หัวข้อ: สรรหากสทช.วุ่น! ฟ้องร้องกันอุตลุด เริ่มหัวข้อโดย: E20ZSY ที่ 01 มิถุนายน 2011, 08:36:39 สรรหากสทช.วุ่น! ฟ้องร้องกันอุตลุด ผู้สมัครตบเท้าฟ้องศาลปกครองแบบรายวัน ทั้งเรื่องสรรหาไม่เป็นธรรม-คณะกรรมการขัดต่อ ก.ม.-สรรหาเอื้อประโยชน์ หลังคณะกรรมการสรรหากรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) บัญชีที่ 2 (ประเภทสรรหา) ลงคะแนนเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการเป็นกสทช.ทั้งหมด 22 คน จาก 80 คนที่สมัครเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา คล้อยหลังไม่กี่วันผู้ที่ไม่ได้รับคัดเลือกเริ่มทยอยฟ้องศาลในเรื่องการสรรหา เริ่มที่นายสมยศ เลี้ยงบำรุง 1 ใน 80 ผู้สมัคร กสทช.ได้ยื่นฟ้องศาลปกครองให้ศาลไต่สวนและคุ้มครองชั่วคราว กรณีกระบวนการสรรหากสทช.ไม่โปร่งใสและไม่เป็นธรรม เพราะเปิดให้ผู้สมัคร 1 คนเลือกสมัครได้หลายสาขา อาทิ สาขาเศรษฐศาสตร์ กฎหมาย และกิจการโทรคมนาคม เป็นต้น ตามมาด้วยกรณีมีผู้ท้วงติงคุณสมบัติของนายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 22 คนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเป็นกสทช.สาขาเศรษฐศาสตร์ขาดคุณสมบัติเนื่องจากมีตำแหน่งเป็นกรรมการบริษัท อสมท จำกัด(มหาชน) ซึ่งขัดข้อห้ามตามกฎหมายมาตรา 7 (12)ตามระเบียบสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกผู้สมควรได้รับเลือกเป็น กสทช. โดยวิธีสรรหา พ.ศ. 2553 ส่งผลให้คณะกรรมการสรรหาในสาขานั้นต้องลงคะแนนเสียงคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมขึ้นมาแทนที่นายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท ซึ่งการลงคะแนนเสียงเลือกผู้ที่เข้ามาแทนใหม่นั้นทำให้ นายสุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้ไต่สวนฉุกเฉินและคุ้มครองชั่วคราวเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคณะกรรมการสรรหาในส่วนของสาขาเศรษฐศาสตร์เพราะไม่ได้เลื่อนลำดับจากที่ 5 เป็นลำดับที่ 4 โดยสาขาเศรษฐศาสตร์จะคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมรวม 4 คน และนายสุรนันท์มีคะแนนอยู่ในลำดับที่ 5 ซึ่งกรณีนี้ศาลรับฟ้องกรณีการสรรหา แต่ไม่รับคุ้มครองส่งผลให้กระบวนสรรหากสทช.เดินหน้าต่อไปได้ โดยศาลปกครองนัดไต่สวนนัดแรกวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยการไต่สวนผ่านไปได้ด้วยดี ขณะที่ กระบวนการพิจารณาของศาลจะมี 2 ส่วน คือ 1. มีคำสั่งว่าคุ้มครองหรือไม่ และ 2. การให้ผู้ถูกฟ้องส่งคำให้การภายใน 20 วันเพื่อประกอบการวินิจฉัยในคดีดังกล่าว จากนั้นวันที่ 24 พ.ค.54 นายรัฐชทรัพย์ นิชิด้า หนึ่งในผู้สมัคร กสทช. ยื่นฟ้องสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา คณะกรรมการสรรหา กสทช.ในบัญชีที่ 2 ต่อศาลปกครอง โดยได้ขอพิจารณาเพิกถอนมติของคณะกรรมการสรรหา กสทช.ที่คัดเลือกผู้สมัคร 22 คน เป็นบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอรายชื่อเป็น กรรมการ กสทช.และขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนระเบียบสำนักเลขาธิการ วุฒิสภา ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกผู้สมควรได้รับเลือกเป็น กรรมการ กสทช.โดยวิธีการสรรหา นายรัฐชทรัพย์ กล่าวว่า เหตุที่ต้องยื่นฟ้องเนื่องจากคณะกรรมการสรรหา กสทช.ไม่ครบองค์ประชุมโดยไม่เป็นไปตามมาตรา 14 พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2550 (พ.ร.บ.กสทช.) ทั้งนี้เนื่องจากนางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสรรหา กสทช.มีคุณสมบัติขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และมาตรา 207 คือ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะต้องไม่เป็นกรรมการของหน่วยงานรัฐ ขณะเดียวกันอีกประเด็นที่ทำให้องค์ประกอบคณะกรรมการสรรหา กสทช.ไม่ครบตามมาตรา 14 พ.ร.บ.กสทช. เนื่องจากผู้เป็นกรรมการสรรหา กสทช. ตามมาตรา (14) 8 ถึง 14 (15) ที่ระบุให้เป็นตัวแทนองค์กรวิชาชีพและองค์กรพัฒนาเอกชนนั้น ล้วนเป็นองค์กรที่ยังไม่ได้จดทะเบียนรับรองให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญด้วย “เดิมที่ไม่มีการฟ้องร้องเพราะที่ผ่านมาเข้าใจว่าถูกต้อง แต่มาแปลกใจว่าเหตุใดหนึ่งในคณะกรรมการสรรหา กสทช.จึงไม่เข้าประชุม โดยเรื่องนี้ผมไม่ได้ร้องต่อศาล เพราะผมไม่ได้รับเลือกเป็น กสทช. แต่ที่ต้องฟ้องร้องเพราะเห็นว่าองค์ประกอบกรรมการไม่ถูกต้อง” นายรัฐชทรัพย์กล่าว ทั้งนี้ กรณีของนายรัฐชทรัพย์ที่ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ศาลได้รับคำฟ้องไว้แล้วขณะนี้อยู่ในกระบวนการไต่สวนว่าจะรับบรรเทาทุกข์หรือไม่ ล่าสุด 26 พ.ค. นายณัฐศิลป์ จงสงวน 1 ใน 80 คนของผู้สมัครกสทช. ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรม กรณีที่กรรมการสรรหามีความสัมพันธ์ซึ่งเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ที่ผ่านการสรรหาทั้ง 22 คนในบัญชีที่ 2 (ได้จากการสรรหา) เนื่องจากนายจาตุรงค์ ปัญญาวรดิลก ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการสรรหาในสาขาเศรษฐศาสตร์ เป็นรองประธานกรรมการ อสมท. ย้อนการสรรหากสทช. เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2553 สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ออกระเบียบคัดเลือกผู้สมควรได้รับเลือกเป็น กสทช. โดยวิธีสรรหา ต่อมาวันที่ 28 มกราคม 2554 สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้จัดให้มีการประชุมของคณะกรรมการสรรหา กสทช. โดยที่ประชุมได้กำหนดกรอบเวลาการรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหา ในวันพุธที่ 2 มีนาคม 2554 ถึงวันอังคาร ที่ 8 มีนาคม 2554 ต่อมาวันที่ 25 เมษายน 2554 คณะกรรมการสรรหา กสทช.ได้มีมติเลือกผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็น กสทช. ให้เหลือ 22 คน เพื่อเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป ระหว่างที่การสรรหากสทช.บัญชีรายชื่อที่ 2 อยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาล กระบวนการสรรหากสทช.บัญชีรายชื่อที่ 1 ซึ่งให้องค์การหน่วยงานสรรหากันเอง 22 คน ยังคงดำเนินต่อไป โดยจะต้องนำไปรวมกับบัญชีรายชื่อที่ 2 เป็น 44 คน แล้วส่งใหม่วุฒิสภาเลือกให้เหลือ 11 คนต่อไป. Webmaster Earn Money! By Affiliate Program 100% Pay www.samuismile.com |