พิมพ์หน้านี้ - รถติดไซเรนใน กทม.งานเข้า

ได้มีการสั่งการให้ตำรวจจราจรทั่วกรุงเทพฯทำการกวาดล้างจับกุมรถติดไซเรนเถื่อนอย่างเข้มงวดและจริงจัง โดยเฉพาะรถที่อาศัยการติดไซเรนเถื่อน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลัง ไม่ยอมต่อภาษีรถเพื่อชำระให้แก่แผ่นดิน เพราะคิดว่าตำรวจไม่ค่อยตรวจตรา จึงเป็นเหตุให้มีการกระทำผิดกฏหมายเพิ่มมากขึ้น และประชาชนก็ถ่ายภาพส่งมาให้เป็นจำนวนมาก จึงได้มีการสั่งการให้ทำการตรวจรถที่ติดไซเรนทุกคัน ถ้าคันไหนไม่ได้ขออนุญาตตามกฏหมาย ให้ตำรวจจราจรทั่วกรุงเทพฯทำการตรวจค้นจับกุมอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการป้องกันปราบปราม และีความสงบเรียบร้อยในสังคม ส่วนรถที่จำเป็นต้องใช้ไซเรน(ในกรุงเทพฯ) ก็ให้รีบมาขออนุญาตที่ บก.จร.โดยเร็ว ต่อไปนี้จะไม่มีการละเว้นปล่อยปละละเลยอีกต่อไป เพราะนับวันจะมีรถที่อาศัยไซเรนเถื่อนทำผิดกฏหมายเพิ่มมากขึ้น สั่งการจากที่ประชุมใหญ่ฝ่ายจราจรนครบาล บก.02 วันที่ 29 เมษายน 2554 เวลา 10.00 น.

'งานเข้ากันอีกเเล้วพี่น้อง โดนกันไปหลายคันเเล้ว

อ้างจาก: HS4WAY ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 18:49:16

แล้วรถอาสาต่างจังหวัดเข้าไปทำธุระที่นครกรุงเทพฯจะโดนด้วยใหมเนี้ยยยยยยย

รถที่ติดไฟวับวาบ ไซเรน เป็นรถเฉพาะกิจครับ ไม่สามารถนำไปใช้งานอย่างอื่นได้
เมื่อเสร็จงานก็จอดไว้ เมื่อมีเหตุจึงจะเอาออกวิ่ง
สังเกตุได้ง่ายๆก็คือ รถฉุกเฉินของสถานพยาบาลครับ
เมื่อไม่มีงานก็จอดไว้ในที่จอดรถ เมื่อมีเหตุ หรือต้องรับ-ส่งคนป่วยจึงจะเอาออกวิ่ง

สำหรับเราๆท่านๆ ที่ไม่มีหน้าที่ด้านนี้คงต้องทำใจครับ ถ้าอยากทำด้านนี้ต้องยอมเสียสละรถของเราเอง

อ้างจาก: แฮมโคราชา ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 19:11:53

อ้างจาก: HS4WAY ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 18:49:16

ขอบคุณครับ

อ้างจาก: แฮมโคราชา ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 19:11:53

อ้างจาก: HS4WAY ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 18:49:16

เห็นด้วยครับ เพราะเด๋วนี้แถวบ้านผมมีรถจำพวกนี้เยอะแยะไปหมด จัดระเบียบกันซะแต่เนิ่นๆผมว่าก็ดีเหมือนกัน ดีกว่าวัวหายแล้วมาล้อมคอกแบบที่นิยมทำกันประจำ ;D

ความเห็นส่วนตัวนะครับอย่าคิดมาก ผมว่า สัญญาณไฟ วับ วาบ แสง แดงและน้ำเงิน หรือสีอื่นๆ มันหาซื้อง่ายและขายกันง่ายไป และถ้าพูดถึงรถที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ มีกี่คัน และมีกี่คันที่ให้ความสำคัญในเรื่องการขออนุญาต ใช้ให้ถูกต้องตามกฏหมาย และเหมาะสมกับภาระกิจ มีมากน้อยเท่าไร อาจจะเป็นเพราะว่าเห็นเขาติดกันแล้วเปิดสัญญาณวิ่งกันให้เกลื่อนเมืองมากเกินไปหรือเปล่า เจ้าหน้าที่เลยต้องออกมาดูแลมากขึ้น อาสาสมัครที่มีจิตอาสาก็มีจิตใจที่อยากช่วยเหลือคนเจ็บ ก็มีเยอะ แต่เมื่อเสร็จภาระกิจแล้วก็ควรจะหาผ้าหนังคลุมให้เรียบร้อยเมื่อเสร็จภาระกิจและขออนุญาตให้ถูกต้องก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ที่เห็นและเจ้าหน้าที่ออกมาเข็มงวดกันก็เพราะติดตั้งกันโดยไม่ขออนุญาตกันมากกว่า บางครับผมขับรถไปในที่ต่างๆ แล้วฟังวิทยุสื่อสารว่ามีอุบัติเหตุอยู่ตรงนั้นตรงนี้ แล้วก็มีอาสาสมัครแจ้งตรวจสอบอยู่แล้ว 2-3 รหัส พอผมขับรถผ่านจุดที่เกิดเหตุ ก็เห็นมีรถ จยย.ล้มแค่คันเดียว บาดเจ็บเล็กน้อย ผมก็ยังฟังวิทยุอยู่ก็เห็นมีอาสาแจ้งมาที่เกิดเหตุอีกมากมาย แค่ รถ จยย.ล้มแค่คันเดียว ก็มีรถจอดเปิดไซเรนในที่เกิดเหตุ ร่วม 10 กว่าคัน ผมก็เลยคิดว่าเกิดอะไรกันขึ้นจึงต้องมาเยอะกันขนาดนี้ แล้วสิ่งที่ตามมาก็คือรถติดยามเป็นกิโลเลย ก็น่าคิดนะครับ แต่ก็ต้องชื่นชมการมีจิตอาสานะครับ ก็ฝากช่วยกันคิดนะครับ

อ้างจาก: THE SUN ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 20:07:16

ถูกต้อง+ถูกใจครับพี่ ทั้งเหตุผลและความเห็น

เพราะอาทิตย์ผมก็เพิ่งเข้าไปเขต กทม.มาครับ ก็เจอด่านตรวจตั้งแต่ขอนแก่นไปจนถึงเมืองหลวง ก็ไม่มีปัญหาใดๆ(อาจเป็นเพราะผมเอาหนังคุมไฟฉุกเฉินไว้ซึ่งเป็นปกติเมื่ออกนอกเขตรับผิดชอบ) ก็เปิดกระจกทักทายเจ้าหน้าที่ พี่ๆเจ้าหน้าที่ก็ถามว่าไปใหนไปทำอะใรก็เท่านั้นครับ

ตามที่พี่เจ้าของกระทู้เอามาลงผมว่าก็ดีครับ เป็นการจัดระเบียบเพื่อขจัดพวกแอบอ้าง ทำให้คนที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมต้องเสียหายเดือดร้อนไปด้วยครับ

เห็นด้วยกับจิตอาสานะครับ แต่รถที่ใช้ในภาระกิจอื่น ที่ไม่ใช่ระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ก็ควรคิดสักหน่อยนะครับ เช่นรถที่มีลูกกรงท้ายกะบะสูง หรือที่ไม่มีหลังคาปกคลุมหลัง หรือรถที่เป็น 4 ประตูก็ดี และไม่มีเครื่องมือในการที่จะช่วยเหลือชีวิตเบิ้องต้น ในรถเพื่อการช่วยเหลือชีวิต เวลาไปช่วยเหลือชีวิตคนเขาก็อาจจะขาดความมันใจในความปลอดภัยในชีวิตของผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้นอีก หรือถ้ารถบาดคันไม่พร้อมในการ ว.4 ก็อาจจะรวมทีมเป็นชุดในรถที่พร้อมทั้งเครื่องมือและมีอุปกรณ์พร้อมและที่สำคัญ ควรผ่านการอบรม หลักสูตร FR EMT-B หรือ EMT-I ก็ดีจัดเป็นชุดแล้วออกปฏิบัติงานรวมกันเป็นชุดและได้มาตรฐาน ในการที่จะออกไปช่วยเหลือคนเจ็บน่าจะดีกว่าว่ามัยครับ เพื่อนๆ สมาชิก

อ้อ อีกอย่างนะครับผมมักจะไปภาระกิจตามถนนหลวง ทั่วประเทศ ผมขับรถ แล้วก็มีรถเปิดไฟวับวาบ ที่ติดตั้งในกระจกรถหรือกระจังหน้ารถ แล้ววิ่งไล่รถคันข้างหน้าทั้งๆ ที่รถขอตนก็ไม่ได้เป็นรถราชการหรือเป็นรถปฏิบัติภาระกิจใดๆ แต่เปิดสัญาณไฟไล่รถขันข้างหน้า ผมก็ไม่รู้ว่าจะเปิดไปทำไม จนเดี๋ยวนี้รถบัส รถทัวร์ก็ติดกัน ในทั่วไปหมด เลยเป็นแฟชั่นไปแล้ว ซึ่งมันมีผลเสียอย่างมากในการขับขี่ของรถคันข้างหน้า อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมากๆในช่วงที่เขากำลังหลบทางให้ ซึ่งไม่รู้ว่ามีจิตสำนึกในสังคมบ้างหรือเปล่าว่าที่ตนทำไปนั้น เพราะอยากขับรถเร็วและ หรือว่าเพราะว่าคิดว่ามันเทห์ หรือ อยากจะไปถึงที่หมายด้วยความเร็ว โดยไม่คิดคำนึงถึง อันตรายที่จะเกิดกับเพื่อนร่วมทางก็ดี ก็โปรดจงคิดและมีจิตสำนึกถึงเพื่อนร่วมถนนด้วยนะครับ....

อ้างจาก: THE SUN ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 20:07:16

จิตอาสาทุกคนคนครับ เพียงกลัวว่าจะไม่มีส่วนร่วม ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับการทำหน้าที่จิตอาสาเพื่อช่วยเหลือสังคมในช่วงแรกๆ เรียกง่ายๆก็คือ อยู่ในช่วงเปิดตัวนะครับ เมื่อพออยู่นานๆไปก็จะเหลือแต่จิตอาสาที่แท้จริง ส่วนที่แห่กันมา ก็จะค่อยๆหายไป รุ่นใหม่ๆที่เพิ่งเข้าวงการก็จะมาแทนที่ เป็นเช่นนี้เรื่อยไป ;)

อ้างจาก: SEVEN ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 17:33:09

เคยคิดหาทางออกที่ดีกว่านี้บ้างมั้ย
แนวคิด
ตามที่ทราบกันดี อาสา กู้ภัย มูลนิธิ อปพร. ตำรวจบ้าน ในกทม. จะมีจุดประจำสน.อยู่แล้ว ถูกต้องมั้ย แล้วทำมั้ยสน.นั้นๆไม่รวบรวมเอกสารเพื่อทำประวัติอาสาที่มีทั้งหมดในพื้นที่

ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- สามารถแยกว่าใครเป็นอาสาสมัครได้อย่างชัดเจน
- ง่ายในการตรวจสอบติดตามเมื่อมีการกระทำผิด
- เป็นระเบียบเรียบร้อย
- ง่ายต่อการประสานงาน

ขั้นตอน
1. สน.แจ้งหัวหน้าอาสาของแต่ละหน่วยงาน รวบรวมเอกสารของลูกข่าย
ประกอบด้วย
- เอกสารส่วนตัว สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน รูปถ่ายสี
- เอกสารการอบรมปฐมพยาบาล(ถ้ามี)
- สำเนาบัตรอาสา
- เอกสารรถยนต์ (กรณีใช้รถส่วนตัว) สำเนาทะเบียนรถ ภาพถ่าย 4 ด้าน (สี)
2. สน.รวบรวมเอกสาร ออกใบอนุญาตประจำรถและสติกเกอร์ ระบุ ยี่ห้อ สี ทะเบียน ต่ออายุทุกปีหรือไม่ก็นำเสนอ บก.จร. เพื่อขออนุญาต
3. จัดประชุมเพื่อแจ้งนโยบาย ข้อตกลงให้ชัดเจน
เช่น
- หน่วยงานไหนใช้สีอะไร
- เมื่อออกนอกพื้นที่ต้องทำอย่างไร
- บทลงโทษมีอะไรบ้าง

ใครทำตามไม่ได้หรือไม่ให้ความร่วมมือค่อยจับจะดีมั้ย

อ้างจาก: ROMFAH11 ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 20:58:22

อ้างจาก: SEVEN ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 17:33:09

อ้างจาก: ROMFAH11 ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 20:58:22

อ้างจาก: SEVEN ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 17:33:09

+100 :)

ผมขออธิบายหน่อย
- การใช้ไฟวาบ วาบ ก็เพื่อให้สะดุดตาเวลามีเหตุรถชนกัน หรือการนำขบวนรถ หรือเพื่อให้รถที่สัญจร ลดความเร็วในจุด ๆ นั้นๆ เช่นบ้านติดถนนมีงานขาวดำ (งานศพ) งานสีเหลือง (งานบวชพระ) หรืองานสีชมพู (งานแต่งงาน) ฯ อย่างอุบัติเหตุ ขนาดมีไฟวาบ วาบ เห็นมีข่าวรถแหกการกั้นแล้วมาชนลูกข่ายเสียชีวิต ที่ ฉะเชิงเทรา และที่กรุงเทพเองก็มี ว.40 คนขับรถมาไม่สนใจมัวเปลี่ยนเทป แล้วเป็นไงลูกข่าย ช่วยตำรวจ นำรถของกลางขึ้นรถตำรวจ แล้วไง มันก็มาชนซะ ตายก็มี เจ็บ จนพิการก็มี ช่วยด้วยใจแท้ ๆ ตำรวจว่าไง เงียบ ที่บ้านบึง ให้อาสาโบกรถ ตลาดนัด แต่ตัวมันเอง นั่ง แดรกขนมได้เบี้ยเลี้ยงตลาดนัด ถ่ายรูปโบกรถหน่อยเอาไปปรับขั้นเงินเดือน แค่นี้ง่ายจังวุ้ย กู้ภับ ไม่ได้อะไรเลย กินเงินเดือนขั้นต่ำแท้ๆ มันน่านัก
- เรื่องการขอติดตั้ง ก็ไม่รู่ว่า เจ้าหน้าที่ในท้องที่ มันไม่มีอำนาจส้นเท้าอะไรเลยหรือไง ก็รถใช้งานในพื้นที่ มรึงแท้ๆ ยังทำไม่ได้ ที่ของ สพฉ. ยังตรวจและอนุมัติได้เลย
พอแล้ว มีอีกหลายเรื่องแต่ขี้เกียจพิมพ์อะครับ ว.61 ทุกสถานี

อ้างจาก: ROMFAH11 ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 20:58:22

อ้างจาก: SEVEN ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 17:33:09

ผมเห็นด้วยครับ!!!(+100)

อ้างจาก: Tommy_1KD ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 20:39:29

อ้างจาก: THE SUN ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 20:07:16

เพราะในพื้นที่ มีศูนย์กู้ภัย กู้ชีพ เยอะเกินความจำเป็น และทุกที่ที่ไปถึงที่เกิดเหตุ ขาดการประสานงานเรื่องหน้าที่
ทุกคนมุ่งแต่จะปฎิบัติงานกับผู้บาดเจ็บ ก็เลยไปรุมแต่ตรงที่มีผู้บาดเจ็บ ทั้งๆที่ EMS เอย รถฉุกเฉินเอย กำลังช่วยเหลือ
แล้วใครที่จะโบกรถล่ะ ไม่มี พอไม่มีใครโบกรถ รถมันก็ติด

อ้างจาก: ลมหนาว.... ที่ 10 พฤษภาคม 2011, 08:37:02

อ้างจาก: ROMFAH11 ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 20:58:22

อ้างจาก: SEVEN ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 17:33:09

+100 :)

+101

อ้างจาก: tcccom47 ที่ 10 พฤษภาคม 2011, 20:47:11

ไม่เสมอไป หรอกครับเพราะทุกวันนี้ อาสาต่าง ๆ มากมาย ต่างคนต่างข่ายก็ไปกัน ข่าย ละคนสองคน รวม ๆ กันก็เยอะแล้วครับ
ลองเป็นอาสาบ้างซิครับ แค่มีส่วนได้ช่วยเหลือบ้าง เล็ก ๆ น้อย ๆ โบกรถบ้าง ปฐมพยาบาลบ้างก็สุขใจแล้วครับ

ไปช่วยกันเยอะแหละครับดีแล้ว เพราะบางทีมีอุบัติเหตุแต่ไม่มีใครไปช่วยเลยก็มีเยอะ
ต้องรอรถโรงพยาบาล บางทีต้องนั่งแท็กซี่ไปเองก็มี บางที่เคลื่อนย้ายไม่ถูกวิธีเป็นอำมพาตก็มี
มีอาสาเยอะดีแล้วครับช่วยเหลือกันทำนู่นทำนี่แบ่งหน้าที่กันไป และต้องขออภัยเพื่อนร่วมทางด้วย
ที่ต้องใช้ความเร็วในการไปถึงที่เกิดเหตุ เพราะเราไม่รู้เลยว่าที่เกิดเหตุนั้นๆผู้บาดเจ็บจะมีอาการ
บาดเจ็บมากน้อยเพียงไรแต่ถ้าเล็กน้อยก็ดีไปแต่ถ้าสาหัสล่ะถึงเราจะช่วยเขาไม่ได้ในตอนนั้นอย่างน้อยไปถึงที่เกิดเหตุไวก็จะได้แจ้งให้รถกู้ชีพออก
ได้ไวคนเจ็บก็มีโอกาสรอดเยอะขึ้น คุณว่าจริงมั๊ย ขอให้มองในมุมบวกบ้างครับ
รถกู้ภัยหรืออาสาไม่ได้อยากขับรถเร็วไม่ได้อยากเท่ห์เพราะไม่เห็นจะเท่ห์ตรงไหน(โดนด่าตลอด) แค่อยากมีส่วนช่วยเหลือสังคมบ้างก็เท่านั้นเอง ขอบคุณครับ

ก็ทำประวัติไว้ก็จบเรื่อง ยังไงทุกมูลนิธิก็มีรถพยาบาลแอดวานซ์ขั้นสูงเตรียมพร้อมอยู่แล้วหรือมูลนิธิไหนไม่มี เพราะถ้ามีเหตุแจ้งมารถอาสาจะถึงก่อนแล้วแจ้งอาการไปยังศูนย์ถ้าอาการหนักจะไม่มีใครเคลื่อนย้ายเด็ดขาด จนกว่าจะมีพี่ๆรถพยาบาลมาถึงที่เกิดเหตุ แต่ในรถอาสาทุกคันจะมีกระเป๋ายาพร้อมอุปกรณ์ต่างๆครบแต่อาจจะยังไม่เท่ากับ รถ ต พยาบาล ก็ให้ไปจดให้จบๆซะจะได้วิ่งสบายๆ ในมูลนิธิผมก็มีพี่ๆเค้ามีงานประจำอยู่แถวตลาด มีเหตุก็ออกวิ่งได้แถมบางท่านเรียน FR มาแล้วด้วย รึจะให้พวกผมหยุดวิ่งแล้วให้โรงพยาบาลต่างๆวิ่งเอง

อ้างจาก: THE SUN ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 20:07:16

การขออนุญาติมันไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิดนะซิครับ..
รถต้องเป็นนิติบุคคลถึงจะขอนุญาติได้
ที่เป็นของอาสาฯแล้วได้รับอนุญาตินั้น ก็เป็นบางพื้นที่ที่เขาอนุโลมกัน
ถ้าจะให้ดีต้องร่วมมือกัน ต้นสังกัด(มูลนิธิ)+สสจ.+สภ.แต่ละท้องที่ == >> การขึ้นทะเบียน
กำหนดมาตรฐานการขึ้นทะเบียน
คนต้องผ่านการอบรมหรือมีคุณสมบัติอย่างไร
รถต้องมีคุณสมบัติอย่างไร
การใช้งานต้องแจ้งหรือขออนุญาติ ตร.ก่อนไหม , เกินกี่ทุ่มงดใช้เสียง เป็นต้น
อย่างใน กทม.ที่รู้มาอาสาฯจะขออนุญาติได้อย่างไงเมื่อรถเป็นชื่อบุคคล
แต่เวลามีเหตุ ตร.วิทยุเรียกอาสาฯให้ตรวจสอบเหตุหรือช่วยผู้บาดเจ็บ
สังเกตุนะครับ ต่างจังหวัด ตร.ก็จะไม่จับหน่วยงานในพื้นที่เพราะต้องพึงพากัน
ถ้าไม่อย่างนั้น ให้ ตร.มาเก็บศพ , มาช่วยคนเจ็บ , มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก็คงแย่ ปัจจุบันก็บอกว่า คนไม่พอ

คิดถึงเรื่องนี้ทีไร เครียด จน กินเหล้า ...

HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND

HAMSIAM TECHNOLOGY => พูดคุยทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: SEVEN ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 17:33:09