผิดกฏหมายจราจรได้ แต่เป็นการเรียกเก็บชั่วคราว เรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่แล้ว ต้องออกใบแทนใบอนุญาตขับขี่ให้ (ใบสั่ง) โดยตำรวจจราจรจะต้องรีบนำใบอนุญาตขับขี่ที่เรียกเก็บไว้ไปส่งมอบพนักงานสอบสวนภายในแปดชั่วโมงนับแต่เวลาที่ออกใบสั่ง และใบสั่งสามารถใช้แทนได้ 7 วัน ทั้งนี้ตามพ.ร.บ.จราจรทางบกพ.ศ.2522 มาตรา 140

http://www.thailaw.com/thailaw3_24.pdf

ดีที่สุดคือพยายามหลีกเลี่ยงการทำผิดกฏจราจร ก็จะไม่ต้องพบกับปัญหาการเรียกเก็บใบอนุญาต
 

(http://www.volvoclubthailand.com/yabbfiles/Attachments/Like.png)

ใบสั่งคืออะไร
ใบสั่งเป็นภาษาที่เราเรียกแบบชาวบ้านๆ แต่ภาษากฎหมายคือ "ใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่" ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา ๑๔๐ วรรคสาม ซึ่งเมื่อถูกจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ไป แล้วให้ใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่มาใช้แทนไปก่อน คำว่า "ใบสั่ง" จึงเป็นคำเรียกรวมๆ ครับ เนื่องจากใบสั่ง ๑ เล่ม จะมี ๒๕ ชุดใบสั่ง ซึ่งใน ๑ ชุดประกอบด้วย ๔ แผ่น ๔ สี คือ ใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่(สีขาว) กับสำเนาอีก ๓ แผ่น (สีเหลือง สีชมพู สีฟ้า) เพราะฉะนั้นสิ่งที่ท่านได้รับมาคือใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่ครับ ใบสั่งนั้นเป็นสิ่งคล้ายบันทึกจับกุมที่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ทำการจับกุมผู้กระทำผิดในคดีอาญา จะต้องทำขึ้นหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมบันทึกจับกุมส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี แต่เนื่องจากคดีจราจรเป็นคดีที่มีโทษเพียงเล็กน้อยเป็นโทษปรับเสียส่วนใหญ่ ( ยกเว้นขับรถประมาท เมาสุรา ใช้สารเสพติด ชนแล้วหนี และขับรถแข่ง มีโทษจำคุก) กฎหมายจึงอนุญาตให้ตำรวจจราจรเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่เพื่อเป็นประกันว่าท่านจะไปที่โรงพัก แล้วออกใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่มอบเป็นที่ระลึกแก่ท่านให้ท่านไปชำระค่าปรับทีหลังภายในเวลา ๗ วัน ไม่ต้องเอาตัวท่านไปโรงพักในทันทีเหมือนคดีอาญาอื่นๆ
ใบสั่งมี ๒ ชนิด คือ
ก. ใบสั่งกรณีพบตัวผู้ขับขี่ คือ กรณีทั่วไป
ข. ใบสั่งกรณีไม่พบตัวผู้ขับขี่ หรือเรียกภาษาชาวบ้านว่าใบสั่งแปะ ใบสั่งผูก เป็นกรณีที่ผู้ขับขี่ซึ่งเป็นผู้กระทำผิดไม่อยู่ที่รถ หรืออยู่บริเวณใกล้เคียงไม่ยอมปรากฎกายให้เห็น เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรก็จะออกใบสั่งแปะหรือผูกไว้ที่หน้ากระจกรถให้เห็นชัดเจน โดยไม่ยึดใบอนุญาตขับขี่มา แต่จะกลับไปแจ้งพนักงานสอบสวนลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน แล้วรอให้ท่านมาชำระค่าปรับ ถ้าท่านไม่มาชำระค่าปรับภายใน ๗ วัน ถ้าทราบที่อยู่ก็จะออกหมายเรียกไปที่บ้านท่าน ถ้าไม่ทราบหรือเรียกแล้วท่านไม่มาก็จะแจ้งอายัดไปที่กรมการขนส่งทางบกหรือขนส่งจังหวัด รอเช็คบิลกันตอนชำระภาษีประจำปีครับ และใบสั่งทั้งสองชนิดใช้แบบฟอร์มเดียวกัน
อำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่เกี่ยวกับใบสั่ง
เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนมีอำนาจในการจับกุมผู้กระทำผิดกฎจราจรครับ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเท่านั้นที่จะออกใบสั่งแก่ท่านได้ ลำดับขั้นตอนในการใช้อำนาจในการจับกุมผู้ขับขี่รถยนต์ที่กระทำผิดก็มีดังต่อไปนี้
๑. ตรวจสอบว่ามีการกระทำผิดหรือไม่ จะโดยวิธีใดก็แล้วแต่ อาทิ การมองเห็นการกระทำผิดต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร หรือใช้เครื่องมือต่างๆ ในการตรวจสอบความผิด เช่น ใช้เครื่องจับความเร็ว
๒. ถ้าท่านขับรถอยู่จะเรียกให้ท่านหยุดแล้วขอตรวจใบอนุญาตขับขี่ พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาที่ท่านได้กระทำผิดให้ทราบ ในบางความผิดที่ยังไม่ชัดเจนอาจใช้วิธีเรียกให้ท่านหยุดรถก่อน แล้วตรวจสอบหาความผิดต่อไป เช่น ตรวจวัดควันดำ เสียงดัง ตรวจหาความมั่นคงแข็งแรงของอุปกรณ์ของรถ ฯลฯ
๓. เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสามารถใช้ดุลพินิจในขั้นตอนนี้พิจารณาด้วยตนเองว่า สมควรจะออกใบสั่งให้แก่ท่านหรือไม่ หากเห็นว่าท่านกระทำผิดเพียงเล็กน้อยไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย หรือความเดือนร้อน แก่ผู้อื่น ก็อาจใช้อำนาจว่ากล่าวตักเตือน แก่ท่านก็ได้ แต่ถ้าเห็นว่าเป็นความผิดที่ไม่อาจอภัยให้ได้ เช่น ขับรถเร็ว ฝ่าฝืนไฟแดง แซงทางโค้ง ฯลฯ ก็จะออกใบสั่งให้เลยและเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่จากท่าน อำนาจในการว่ากล่าวตักเตือนนี้ เป็นคนละขั้นตอนกับอำนาจของพนักงานสอบสวนครับ
๔. หลังจากที่เรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่จากท่านแล้ว ก็จะต้องนำใบอนุญาตขับขี่และสำเนาใบสั่งไปส่งให้พนักงานสอบสวนภายใน ๘ ชั่วโมง นับจากเวลาที่ได้ออกใบสั่งให้แก่ท่าน

ผมเคยเจอดหมือนกันครับ ให้ยศร้อยตำรวจเอกมาเลยอิอิอิ

 :-X :-X :-X

เยี่ยมครับ ช่วยกันดัน คนจะได้รู้กันเยอะๆ