HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND

 :)

หลักสูตรอะไรไม่แน่ใจ แต่เพื่อนผมไปฝึกที่ ศูนย์ฝึกดับเพลิงและกู้ภัย CDP  ราชประชา ได้เข็มนี้มา

ถ้าจำไม่ผิด บรรเทาสาธ่่ารณะภัยคับ เคยอบรมตอนเรียนลูกเสือ ม.3ได้มา

เป็นเครื่องหมายตราสัญลักษ์ หมายถึงอาสาสมัครบรรเทาภัย คล้ายๆกับ อปพร.แต่ไม่ใช่ อปพร.จะเรียกว่าหน่วยกู้ภัยเอกชนก็ว่าได้  ครับเป็นสัญลักษหลักของสมาคมอาสาสมัครเทาสาธารณภัยสังเกตุได้ตามจุดดับเพลิงย่อยๆตามชุมชนต่างในเขตกรุงเทพ เช่น หน่วย ธนบุรี เหนือ ใต้ อะไรประมาณนี้ครับ ชื่อเต็มๆคือสมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทย หรือศูนย์ร่มไทร แต่ที่นำมาติดเสื้อของอปพร.ก็คือว่า นายกสมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย เป็นคณะกรรมการกิจอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน จึงให้ใช้ตราสัญลักษ์ร่วมกันเพื่อมิให้เกิดการแบ่งฝ่ายว่าเป็น อปพร. หรือเป็น อาสาบรรเทาภัย ด้วยเหตุนี้หลังๆมาจึงจะเห็นตรานี้ติดอยู่กับเสื่้อ ของ อปพร. แทบทุกคนและทุกท้องที่ทั่วประเทศ เอาไว้ผมจะมาบอกอีกที่ว่าสมาคมอาสาสมัครบรรเทาภัยเกิดขึ้นได้อย่างไร

ประวัติของสมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทย

จากคําปรารภของ พล.ต.ต.ม.ร.ว.เจตจันทร์ ประวิตร หัวหน้ากองตํารวจดับ เพลิง เมื่อ 6 เมษายน 2514 จากเอกสารรายงานผลงานของกองดับเพลิงประจําปี 2513 “งานบรรเทาสาธารณภัย รู้สึกเป็นงานใหม่สําหรับประเทศไทยเราแต่ในนานา อารยประเทศแล้ว เป็นงานที่เขาได้กระทําเป็นเวลานับร้อยปี สวนในประเทศไทยนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูหัวทรงริเริ่มขึ้นในปี 2506 ต่อมากรมตํารวจได้จัดตั้งหน่วย บรรเทาสาธารณภัยขึ้น เพื่อสนอง พระราชประสงค์ ในอันที่จะให้พสกนิกร ของ พระองค์ได้รับการช่วยเหลือ อย่างทันท่วงที เมื่อประสบสาธารณภัย”

พล.ต.อ.ประเสริฐ รุจิรงค อธิบดีกรมตํารวจได้จัดตั้งงานบรรเทาสาธารณภัยขึ้น ในกอง ตํารวจดับเพลิง เมื่อปี พ.ศ. 2508 ในชวงเวลา 6 ปี หนวยบรรเทาสาธารณภัย กองดับเพลิง ไดชวยเหลือประชาชน ทั่วประเทศ เป็นที่ยอมรับของประชาชนผู้ประสพ สาธารณภัย กรมตํารวจเห็นวาเพื่อใหการชวยเหลือประชาชน ผูประสบภัยได อยาง มี ศักยภาพเพียงพอตอสาธารณภัยที่เกิดขึ้นจึงขอขยายกําลังพลและอุปกรณ คณะ รัฐมนตรีได อนุมัติให ขยาย หนวยงาน ออกไปตามขอเสนอของกรมตํารวจ เมื่อวันที่ 21 กรกฏาคม 2513

การขยายงานบรรเทาสาธารณภัยเป็นงานใหญ การมีกําลังคนและอุปกรณอยู พรอมนั้นยังไมเพียงพอ ยังตองการ ความคลองตัว จึงไดขยายกําลังเจาหนาที่ประจํา กับอาสาสมัครออกไป เนื่องจากมีพื้นที่รับผิดชอบทั่วประเทศ กองดับเพลิงไดมีการ พัฒนาเจาหนาที่ประจําและฝึกอบรมประชาชนใหมีความรูความเขาใจในการปฏิบัติการ บรรเทาสาธารณภัยอยางตอเนื่อง ทําใหมีสมาชิกอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยเกิด ขึ้นเป็นจํานวนมากทั่ว ประเทศ

ในปี พ.ศ 2518 จึงไดกอตั้งเป็นสมาคมเรียกวาสมาคมอาสาสมัครบรรเทา สาธารณภัยแหงประเทศไทย โดยมี พันเอกพระเจาวรวงศเธอ พระองคเจาอนุสรณ มงคลการ เป็นนายกคนแรก ปัจจุบัน พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร เป็นนายกสมาคม

การปฏิบัติงานของอาสาสมัครเมื่อเกิดเพลิงไหม ติดตอสื่อสารเพื่อออกปฏิบัติ การจะติดตอทางศูนยวิทยุ ศูนยจะสงวิทยุไปยังหนวยอาสาสมัครฯ ที่อยูใกลที่เกิดเหตุ ที่สุดใหทําการตรวจสอบ เมื่อไดผลประการใดจะวิทยุแจง เขาศูนยกรุงเทพฯ หากเกิด เหตุเพลิงไหมจริง ทางศูนยจะวิทยุเรียกหนวยตาง ๆ ในเขตเดียวกันใหมาชวยเหลือ

การปฏิบัติหนาที่ของอาสาสมัครแตละคนมีประสิทธิภาพในการทํางานไมแพ เจาหนาที่ดับเพลิง เพราะทุกคนตองผานการอบรมหลักสูตรการดับเพลิงมาแลว ประกอบกับทํางานรวมกับเจาหนาที่ดับเพลิงจึงมีประสบการณสูง และความรวมมืออัน เกิดจากการฝึกรวมระหวางหนวยตาง ๆ ประจําเดือน จึงชวยงานของทางดับเพลิงได อยางรวดเร็ว และไดผลแมนวาที่เกิดเหตุจะอยูในตรอกซอกซอยเล็ก ๆ ก็สามารถจะไป ถึงตนเพลิงไดอยางรวดเร็ว เพราะรถดับเพลิงเป็นรถขนาดเล็ก และขนาดกลาง จะเห็น ไดวาตั้งแตมีหนวยอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแลว จะเห็นแตขาวที่เกิดเพลิงไหม เล็กนอย และสามารถระงับควบคุมเพลิงไดใหอยูในวงจํากัดอยางรวดเร็ว

หลังจากกองหนาอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยออกไปแลว การจัดระบบงาน ของทางสมาคมยังมีกองกลางตาม ติดไปคือหนวยใหความชวยเหลือ ติดตั้งระบบ ไฟฟา โดยเครื่องปั่นไฟ เมื่อเพลิงสงบหนวยสุดทายจะตามมาคือ มูลนิธิปอเต็กตึ้ง จัด ตั้งเตนทแจกอาหาร ยารักษาโรค และเครื่องนุงหมการทํางานจนเสร็จภารกิจโดยไม เกี่ยงกัน ทํางานโดยไมไดหวังประโยชนตอบแทน นั่นคือ แรงศรัทธาของอาสาสมัคร บรรเทาสาธารณภัยแหงประเทศไทย

ภารกิจของอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยมิไดชวยเหลือดับเพลิงอยางเดียว แตในปัจจุบันประเทศที่มีประชากร หนาแนน อาจจะเกิดสาธารณภัยไดหลายอยาง เชน แกสระเบิด, ตึกถลม, สัตวดุรายทําอันตรายประชาชน, อุบัติเหตุรถชนกัน, เรือ โดยสารลม, โปะจมนํา สิ่งตางๆ เหลานี้เป็นหนาที่รับผิดชอบของหนวยบรรเทา สาธารณภัย แตอาสาสมัครก็มีสวนรวมดวยทุกครั้ง

การปฏิบัติงานปัจจุบัน นอกจากจะรวมกับกรุงเทพมหานครและกรมปองกัน และบรรเทาสาธารณภัยแลวยังรวมมือ กับหนวยราชการที่เกี่ยวของทางดานการ พัฒนาสังคมและสวัสดิการดวย ทางดานการติดตอสื่อสารในปัจจุบัน ติดตอทางวิทยุ มือถือ ซึ่งนับไดวารวดเร็วมาก สมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยรวมกับมูลนิธิปอ เต็กตึ้ง ในการจัดอาหารแจกจายใหประชาชนเมื่อเกิดเพลิงไหม จัดถายรูปและนําศพ สงโรงพยาบาลแพทยตํารวจ ชวย เหลือผูปวยสงโรงพยาบาล

สวนวัตถุประสงคตามหลักการของแตละหนวยคือ 1. เพื่อชวยเหลือลดภาระรัฐบาลในการชวยชีวิต ปองกันควบคุมบรรเทาสาธารณภัยที่ เกิดขึ้น 2. เพื่อเป็นศูนยกลางในการเชื่อมความสามัคคีการประสานงาน การรวมกิจกรรม บรรเทาสาธารณภัย 3. เพื่อสงเสริมความรูความสามารถ ประสบการณเกี่ยวกับการปองกันระงับอัคคีภัย ใหกับประชาชนในทองถิ่นใกลเคียง 4. เพื่อเทิดทูนดํารงไวซึ่ง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย 5. ไมเกี่ยวของกับการเมือง

คําปฏิญาณตนของอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย คือ 1. ข้าพเจ้าพร้อมที่จะเสียสละ ชีวิตเลือดเนื้อ เพื่อประโยชนสุขของประชาชนประเทศ ชาติและราชบัลลังค 2. ขาพเจามุงจะกระทําแตความดี ละความชั่ว เพื่อเกียรติอาสาสมัครบรรเทา สาธารณภัย 3. ขาพเจาจะปฏิบัติหนาที่ดวยความมานะ อดทน ซื่อสัตย สุจริต โดยมิหวังสิ่ง ตอบแทนใด ๆ
ปัจจุบันมีขอบเขตการทํางานทั้ง เขตเหนือ เขตใต และเขตธนบุรี และตา้งหวัด เมื่อเกิดสาธารณภัยโดยจัดแบงเป็นหนวย ๆ

เขตเหนือ มีจํานวน 39 หน่วย เขตใต้ มีจํานวน 45 หน่วย เขตธนบุรี มีจํานวน 57 หน่วย สระบุรี มีจํานวน 1 หน่วย ลพบุรี มีจํานวน 1 หน่วย ชลบุรี มีจํานวน 1 หน่วย รวม มีจํานวน 144 หนวย

แตละหนวยมีอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยอยางนอย 50 คน มีรถดับเพลิง พรอมอุปกรณในการดับเพลิงครบ จัดวางกําลังสับเปลี่ยนกันตลอด 24 ชั่วโมง ภารกิจ ที่สําคัญอีกประการของสมาคม คือ การจัดอบรมสาธิตการ ปองกันอัคคีภัย ใหความรู กับประชาชนในอาณาเขตใกลเคียงกับหนวยของตน สวนฝึกอบรมปองกันและบรรเทา สาธารณภัยไดจัดการฝึกอบรมและบรรเทาสาธารณภัยในหลักสูตรตาง ๆ ใหเอกชน สถานประกอบการตาง ๆ รวมทั้งหนวยงานของรัฐและเอกชน ที่ตองการใหสมาคมรวม มือในการฝึกอบรมในหลักสูตรตาง ๆ ในการป้อง กันและบรรเทาสาธารณภัย

กู้ภัยหน่วยงานเดียวที่มีกฎหมายรับรองคือ ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ตรามือห้านิ้วและมีรูปภัยต่างๆในฝ่ามือนั้นแหละครับ 

สำหรับตรานอกจากนั้นก็เป็นที่สมาชิกไปอบรมผ่านนู่นนี่นั่นมาเพิ่มเท่านั้นเอง บางที่โดดหอมาไปติดตราโดดร่มจากเครื่องบินซะงั้น บางที่เขาให้ติดซ้ายมาติดขวา บางที่ก็อบรมมาเยอะก็ใส่ซะเยอะเลยก็มี แต่เชื่อไม๊รู้สึกภูมิใจลึกๆผมก็เคยติด บางที่อปพร พกปืนก็มี ทำตัวเกินหน้าที่ก็มี อาสาสมัครต่างๆก็คือ พลเมืองดีที่ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และสังคมก็แค่นั้นเอง ไม่มีอภิสิทธิใดๆเหนือพลเมืองดีที่ไม่ทำผิดกฎหมายเลย พูดซะเยอะเลยไม๊เล่า ;D ;D

ตำรวจบ้านด้วยครับ  ผมเคยเห็นเขาตั้งด่าน(จับหมวก)ร่วมกับตำรวจ   พี่แกพกปืนครับอภิสิทธิจริงๆเลย

ทำไมถึงชอบพกปืนกันนะหนักก็หนัก

พกกระบอกแล้วอายครับ จริงแล้วถ้าเจ้าหน้าที่เจ้าของหน่วยงานไม่ให้อภิสิทธิ์อาสาก็ไม่สามารถพกพาได้ ต้องฝากทางเจ้าหน้าที่หลักดีกว่า เพราะมันอันตรายมากเมื่อมีอาวุธอยู่ที่ตัวครับ

(http://upic.me/i/j2/dsc0xxx2501.jpg) (http://upic.me/show/46260489)
ที่มา ตำราการฝึกอบรมหลักสูตร EMA-EMS 6/49 ศูนย์ฝึกดับเพลิงและกู้ภัยราชประชา

(http://upic.me/i/o0/dsc0xxx2503.jpg) (http://upic.me/show/46260524)
ที่มา ตำราการฝึกอบรมหลักสูตร EMA-EMS 6/49 ศูนย์ฝึกดับเพลิงและกู้ภัยราชประชา