HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND

อยากรู้ครับว่า pindiode ใช้ทำอะไร จะพบอยู่ตรง ภาคเอาท์พุทถัดจากพีเอก่อนเข้าแบนด์พาสฟิลเตอร์

งงแต่อยากรู้เพราะว่า ปกติ diode จะยอมให้กระแสไฟฟ้าไหลทางเีดียวในเมื่อคลื่นวิทยุเป็นกระแสสลับทำไมผ่านได้

http://www.hamsiam.com/smf/index.php?topic=23450.30 (http://www.hamsiam.com/smf/index.php?topic=23450.30)

ยังไม่กระจ่างครับ

PIN หมายถึงว่าในระหว่างสารกึ่งตัวนำชนิดพี (P - Type) และชนิดเอ็น (N - Type) มีสารกึ่งตัวนำที่เรียกว่า
อินทรินสิค (Intrinsic : I) คั่นอยู่ ซึ่งจะมีดริฟเคอร์เรนส์ (Drift Current) นั้นเกิดขึ้นในดีพลีชั่นโซน
 และผลของสนามไฟฟ้าทำให้มีการตอบสนองเร็ว แต่ในทางตรงกันข้าม ดริฟเคอร์เรนส์ที่เกิดขึ้นภายนอกดี
พลีชั่นโซนนั้นมีการตอบสนองช้า ดังนั้นถ้าความกว้างของ ดีพลีชั่นโซนยิ่งกว้างมากเท่าใดประสิทธิภาพทาง
ควอนตัม (Quantum Efficiency) และความเร็วในการตอบสนองความถี่ยิ่งดีขึ้น ความกว้างของดีพลีชั่นโซนนี้มี
ความหนาแน่นของอีเลคตรอน และ โฮลของสารพีและสารเอ็นยิ่งต่ำจะยิ่งกว้าง ดังนั้นสารกึ่งตัวนำแบบ I ที่
คั่นกลางระหว่างสารพี กับสารเอ็น จึงมีหน้าที่เพื่อทำให้ความกว้างของดีพลีชั่นโซนกว้างขึ้นนั่นเอง เนื่องจาก
ไดโอดที่ใช้ในระบบการสื่อสารนั้นโดยทั่วไปต้องการความเร็วในการตอบสนองสูง ดังนั้นส่วนใหญ่จะใช้พินไดโอด

    :)การทำงานของ pindiode  จะทำหน้าที่เป็นสวิทให้คลื่น RF ผ่าน  โดยจะต้องป้อนแรงดันไบแอส ให้กับไดโอดแบบ forward ซึ่งแรงดันที่เริ่มทำงานนั้นขึ้นกับ spec ของแต่ล่ะตัวจริงๆ 1mA. ก็เริ่มทำงานแล้ว แต่จะยังมีความต้านทานมากอยู่ ซึ่งถ้าอยากให้ความต้านทานลดลงก็จะต้องเพิ่มกระแสในการไบแอสเข้าไปอีกแต่ไม่ควรเกินค่าที่กำหนด  เปรียบเทียบกับ  relay ง่ายๆคือ สามารถทำงานคล้าย relay แต่จะสวิทในการทำงานได้เร็วกว่า และจะเริ่มทำงานที่กระแสต่ำกว่า แต่ทนกระแสได้ไม่มากเท่า relay ซึ่งบางวงจรผู้ออกแบบนำไปใช้เป็นวงจรลดทอนสัญญาณเนื่องจากคุณสมบัติของตัวมันเอง  ซึ่งวงจรสมมูลของมันก็จะเหมือน R ดีๆนี่เองแต่จะเปลี่ยนค่าตามแรงดัน   คนคิดค้นยอมรับว่าเก่งจริงๆครับ (ปกติมีแต่อ่าน วันนี้มาพิมพ์)

โดยจะต้องป้อนแรงดันไบแอส ให้กับไดโอดแบบ forward ซึ่งแรงดันที่เริ่มทำงานนั้นขึ้นกับ spec ของแต่ล่ะตัวจริงๆ 1mA. ก็เริ่มทำงานแล้ว

แล้วแรงดันที่ใช้ไบแอสมาจากไหนสัญญานวิทยุหรือเปล่า