HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND

(http://upic.me/i/tk/dhmm6.jpg)

(http://upic.me/i/eb/5f8x7.jpg)

อาจจะสอบถามว่าการทำGoundingแบบในรูปมีประโยช์อย่างไรบ้างครับ และมีปัญหาในเรื่องกำลังส่งหรือค่าswrหรือไม่ครับ ในกรณีว่าติดGoundingแบบในรูปติดหรือไม่ติดอะไรดีกว่ากันครับ ขอบคุณทุกๆความรู้ที่เข้ามาแนะนำครับ

ขออนุญาตยื้มรูปท่าน: Moto Lover
จากกระทู้: กำลังจะติดเสาวิทยุที่บ้าน พอดีซื้อบ้านใหม่ Townhome 3 ชั้นจะต้องเตรียมอะไรบ้าง (http://www.hamsiam.com/smf/index.php?topic=65462.0)

ช่วยถ่ายเทประจุไฟฟ้าในอากาศลงดินครับ

ส่วนตัวผมว่าเสาอากาศวิทยุสื่อสาร ไม่ควรให้มีส่วนใดลงดินแบบ 100% นอกจากโครงสร้างของตัวเสาอากาศเอง เนื่องจากผมมองว่าถ้าฟ้ามันจะผ่า มันน่าจะผ่าตรงที่มันลงดินได้สะดวกที่สุด เหมื่อนสายล่อฟ้า ที่เราออกแบบมาเพื่อให้ฟ้าผ่าลงดินโดยสะดวกที่สุด  ผมกลัวว่าฟ้ามันจะเห็นเสาอากาศเราเป็นสายล่อฟ้าครับ

ข้อมูลนี้น่าสนใจ

ทำไว้แหละดีครับ โอกาสที่ฟ้าจะผ่าลงตรง ๆ มีน้อยมากครับ ขนาดฟ้าผ่าห่างจากเรา 2-3 กิโลเมตร

ก็ยังมีประจุไฟฟ้าวิ่งเข้ามาที่โลหะที่บ้านเราเลย ไม่ว่าจะเป็นสังกะสี หรือสายอากาศที่เป็นอะลูมิเนียมหรือโลหะอื่นๆ

แน่นอนว่า ประจุไฟฟ้าเหล่านั้นวิ่งไปตามสายนำสัญญาณซึ่งเป็นตัวนำ เข้าสู่เครื่องรับ-ส่งของเรา ถ้าเราทำทางผ่าน

ให้ประจุไฟฟ้าเหล่านั้นวิ่งลงดิน ก็จะเป็นการดีต่อเครื่องวิทยุ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ในบ้าน

พูดเรื่องฟ้าผ่านะครับ ถ้าลงตรง ๆ ระบบสายดินบ้าน ๆ ที่เราทำกัน เอาไม่อยู่หรอกครับ ยังไงก็พัง

+1

+1 ด้วย

ในการต่อจะมีปัญหาในเรื่องของ กำลังส่งหรือค่าswrหรือไม่ครับ  ???

กาวดิ่งคิด ติดส่วนผิวโลหะด้านนอกสุดของ สายนำสัญญาณ ซูบเปอร์เฟค
ไม่มีส่วนใดที่ทำให้ SWR หรือกำลังส่ง เปลี่ยนไป

ไว้เป็นทางผ่านของประจุไฟฟ้าในอากาศ เพราะถ้ามีประจุไฟฟ้าสะสมอยู่
เหนือสายอากาศมากๆเข้าเกิดความต่างศักดิ์สูงพอมันก็จะหาทางลงกราวน์
โดยการสปาร์คเหมือนหัวเทียนรถยนต์ชึ่งจะเกิดความร้อนสูงและแรงระเบิด
ดังนั้นถ้าเราต่อสายกราวน์ไว้ในลักษะตามภาพก็เท่ากับว่าเราทำทางระบาย
ประจุที่จะมาสะสมข้างบนออกตลอดเวลาไม่ปล่อยให้มีการสะสมมากจนนำไป
สู่การสปาร์คหรือที่เราเรียกฟ้าผ่านั่นแหละครับ
   ในระบบทวนสัญญาณทั๋วไปที่ติดบนยอดเขาจะต้องต่อกราน์วลักษณะนี้
หมดครับ บางที่ต่อสองสามช่วงเลยกใกล้ตัวสายอากาศแล้วก็ก่อนเข้าห้อง
ควบคุมอีกที สรุปคือถ้าต่อไว้ได้ก็ต่อไว้เถอะครับแต่อย่าลืมสายกราน์วต้องลงดิน
จริงๆนะครับงั้นคงไม่มีประโยชน์  แต่ถึงอย่างไรก็ตามไม่มีระบบอะไรที่ป้องกันฟ้า
ผ่าได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ดังนั้นช่วงเข้าหน้าฝนเริ่มมีฝนฟ้าคะนองก็ถอดปลั๊กไฟ สายนำสัญญาณ
ออกหลังเลิกใช้งานทุกครั้ง และไม่ใช้ในขณะฝนฟ้าคะนองปลอดภัยทั้งคนทั้งเครื่องครับ

+ 1 ด้วยครับ

ขอบคุณทุกๆความคิดเห็นเลยครับผม มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องกราวขึ้นมากเลยครับ พอดีได้สายhaliaxมา แต่สายมีการต่อกราว์ดังรูปเลยเกิดความสงสัยว่าเค้าต่อเพื่ออะไร ทำมัยเวลาเราใช้สายอ่อนพวกRG8จึงไม่มีการต่อ วันนี้กระจ่างแล้วครับ ;D

หน่วยงานผมเคยโดนฟ้าลงมาครั้งหนึ่ง ถึงขั้นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ดับ ไปครึ่งวัน
ไปดูสาเหตุพบว่า กราวด์จากหลังคาตึกลงดิน ขาด อันเกิดจากน็อตเป็นสนิม ขาดจากจุดต่อ

อธิบายครบเลย เยี่ยมครับ

ขอบคุณครับ... ส่วนหนึ่งอ่านมาจากร้อยวัตต์ครับ เรื่องของฟ้าผ่าว่ามีกี่แบบ รู้สึก
ว่าจะมีอยู่สองตอนอยู่ในสองเล่มแต่เล่มที่เท่าไรจำไม่ได้แล้วครับ มีอยู่ตอนนึงพูดถึงการคำนวน
ว่าสายล่อฟ้าตัวนึงมีพื้นที่ป้องกันได้แค่ไหน เป็นการคำนวนง่ายๆครับแต่ทำให้เราทราบว่าบางที
เราคิดว่าสถานีเราอยู่ใกล้สายล่อฟ้าของคนอื่นเค้าเราน่าจะปลอดภัยแต่ความจริง
อาจไม่เสมอไปเพราะเราอยู่นอกระยะคุ้มครองของเค้าก็ได้ ซึ่งเรื่องนี้ประสบมาด้วยตัวเองแล้ว
คือตั้งสถานีรีพีทฯด้วยแป๊บไว้ระหว๋างเสาของ การสื่อสารสองต้น เขาสูงกว่าเราหลาย
สิบเมตรและระบบล่อฟ้าเขาลงทุนเป็นล้าน ยังไงเราก็คงได้ใบบุญจากเขาบ้างล่ะ เลยชะล่า
ใจกราน์วซักเส้นก็ไม่ลงผลออกมาคืนนั้นฝนฟ้าคะนองสักพักระบบก็ไม่ตอบสนอง เช้าขึ้นไปดู
ก็ไม่ทันแล้ว เปิดกล่องมาควันยังกรุ่นอยู่เลย ทุกอย่างในกล่องเสียหายหมดแบบกู่ไม่กลับ
ด้วย ก็ได้แต่แหงนมองสายล่อฟ้าสองต้นซ้ายขวาแล้วก็บ่นลอยลมไปละครับ นิทานเรื่องนี้
เลยสอนให้รู้ว่าอย่าไปหวังยืมจมูกคนอื่นมาหายใจ เพราะเราไม่รู้ว่าเขาจะให้เราหรือเปล่า...

ธรรมชาติคาดเดาลำบากครับ...จากประสบการณ์ที่ทำการไฟฟ้ามา
แล้วแต่ดวงจริงๆครับ...มันอาจช่วยได้ในส่วนหนึ่งลดการเสีย
บ้างที่มันช่วยเราได้  แต่มันก็เป็นโทษได้เหมือนกันครับ...พิจารณา กันดูครับ..
แชร์กันไปครับ....

เอางี้
สถานีที่บ้านใคร ต่อกราวด์แบบที่ว่านี้บ้าง
บ้านผมไม่ได้ต่อนะ แต่สถานีผมมันก๋องแก๋ง คิดว่าไม่ต่อดีกว่า