HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND

(24 ธ.ค.) แก๊งโจรใช้มุกนางนกต่อเซ็กซี่ ทำทีเป็นรถเสียข้างทาง เหยื่อหนุ่มช่วยไปดูให้ โจรบุกจี้โจรกรรมรถ จับมัดมือมัดเท้าทิ้งไว้ข้างทาง ตำรวจเร่งไล่ล่า หลังซิ่งรถที่ขโมยมาแหกด่าน

เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากพลเมืองว่า พบคนถูกทำร้ายร่างกายและพันธนาการ อยู่บริเวณถนนเลี่ยงเมืองอุบลราชธานี เส้นทางไป อ.ตาลสุม จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เจ้าหน้าที่พบชายที่ชาวบ้านช่วยเหลือเอาไว้ สวมกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียว ตามร่องรอยถูกทำร้ายตามร่างกาย ทราบชื่อคือ นายเอกพันธ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาล 50 พรรษาวชิราลงกรณ์ ในเวลาต่อมา

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายเอกพันธ์ ผู้เสียหายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 23 ธันวาคม ได้ขับรถเก๋งฮอนด้า สีแดง หมายเลขทะเบียน กย4652 นครราชสีมา จู่ๆ มีผู้หญิงใส่สายเดี่ยว จอดรถอยู่ข้างทาง พร้อมกับโบกเรียกขอความช่วยเหลือ เมื่อลงไปสอบถามพบว่ารถของผู้หญิงคนดังกล่าวเสีย จึงได้เข้าไปช่วยดูให้ แต่ปรากฎว่ามีคนร้ายเป็นชาย 3 คน ที่แอบซุ่มอยู่ข้างทาง ใช้อาวุธปืนจี้ตน ก่อนจะจับถอดเสื้อและฉีกออกนำมาพันธนาการตนเอง ก่อนจะทิ้งตนเอาไว้ข้างทางและขโมยรถเก๋งไป จนมีชาวบ้านมาพบเห็นในช่วงเช้าดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดรถเก๋งที่โจรกรรมไปได้แล้ว หลังรถคันดังกล่าวขับแหกด่านตำรวจ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุจี้ปล้น นายเอกพันธ์ ไปราวๆ 7 กิโลเมตร โดยเจ้าหน้าที่ได้จับรถไล่ล่าตามไปติดๆ จนกระทั่งรถเก๋งที่ถูกโจรกรรมเกิดเสียหลักพุ่งลงข้างทาง แต่ผู้ขับขี่สามารถหลบหนีไปได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสืบสวนและจับตัวคนร้ายกลุ่มนี้ให้ได้โดยเร็ว

นอกจากนี้ตามรายงานยังระบุว่า บริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าว ชาวบ้านเปิดเผยว่า มักเกิดเคยโจรกรรมจี้ปล้นในลักษณะดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นพื้นที่มืดเปลี่ยว มีรถถูกปาก้อนหิน หรือ ถูกถีบรถจักรยานยนต์ในล้มเพื่อปล้นชิงทรัพย์ เป็นต้น


อ้างอิงมาจาก  http://www.clipmass.com/story/55330

อย่าไว้ใจทาง  อย่าวางใจสายเดียว นะครับ

ยังดีนะที่เอารถคืนมาได้ แต่รถก็เละเลย  :o :o

ถ้าคุณได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ระหว่างกลัวถูกจับ(พรบ.อาวุธปืน)กับกลัวถูกปล้น คุณกลัวอะไรมากกว่ากัน

เห็นสาวโบกรถ  ผมไม่เคยจอดเลย...

กลัวถูกปล้นครับพกอยู่ทุกครั้งที่เดินทางครับ

ใครรถเสียจริงๆ ก็ตามบุญตามกรรมแหล่ะครับ อย่างน้อยช่วยโทรแจ้งให้ อย่าว่าใจดำเลยไม่เคยจอดครับ กลัวแบบนี้แหล่ะ

เหตุการณ์ทำนองนี้เคยเกิดกับนักวิทยุสมัครเล่นท่านหนึ่งเมื่อหลายปีมาแล้ว เหตุเกิดแถวบางซื่อ ถ้าจำไม่ผิด

ขับรถไปทำงานตอนเช้า เจอมอเตอรไซค์ล้ม มีผู้บาดเจ็บ เลยลงไปช่วย กลับกลายเป็นว่า ตำรวจแจ้งขอหา ขับรถเฉี่ยวชนมอเตอร์ไซค์จนมีผู้บาดเจ็บ สู้คดีอยู่หลายปี หมดไปตังสู้คดีหลายแสนบาท

นาธาน มาอีกแล้ว เมาแล้วถอยรถชนท้ายรถเสียหายกล้วพ่อดุ เลยกุเรี่องขึ้นมา เป็นเด็กเลี้ยงแกะอีกแล้ว สมน้ำหน้า

    ตามข่าว ไม่น่าจะเป็นการกุข่าวขึ้นมานะครับ เพราะขับรถแหกด่านหลบหนีการจับกุม มีการไล่ล่าติดตามจนรถเสียหลักและผู้ต้อง
สงสัยหลบหนีไปได้

ข่าวเมื่อเช้านี้สรุปแล้วครับ

คดีมีพลิกอีกแล้ว ลงทุนน่าดูเลย

ก็ไม่รู้จะพลิกไป พลิกมา อย่างไร เพราะเราก็ไม่ได้ไปรู้เห็นกับตาจริง ๆ ก็ ทราบจากข่าว ที่เผยแพร่มาเท่านั้น
ถ้าเป็นการ กุเรื่องก็ลงทุนโง่ ๆ รถก็พัง แล้วยังต้องเจ็บตัว แก้ผ้าให้น่าอาย เป็นข่าวอีก แต่ เก่ง ที่หลอก นักข่าว ได้

ถึงอย่างไร เหตุการณ์ ตามข่าวก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้จริง ก็เตรียมคิดกันไว้ก็แล้วกันว่า เมื่อประสบ พบเห็นกับตนเอง จะทำอย่างไร D

สรุป ว่า โกหกครับ เจ้าของรถเมา ขับรถลงข้างทาง กลัวพ่อด่า จริงร่วมกับเพื่อน กุเรื่อง ขึ้นมาครับ สรุป โดนข้อหาแจ้งความเท็จไปอีก กะทง

เฮ้อ....ทำไปได้หนอคนเรา เจอข้อหาแจ้งความเท็จเข้าให้ ;D ;D ;D

:) กลัวไม่มีชีวิตรอดกลับไปหาพ่อ-แม่ ลูกเมียและเพื่อน งั้นไปให้พกพาไว้อย่าให้ห่างกาย มีเค้าเสมือนมีเพื่อนแท้ 100 คน ผมติดตัวตลอด >:(

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 26 ธันวาคม ที่ผ่านมา  พ.ต.อ.จุมพล สุวนาม ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี พ.ต.ท.นพดล ช่วยบุญ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุบลราชธานี  พ.ต.ท.ก้องชนะ บุตรศิริ รองผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ร่วมสอบปากคำนายเอกพันธ์ ผ่องแผ้ว อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 ม.10 ต.กระโสบ อ.เมืองอุบลราชธานี เซลล์แมน ขายเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อดังหลังจากมีชาวบ้านเข้าช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล 50 พรรษามหาวชิราลงกรณ์ ขณะที่นายเอกพันธ์ นอนหมดสติในป่าข้างทาง ถนนเลี่ยงเมือง ห่างจากโรงเรียนยุวทูต ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี ประมาณ 500 เมตร  ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.55 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นายเอกพันธ์ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเองได้เดินทางกลับจากซื้อของที่ห้างโลตัส อุบล เวลา ประมาณ  20.30 น. ของวันที่ 23 ธันวาคม  เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบหญิงสาวรถจักรยานยนต์จอดเสียอยู่ข้างทาง จึงจอดรถลงไปช่วย จากนั้นได้มีคนร้ายเข้ามาทำร้ายมัดมือ มัดเท้าทิ้งไว้ในป่าข้างทาง  ก่อนจะเอารถยนต์เก๋งฮอนด้า  ซิตี้ สีแดง หมายเลขทะเบียน กย 4652 นครราชสีมา ไป
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  วันเวลาเดียวกันนั้นขณะที่นายเอกพันธ์อ้างว่า มีคนร้ายปล้นเอารถเก๋งฮอนด้าไปนั้น   เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจสิ่งของผิดกฎหมายบริเวณแยกบายพาสตาลสุม ห่างจากจุดที่นายเอกพันธ์อ้างว่าเกิดเหตุ ประมาณ  1 กม.ซึ่งก็พบรถเก๋ง ฮอนด้า สีแดงของนายเอกพันธ์ขับหลบหนีด่านแล้วไปพลิกคว่ำอยู่บ้านกุดลาด แต่ไม่พบผู้ขับขี่จึงได้ยึดมาตรวจสอบที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี   จนช่วงเช้ามืดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบชายถูกมัดมือมัดเท้าในป่าข้างทางจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่ โรงพยาบาล 50 พรรษา เนื่องจากได้รับบาดเจ็บซึ่งนายเอกพันธ์ก็ได้แจ้งว่ารถคนที่แหกด่านเป็นของตนเองที่ถูกคนร้ายปล้นไป

อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนนายเอกพันธ์เจ้าหน้าที่ตำรวจพบพิรุธ หลายข้อแต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นโดนปล้นออกไป  พ.ต.อ.จุมพล  จึงได้จัดชุดสืบสวนออกเป็น 2 ชุดออกตรวจสอบข้อเท็จจริงพยานแวดล้อม จนแน่ใจว่านายเอกพันธ์ได้ปิดบังไม่พูดความจริง  จึงได้เชิญตัวนายเอกพันธ์มาสอบสวนนานกว่า 3 ชั่วโมง นายเอกพันธ์จึงได้รับสารภาพว่า ตนได้กุเรื่องขึ้นมาเนื่องจากวันที่เกิดเหตุ  ตนได้ทานเหล้ากับเพื่อนชื่อโก้ ที่บ้านจากนั้นก็ออกมาซื้อเหล้าเพิ่มโดยที่นายโก้เป็นคนขับ  ระหว่างขับมาถึงบายพาสตาลสุมนายโก้เห็นด่านตำรวจ  ด้วยความกลัวว่าจะโดนจับเมาแล้วขับ  นายโก้จึงได้ถอยรถหนี แล้วรถเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง จากนั้นนายโก้จึงได้ลากตนเองออกจากรถไปซ่อนตัวข้างทางจนเจ้าหน้าที่ตำรวจยกรถไป  ระหว่างเดินกลับบ้านตนเองสับสนกลัวว่าพ่อจะด่าเรื่องรถชน  จึงได้วางแผนร่วมกับนายโก้  เพื่อนที่มาด้วยกันให้ทำทีมัดมือ  มัดเท้า ทิ้งตนอยู่ข้างทางแล้วกุเรื่องว่าลงไปช่วยผู้หญิงแล้วโดนปล้น
 
นายเอกพันธ์ยังกล่าวอีกว่า  ทีแรกตนเองก็ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายไปขนาดนี้  นักข่าวต่างติดต่อเข้ามาเพื่อจะให้ออกรายการสัมภาษณ์  จนตนคิดว่าหากปล่อยไว้คงไม่ดีแน่  จึงได้ตัดสินในสารภาพความจริง  ประกอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่เชื่อตนอยู่แล้ว  ทั้งนี้ตนเองก็อยากจะขอโทษประชาชนทั้งประเทศที่ให้ความเห็นใจ  ไม่มีเจตนากุเรื่องทำให้ใครเดือดร้อนขนาดนี้ เพียงแค่ต้องการไม่ให้พ่อดุเท่านั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหานายเอกพันธ์ว่าแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ เกี่ยวกับความผิดอาญา แก่ เจ้าพนักงาน ผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่ง อาจทำให้ ผู้อื่น หรือ ประชาชน เสียหาย ก่อนทำการควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปโดยเจ้าหน้าที่จะทำการส่งฟ้องต่อไป

เีสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย

อันนี้ผมไม่รู้เรื่องน่ะ  ผมเอามาตามข่าวของเค้า... :(

คิดได้เนอะ :D

ผม ขึ้นศาลและชนะมาแล้ว สองศาล ชั้นต้นและอุทธรณ์ เนื่องจากความช่วยเหลือนี่ล่ะ พ่วงแบตฯให้ ฟอร์จูนเนอร์ และให้นามบัตรเค้าไว้ ที่น้ำตกซันตาเถร หลังจากนั้น ครึ่งเดือน ได้รับหมายจากเจ้าของรถ ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย เนื่องจากเค้าได้รับการยืนยันจากศูนย์ บริการว่า เสียหายจากการพ่วงแบตฯ  ผมก็ต่อสู้ไปตามปรกติ ใช้วิชาชีพ(วิศวกรเครื่องกล ) และทนายความซึ่งก็เป็นเรื่องรถยนต์ด้วย ศาลชั้นต้นชนะ เค้ายื่นอุทธรณ์ต่อ ชนะอีก เมื่อ 20/12/55 นี่เอง ทางเค้าคงจะขอฏีกาอีกมั้งครับ  เพราะ รถยนต์รุ่นใหม่ๆ มันมีระบบป้องกันความเสียหายอยู่ ที่เจ้าของรถเค้าทำ คงเพราะ ราคามันสูง และศูนย์ฯคงทำเจ้งเอง หาคนรับผิดชอบแทน ก็เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้น ความมีน้ำใจก็อาจนำภัยมาให้ตัวเองได้ อย่างผม