หัวข้อ: ข้อมูล อนุญาตให้ใช้สัญญาณไฟวับวาบ ไซเรน เริ่มหัวข้อโดย: TJ ที่ 27 กันยายน 2013, 19:36:30 http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/00124300.PDF
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2548/00168353.PDF http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2553/E/089/42.PDF http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2553/E/089/81.PDF มาตรา ๑๓ ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถทุกชนิดในทางเดินรถใช้ไฟสัญญาณแสงวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน เสียงสัญญาณที่เป็นเสียงนกหวีดเสียงที่แตกพร่า เสียงหลายเสียง เสียงดังเกินสมควร หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นตามที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา อธิบดีมีอำนาจอนุญาตให้รถฉุกเฉิน รถในราชการทหารหรือตำรวจหรือรถอื่นใช้ไฟสัญญาณวับวาบหรือใช้เสียงสัญญาณไซเรนหรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นได้ ในการนี้อธิบดีจะกำหนดเงื่อนไขในการใช้ไฟสัญญาณหรือเสียงสัญญาณรวมทั้งกำหนดเครื่องหมายที่แสดงถึงลักษณะของรถดังกล่าวด้วยก็ได้โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ข้อกำหนดสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรื่อง กำหนดเงื่อนไขในการใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรนหรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นและเครื่องหมายแสดงลักษณะของรถฉุกเฉิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำหนดเงื่อนไขในการใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นและเครื่องหมายแสดงลักษณะของรถฉุกเฉิน โดยออกข้อกำหนดไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ให้ยกเลิกข้อกำหนดกรมตำรวจ เรื่อง กำหนดเงื่อนไขในการใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นและเครื่องหมายแสดงลักษณะของรถฉุกเฉิน ฉบับลงวันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๖ ข้อ ๒ การขออนุญาตใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่น ให้เป็นไปตามประกาศของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ข้อ ๓ รถที่จะอนุญาตให้ใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่น จะต้องเป็นรถดังต่อไปนี้ ๓.๑ รถในราชการทหารหรือตำรวจ ๓.๒ รถดับเพลิงและรถพยาบาลของทางราชการ ๓.๓ รถอื่นที่ได้รับอนุญาตจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือผู้ได้รับมอบอำนาจ ข้อ ๔ รถที่จะใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่น จะต้องได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือผู้ได้รับมอบอำนาจเสียก่อน จึงจะติดตั้งและใช้ไฟสัญญาณหรือเสียงสัญญาณได้ หนังสืออนุญาตตามความในวรรคก่อนให้เป็นไปตามแบบท้ายข้อกำหนดนี้ ข้อ ๕ รถของทางราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว ให้ใช้ได้ตลอดไปจนกว่าจะมีการจำหน่วยรถนั้น หรือมีการเปลี่ยนภารกิจของการใช้รถและภารกิจนั้นไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะอนุญาตให้ใช้ไฟสัญญาณวับวาบหรือเสียงสัญญาณได้ สำหรับรถอื่นๆ ให้มีอายุไม่เกินกว่า ๓ ปี นับแต่วันอนุญาตและทั้งนี้ให้ถ่ายสำเนาหนังสืออนุญาตติดไว้ที่กระจกบังลมด้านหน้าของรถในสภาพมองเห็นได้ชัดเจน เพื่อการตรวจสอบของเจ้าพนักงานตลอดระยะเวลาการใช้รถดังกล่าว ข้อ ๖ ลักษณะของไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่น ๖.๑ ไฟสัญญาณจะต้องติดตั้งบนหลังคาให้เห็นได้ชัดเจน แสงของไฟสัญญาณจะต้องส่องออกทางด้านหน้ารถกะพริบวับวาบหรือหมุนให้แสงส่องวับวาบโดยรอบรถก็ได้ สีของแสงไฟสัญญาณให้ใช้ดังนี้ ๖.๑.๑ แสงแดง สำหรับรถในราชการทหารหรือตำรวจ รถดับเพลิงและรถในราชการอื่นที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเห็นสมควรเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย ๖.๑.๒ แสงน้ำเงิน สำหรับรถพยาบาล ๖.๑.๓ แสงเหลือง สำหรับรถอื่น ๖.๒ เสียงสัญญาณ ให้ใช้ดังนี้ ๖.๒.๑ เสียงสัญญาณไซเรน สำหรับรถในราชการทหารหรือตำรวจ รถดับเพลิง และรถในราชการอื่นที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเห็นสมควรเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย ๖.๒.๒ เสียงสัญญาณหลายเสียง (เสียงสูงต่ำสลับกัน) สำหรับรถพยาบาล ข้อ ๗ เครื่องหมายแสดงลักษณะของรถฉุกเฉิน ๗.๑ รถฉุกเฉินยกเว้นรถในราชการทหารหรือตำรวจ รถของทางราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ จะต้องมีข้อความว่า “รถฉุกเฉินได้รับอนุญาตแล้ว” และข้อความระบุชื่อจังหวัดที่อนุญาต เป็นตัวอักษรสีแดงพื้นสีขาว มีขนาดความสูง ๑๐ เซนติเมตร ติดไว้ที่ด้านข้างรถทั้งสองด้านโดยจะอยู่ในแถวเดียวกันหรือคนละแถวก็ได้ ๗.๒ รถดับเพลิงเอกชน ให้มีข้อความว่า “หน่วยอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย…….(ชื่อหน่วยงาน)……..” เป็นตัวอักษรสีขาว มีขนาดความสูง ๑๐ เซนติเมตร เหนือข้อความตามข้อ ๗.๑ ๗.๓ รถพยาบาลเอกชน ให้มีข้อความระบุชื่อหน่วยงาน เป็นตัวอักษรสีน้ำเงิน มีขนาดความสูง ๑๐ เซนติเมตร เหนือข้อความตามข้อ ๗.๑ ๗.๔ รถอื่นปฏิบัติทำนองเดียวกับข้อ ๗.๓ โดยตัวอักษรเป็นสีขาวอยู่ภายในกรอบพื้นสีเหลือง ๗.๕ กรณีที่มีเครื่องหมายแสดงสัญลักษณ์ของนิติบุคคลสำหรับหน่วยงานเอกชน ให้ติดเครื่องหมายดังกล่าว ไว้ที่ประตูหน้าเท่านั้น ๗.๖ เฉพาะรถเอกชน นอกจากข้อความและสัญลักษณ์ดังกล่าวข้างต้น ห้ามมิให้มีข้อความหรือสัญลักษณ์อื่นใด ข้อ ๘ การใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่น ๘.๑ การใช้ไฟสัญญาณและเสียงสัญญาณพร้อมกัน ให้ใช้ในกรณีจำเป็นต้องใช้รถเดินทางเพื่อปฏิบัติหน้าที่เมื่อมีเหตุฉุกเฉินโดยรีบด่วน หรือเพื่อนำหรือปิดท้ายขบวนซึ่งจำเป็นต้องอารักขาให้ความปลอดภัยเป็นพิเศษ ๘.๒ การใช้ไฟสัญญาณโดยไม่ใช้เสียงสัญญาณ ให้ใช้ในกรณีที่จำเป็นต้องเดินทางเพื่อปฏิบัติหน้าที่โดยเร็ว การนำหรือปิดขบวนรถ ขบวนคนเดินเท้า ซึ่งอาจกีดขวางการจราจร หรือในกรณีที่หยุดรถปฏิบัติหน้าที่เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน หรือกรณีที่จำเป็นเพื่อให้ผู้ใช้ทางทราบและสังเกตเห็นได้ง่าย ๘.๓ รถอื่นนอกจากรถในราชการทหารหรือตำรวจ รถดับเพลิง รถพยาบาล ให้ใช้ไฟสัญญาณเพียงอย่างเดียว เว้นแต่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะเห็นสมควรเป็นอย่างอื่น ๘.๔ รถโรงเรียน ห้ามมิให้ใช้ไฟสัญญาณวับวาบขณะขับรถในทาง เว้นแต่ในขณะหยุดรถเพื่อรับส่งนักเรียนขึ้นหรือลงรถหรือในขณะหยุดรถเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้ใช้ทางทราบและสังเกตเห็นได้ง่ายและไม่ต้องปฏิบัติตามข้อ ๗ ข้อ ๙ การเพิกถอน และการส่งคืนหนังสืออนุญาต ๙.๑ กรณีผู้รับอนุญาต เจ้าของรถหรือผู้ขับขี่กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ ๙.๑.๑ ใช้ไฟสัญญาณหรือเสียงสัญญาณโดยไม่มีเหตุอันสมควร ๙.๑.๒ กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๓ (๑) และ (๒) ๙.๑.๓ กระทำความผิดกฎหมาย อันเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี ๙.๑.๔ กระทำความผิดอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ตั้งแต่สองครั้งขึ้นไป คือ ๙.๑.๔.๑ ความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ยกเว้นมาตรา ๔๓ (๑) และ (๒) ๙.๑.๔.๒ ความผิดตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวกับการจราจร ๙.๑.๔.๓ ใช้รถที่มีอุปกรณ์ไม่ครบถ้วนตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกประกาศกำหนดไว้ หรืออยู่ในสภาพที่ไม่สามารถใช้การได้ดีหรืออาจเกิดอันตราย ๙.๑.๕ ใช้ไฟสัญญาณวับวาบหรือเสียงสัญญาณไม่ตรงตามที่ได้รับอนุญาต หรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดหรือประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานสอบสวนจัดทำรายงานแสดงเหตุแห่ง พฤติการณ์ของความผิดและผลคดีถึงที่สุด พร้อมความเห็นเสนอไปยังกองบังคับการตำรวจจราจร หรือตำรวจภูธรจังหวัด แล้วแต่กรณี เพื่อนำเสนอผู้อนุญาตเป็นผู้พิจารณาว่ากล่าวตักเตือนหรือเพิกถอนหนังสืออนุญาต ๙.๒ รถของทางราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เมื่อมีการเปลี่ยน ภารกิจของการใช้รถ และภารกิจนั้นไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะอนุญาตให้ใช้ไฟสัญญาณวับวาบหรือเสียงสัญญาณได้ หรือกรณีที่มีการจำหน่ายจ่ายโอน ให้มีหนังสือและนำหนังสืออนุญาตส่งคืนไปยังกองบังคับการตำรวจจราจร หรือตำรวจภูธรจังหวัด ภายใน ๗ วัน นับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลงภารกิจ หรือวันที่มีการจำหน่ายจ่ายโอน แล้วแต่กรณี เพื่อยกเลิกหนังสืออนุญาตนั้น ๙.๓ รถของเอกชน เมื่อเปลี่ยนเจ้าของหรือผู้ครอบครอง เปลี่ยนสภาพรถ เปลี่ยนวัตถุประสงค์ของการใช้รถ หรือถูกเพิกถอนหนังสืออนุญาต ให้ผู้ได้รับอนุญาต เจ้าของหรือผู้ครอบครองรถ ดำเนินการลบข้อความตามข้อ ๗ และถอดไฟสัญญาณ เสียงสัญญาณที่ได้รับอนุญาตให้ติดตั้งออกจากรถนั้นทันที แล้วให้มีหนังสือแจ้งและนำหนังสืออนุญาตส่งคืนไปยังกองบังคับการตำรวจจราจร หรือตำรวจภูธรจังหวัด ภายใน ๗ วัน นับแต่วันที่ได้มีการเปลี่ยนเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถ เปลี่ยนสภาพรถ เปลี่ยนวัตถุประสงค์ของการใช้รถ หรือได้รับทราบคำสั่งการเพิกถอนแล้วแต่กรณี ข้อ ๑๐ การขอต่ออายุการอนุญาต ให้ยื่นเรื่องขอต่อก่อนครบกำหนดอย่างน้อย ๒ เดือน และให้ใช้ต่อไปได้ จนกว่าจะได้รับแจ้งไม่อนุญาต ทั้งนี้ ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ พลตำรวจเอก สันต์ ศรุตานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หนังสืออนุญาต ให้ใช้ไฟสัญญาณวับวาบ หรือใช้เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่น --------------------------------------------------------------- ข้อกำหนดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง กำหนดเงื่อนไขในการใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นและเครื่องหมายแสดงลักษณะของรถฉุกเฉิน (ฉบับที่ ๒) โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงแก้ไขข้อกำหนดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง กำหนดเงื่อนไขในการใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นและเครื่องหมายแสดงลักษณะของรถฉุกเฉิน ฉบับลงวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงออกข้อกำหนดไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ข้อกำหนดนี้เรียกว่า “ข้อกำหนดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง กำหนดเงื่อนไขในการใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นและเครื่องหมายแสดงลักษณะของรถฉุกเฉิน (ฉบับที่ ๒)” ข้อ ๒ ให้ยกเลิกความในข้อ ๖.๑ แห่งข้อกำหนดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง กำหนดเงื่อนไขในการใช้ไฟสัญญาณวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นและเครื่องหมายแสดงลักษณะของรถฉุกเฉิน ฉบับลงวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “๖.๑ ไฟสัญญาณจะต้องติดตั้งบนหลังคาให้เห็นได้ชัดเจน แสงของไฟสัญญาณจะต้องส่องออกทางด้านหน้ารถกระพริบวับวาบหรือหมุนให้แสงสว่างวับวาบโดยรอบรถก็ได้ สีของแสงไฟสัญญาณให้ใช้ ดังนี้ ๖.๑.๑ แสงแดง สำหรับรถในราชการทหารหรือตำรวจ รถดับเพลิง และรถในราชการอื่นที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เห็นสมควรเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย ๖.๑.๒ แสงแดงและน้ำเงิน สำหรับรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากปลัดกระทรวงสาธารณสุข ๖.๑.๓ แสงน้ำเงิน สำหรับรถพยาบาลประเภทอื่นนอกจากรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินตามข้อ ๖.๑.๒ ๖.๑.๔ แสงเหลือง สำหรับรถอื่น” ทั้งนี้ ตั้งแต่วันถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป กำหนด ณ วันที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ พลตำรวจเอก สุนทร ซ้ายขวัญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชา หัวข้อ: Re: ข้อมูล อนุญาตให้ใช้สัญญาณไฟวับวาบ ไซเรน เริ่มหัวข้อโดย: BY PASS 5706 ที่ 27 กันยายน 2013, 21:35:04 รถทัวร์ รถตู้ท่องเที่ยว รถกระบะส่งของ ติดสีแดง-น้ำเงิน บางคันมีเสียงด้วย ไม่เห็นจับเลยหรือว่าเค้ามีใบอนุญาตใช้ในกรณีเร่งด่วน(ส่งด่วน) แต่รถอาสาฯ ออกต่างพื้นที่ ตร.จับสะงั้น
หัวข้อ: Re: ข้อมูล อนุญาตให้ใช้สัญญาณไฟวับวาบ ไซเรน เริ่มหัวข้อโดย: E22HYL ที่ 29 กันยายน 2013, 00:29:27 รถทัวร์ รถตู้ท่องเที่ยว รถกระบะส่งของ ติดสีแดง-น้ำเงิน บางคันมีเสียงด้วย ไม่เห็นจับเลยหรือว่าเค้ามีใบอนุญาตใช้ในกรณีเร่งด่วน(ส่งด่วน) แต่รถอาสาฯ ออกต่างพื้นที่ ตร.จับสะงั้น รถอาสา มันชัดเจนกว่ากันเยอะหัวข้อ: Re: ข้อมูล อนุญาตให้ใช้สัญญาณไฟวับวาบ ไซเรน เริ่มหัวข้อโดย: jube ที่ 29 กันยายน 2013, 05:45:49 ถ้าเอาตาม พรบ.ของขนส่งมาปัดฝุ่นใช้จริงๆโดนหมดทุกคันแน่นอนรับเงินค่าปรับไม่หวัดไม่ใหวแน่ครับไฟเดย์ไลก็ผิดนะ พวกรถตู้เขาคงรีบส่งผู้โดยสารน่ะเห็นชนกันตายทีไม่ใช่น้อยความปลอดภัยมีน้อยมาก Webmaster Earn Money! By Affiliate Program 100% Pay www.samuismile.com |