HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND

สอบถามหน่อยครับเทพทั้งหลาย  ผมเองก้ขายของซื้อของในเวปนี้มาไม่นานบางครั้งก็ขายแพง  พอขายถูกก็กลายเป็นที่สงสัยว่าของจะดีป่าว จะน่าไว้ใจป่าว ผมไม่ทราบว่าควรจะหาราคากลาง  หรือราคาตลาดจ

แล้วแต่ความพอใจ ราคาแพงขายช้าหรืออาจขายไม่ได้เลย ราคาถูกขายไว แต่คนซื้อเสี่ยงหน่อย

ไม่ต้องคิดมาก แค่บอกสภาพของไปตามความเป็นจริงก็จบ จะถูกหรือแพงมันอยู่ที่คนซื้อคับถ้ายากได้อะไรมันก็ถูกไปหมดเหละคับ ;D ;D ;D

อื่ม.....ช่ายเลย ผมเห็นด้วยกับ จขกท หน่ะครับ บางครั้งตั้งราคาขายแพง (อาจจะสูงในความรู้สึกบางคน) ก็เพราะว่า สภาพมันดีไม่บอบช้ำ บางครั้งขายไม่ได้ ในทางกลับกันลงขายราคาถูกกลับไม่สนใจ หาว่าไม่ดี

และอีกประการ การถ่ายรูปก็เหมือนกัน ถ่ายภาพไม่เยอะ+ราคาไม่แพง+ข้อมูลก็น้อย ขายได้ขายดีเลยทีเดียว เปรียบเทียบกับ ถ่ายภาพเยอะมาก+ราคาไม่แพง+ข้อมูลเยอะ กลับขายไม่ได้ เอ้อแปลก

ก็จริงอยู่ว่าความต้องการซื้อ และ ความต้องการขาย มันอยู่ที่ราคาความพอใจ แต่ก็สังเกตหลายๆ กระทู้หน่ะครับมันเป็นอย่างนี้จริงๆ ผมก็เดาไม่ถูก เคยลงขาย อยู่ 1 เครื่อง สภาพเนียบเลย แถมมี clip การใช้งานสาธิตด้วย ราคาน่าจะพอๆ กับสมาชิกเทพๆทั้งหลาย แต่กลับขายไม่ได้มันแปลกหน่ะครับ

ปล. ไม่ได้น้อยใจ หรือ ทำให้การดำเนินชีวิตผมเปลี่ยนแปลงไปหรอกครับ แต่รู้สึกเช่นเดียวกัน แต่คนละมุมมองเท่านั้น  แน่นอนครับวิทยุสื่อสาร ต้องได้สัมผัสจริง ใช้งานจริง จึงจะรู้ว่า สินค้านั้นๆ มันดีจริงหรือไม่ ย้อมแมวมาหรือเปล่า บางครั้งการโฆษณาต่างๆ น่าจะทำให้ผู้ใช้งานตัดสินใจได้  ??? ไม่ได้ดิสเครดิตใครหน่ะครับ เชื่อว่าข้อความนี้ไม่ส่งผลกระทบกับเพื่อนสมาชิกหน่ะครับ

ถ้ามีครั้งแรกต้องมีครั้งต่อไปคับ ;D ;D ;D

ราคาในใจ+สภาพเป็นจริง= ราคาที่ขาย

หากขายไม่ได้ให้ปรับราคาลงนิดก็น่าจะขายได้แล้วครับ
หากขายไม่ได้อีกแปลว่า ตอนนั้นยังไม่เจอเนื้อคู่ครับ

สังเกต บางเครื่องสภาพดี ครบชุด หาสภาพยาก ราคาเกือบเท่าตัวของเครื่องเปล่าๆเลยก็มีครับ

มันคือดีมานและซัพพลายครับ

คนขายอยากขายราคาสูง คนซื้ออยากซื้อราคาถูก มันมาตัดกันตรงไหน ตรงนั้นคือราคาขายครับ
ง่ายๆคือดูจากที่คนอื่นๆเค้าตั้งขายกันว่าเค้าขายกันเท่าไหร่ ราคาประมาณไหน แล้วเราก็จะตั้งราคาของเราได้  ;D ;D

ตอบเหมือนกระทู้บนครับ พอดีกดตั้งกระทู้ช้าไปหน่อย  ;D

ทั้งหมดที่ว่ามา ก็คือ Demand และ Supply ครับ

ของมีน้อย + คนต้องการมาก = ราคาสูง
ของมีน้อย + คนต้องการปกติ = ราคาปานกลาง
ของมีมาก + คนต้องการมาก = ราคาปานกลาง
ของมีมาก + คนต้องการปกติ = ราคาต่ำ

และจุดชี้วัดราคาที่ซื้อขายจริง ก็คือ ความชอบส่วนบุคคล ซึ่งตรงนี้วัดเป็นตัวเงินไม่ได้ เพราะเป็นคุณค่าทางจิตใจ  ;)

ผมเป็นผู้ซื้อมากกว่าขาย ผมว่าสมาชิกเทพๆนะเขาใช้เวลานานครับ สร้างชื่อเสียงความมั่นใจว่าของที่ขายพ้อมใช่จริงๆ พูดง่ายๆชื่อเขาการันตีสินค้าได้ครับ ทั้งไม่ต้องเสี่ยงโดนโกง โดนย้อมแมว ผมคิดเอาเองนะ ผมก้เคยลงขายเป็นเดือนขายไม่ได้ เอาไปฝากสมาชิกเทพๆขาย วันเดียวไปเลย งงหมือนกัน สรุปชื่อผม โนเนมคนไม่กล้าเสี่ยง ผมคิดเอานะ ว่าจะลงขายลองอีกทีไม่รู้จะขายออกปะ

มันขึ้ออยู่คนขายกับคนชื้อครับ ราคาขึ้นอยู่กับความพอใจทั้งสองคน  ถ้าคนชื้ออยากจะชื้อ แล้วก็ชื้อมันก็จบ

ขอสนับสนุนอีก 1 เสียง

การตั้งราคาอาจลองดูกระทู้เก่าๆของสินค้านั้นๆ
แล้วลองพิจารณาคุณภาพสินค้าของเราว่า ใกล้เคียงกับตัวใดที่จำหน่ายไป
หรือบางทีก็สามารถสอบถามทาง PM เพื่อนสมาชิกที่ขายสินค้านั้นไป เอาเป็นราคากลาง
ทั้งนี้ ไม่มีสูตรกำหนด หรือราคากลางตายตัว
เช่นกรณีของผม ขายFH912 พร้อมปท. สภาพภายนอกดูไม่สวยเท่าไหร่
ปล่อยไปในราคา 2,800.-
ราคากลางอาจอยู่ที่3,000-4,500 ตามสภาพ
ผมขายของถูกกว่าทั่วไป กลับขายได้ยากครับ  
อีกอย่างขึ้นอยู่กับความต้องการ และกระแสของสินค้าที่มาแรง
เช่นช่วงก่อนจีนมาแรง  ญี่ปุ่นของแท้ขายยาก
ต่อมา 2 ความถี่ฮิตกันอีก จนของขาด  แต่ช่วงนี้ TYT ตัวเล็กมาแรงกว่าทุกอย่าง  
สินค้าที่กำลังขายกันอยู่อาจปล่อยยากมากขึ้น
ท่านที่มี TYT อยู่ เมื่อต้องการปล่อยก็ขาดทุนนิดเดียว
เพราะมีความต้องการของลูกค้ามากกว่าจำนวนสินค้า
ส่วนสินค้าอื่นๆ ที่จะขายได้เรื่อยๆก็ต้องมีคุณภาพเยี่ยม สวยงาม เป็นที่ต้องการ
เช่น MOTO  GP GMต่างๆ  ICOM รุ่นอมตะ หรืออื่นๆที่แวะมาเป็นบางครั้ง
แต่ที่สำคัญราคาต้องไม่เว่อร์เกินไป

อีกอย่าง  ที่บางท่านอาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก
คือการนำเสนอสินค้า   รูปถ่ายที่ชัดเจน สวยงาม  
ข้อมูลที่เพียงพอ   ที่ลูกค้าควรทราบเป็นเบื้องต้น  
และที่สำคัญไม่หมกเม็ด  ขายของมีคุณภาพอยู่ได้นาน

สำหรับผมในฐานะผู้ขาย ผมไม่เน้นขายของแพง  แต่เน้นราคาเหมาะสม
ถ้าขายราคาที่ต้องการไม่ได้ก็จะค่อยๆลด  ไม่ฝืนธรรมชาติของตลาด  

แต่ถ้าผมเป็นผู้ซื้อ ผมจะดูที่ความพอใจ ถ้าผมพอใจซื้อราคาจะไม่เป็นปัญหา
เพราะถือว่าจ่ายเงินแล้วมีความสุข
แต่ถ้าไม่มีความพึงพอใจในสินค้า  ต่อให้ถูกแค่ไหนผมก็ไม่อยากซื้อ
และปัจจัยสุดท้ายที่เลือกซื้อคือเครดิตผู้ขาย
บางครั้งผมเลือกซื้อกับผู้ขายที่ไว้ใจได้ในราคาที่สูงกว่า ด้วยไม่อยากเสี่ยงงานเข้าครับ

อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
 :) :)

ขายตามความเหมาะสม ตามใจคิด อยากขายเท่าไรก็ไส่ราคาไป ขายไม่ใด้ก็ลดราคา สมาชิกต่อรองเห็นสมควรก็ให้ไป ไม่จำเป็นว่ายี้ห้อนั้นขายเท่านี้ ยี้ห้อนี้ขายเท่านั้น จริงๆนะจะบอกให้

สตายผมนะ ของมือสองมันไม่สมบูณ ทุกอย่างหรอก มันต้องมีตำหนิ ผมจะบอกทุกอย่างที่มีตำหนิครับ(คือไม่หมกเม็ด) พร้อมกับตั้งราคา

ที่เป็นราคาที่ สมเหตุสมผล(คือไม่กะจะรวยกับงานนี้ครั้งเดว)ครับ

ผู้ซื้อและผู้ขายพอใจทั้งสองฝ่ายและสินค้าถูกต้องกับที่ลงขายก็โอเคครับ

คือจริงๆแล้วผมอ่ะ  ขายตามความเหมาะสมที่ตัวเองคิดว่าควรจะเป็น  แต่ทั้งนี้อยู่กับเงื่อนไขการใช้เงินด้วยหากรีบก็จะพยายามขายถูกแต่ไม่ต่ำว่าที่ต้องใช้  ผมไม่ได้ขายแบบซื้อมาขายไป  แค่มีเงินซื้อมาใช้มาเก็บ  พอเงินหมดก็แปลสภาพเท่านั้นเอง  แต่พี่ๆบางท่านอาจจะคิดมากว่าจะหลอก  ของจะไม่ดี สมาชิกหลายท่านที่ผมซื้อของก็มีเยอะ  ขายไปก็มีเยอะ  แต่ก็อ่ะครับสังคมออนไลน์  เอาแน่อะไรไม่ได้ขอบคุณครับ............แค่อยากระบายความอึดอัด

ถ้าท่านเป็นผู้ขาย ท่านซื้อของมาเท่าไรก็บวกกำไรไปตามที่ต้องการ แล้วกลับมาคิดนิดนึงว่าถ้าท่านเป็นผู้ซื้อจะซื้อในราคานี้หรือไม่ หากความต้องการอยู่ในระดับที่ปานกลาง

อีกอย่างนะครับ คำว่าของหายากเนี่ย ถ้าผมรู้ว่าอะไรก็ตามที่ผมจะซื้อมาแล้วหาอะไหล่ยาก ผมจะพยายามเลี่ยงครับ เพราะของหายากเนี่ยราคาแพงเหลือเกิน ;D (แต่หลายครั้งก็โดนเพราะแพ้ความต้องการของตัวเอง อิิอิ ;D)

ก็คงขึ้นอยู่กับ ความพอใจทั้ง  2 ฝ่าย คนขายพอใจ  คนซื้อพอใจจบ

หลายอย่าง  หลายเรื่อง มนุษย์ขี้เหม็น  ความอยากได้อยากมี ไม่เคยปราณีใคร   บางครั้งอยากได้จนหน้ามืด  ตามัว.....


ลุ่มหลง......แต่เราก็หนีสิ่งเหล่า นี้ ไม่ค่อยพ้น....55555