หัวข้อ: การดำเนินคดี เริ่มหัวข้อโดย: SUB44 ที่ 17 สิงหาคม 2012, 14:44:50 เรื่ิองมีอยู่ว่า เมื่อช่วงเดือนน้ำท่วมปี54 อาสาสมัครช่วยเหลือ ประชาชนทำงาน24ชั่วโมง
เด็กในหน่วยอายุไม่เกินยี่สิบได้เข้าร่วมทำงานกับหน่วยนี้หลายปีแล้ว ช่วงเวลาหลังพระอาทิตย์ตกดิน บางคนก็หลับเฝ้าฐาน บางคนก็ไปดูแลข้างนอกฐาน น้องเอ(นามสมมุติ)ก็แวะเข้ามาในฐาน และไม่มีใครสงสัยอะไรเพราะเป็นคนเก่าที่นี้ วันรุ่งขึ้นก็ตรวจสอบพบว่า มีทรัพย์สินในฐานหายไปประมาณ ห้า ถึง หก รายการ และนำเรื่องนี้แจ้งความที่สุานีตำรวจท้องที่เรียบร้อย หลังจากนั้น ก็มีการออก ว.8 ทางเครื่องแดง และได้รับการติดต่อจากอาสาหน่วยอื่น ให้ไปรับของแถวอ่อนนุช ผมและพวกก็ไปรับพร้อมบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานแล้ว แต่ยังมีอีกรายการหนึ่งซึ่งมีมูลค่าเป็นหลักหมื่นบาทที่ยังไม่ได้คืน ปรากฎว่า น้องเอ นำเอาไปทั้วหมด โดยอ้างว่าติดมือไปและนำไปฝากเขาไว้ แต่ยังไม่ได้นำส่งเจ้าของแต่พวกพี่ไปรับก่อน แต่ยังไม่รับสารภาพในทรัพย์สินชิ้นสุดท้าย ได้มีการติดต่อคุณพ่อของน้องเอใหไปคุยที่ สน. และมีการเจรจาว่า ถ้านำของชิ้นสุดท้ายมาคืนจะไม่ติดใจเอาความ เพราะหลักฐาน พยาน คดีเก่าชัดเจน และถือเป็นคดีอาญา หลักทรัพย์ในยามวิกาล ซึ่งน้องเอได้รับสารภาพต่อหน้าเจ้าพนักงานสอบสวนว่าเอาไปจริง ยกเว้น สิ่งสุดท้าย แล้วพวกผมก็ยืนยันจะดำเนินคดีต่อ เพราะอยากได้ของคืน ฝ่ายเจ้าพนักงานสอบสวนขอคุยเป็นการส่วนตัวกับผน้องเอและคุณพ่อเขาประมาณ15นาที ตำรวจบอกว่าจะต้องสอบสวนที่เกิดเหตุ และให้เชิญบุคคลในรูปที่ผมไปรับของมาเป็นพยานด้วย จนตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้รับความคืบหน้าจากเจ้าพนักงานสอบสวนเลยครับ ทำนองว่าจะให้ดำเนินการเอง ทั้งนี้ผมก็ได้ติดต่อกองปราบแล้ว ทางกองปราบบอกว่า จะต้องให้ทาง สน.ท้องที่ทำเรื่องให้กองปราบก่อน. ผมก็งงขั้นตอนการทำงาน สอบสวนคดี ทั้งๆที่หลักฐาน พยาน พร้อมในเชิงเอกสาร หมดแล้ว และผู้ต้องหารับสารภาพต่อหน้าเจ้าพนักงานและผู้ปกครองแล้วว่าทำจริง. แต่เจ้าพนักงานทำนิ่งเฉยไป. ควรทำไงดีครับ หัวข้อ: Re: การดำเนินคดี เริ่มหัวข้อโดย: RE-SHOCK ที่ 22 สิงหาคม 2012, 12:07:03 เอาแบบพูดเข้าใจง่ายๆนะครับ รายการของที่หายไปนี่สำคัญครับ ถ้าผู้ต้องหามีการปฎิเสธในบางรายการ ต้องนำสืบพยาน ให้รู้ก่อนว่า สิ่งของชิ้นนั้นคืออะไร ผู้เสียหายแสดงหลักฐานการครอบครองด้วยในทำนองว่ามีอยู่จริง และ ได้หายไปพร้อมกันจริง ไม่ได้กล่าวหาหรืออ้างเท็จ และ ต้องมีพยานหลักฐานว่าผู้ต้องหาได้เป็นผู้ขโมยไป เพื่อ ให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และ อาจเป็นการโจรกรรมซ้ำซ้อนแอบแฝง ฯลฯ พนักงานสอบสวนเขาจะมีวิธีพิจรณาของเขาครับ ต้อง รอดูสำนวนว่าคืบหน้าไปทำนองไหน แล้วเราก็คอยสนับสนุนเรื่องพยานหลักฐานให้มากที่สุดครับ
พอนึกภาพออกนะครับ ว่า รูปแบบจะเป็นไปทำนองไหน ถ้าพิสูจน์ทราบไม่ได้ว่าเราเป็นผู้ครอบครองในสิ่งของชิ้นนั้นจริง หรือ ไม่มีหลักฐานเพียงพอว่าผู้ต้องหาได้เอาไปจริง อาจต้องเสียเปล่า รูปการประมาณนี้ครับผม หัวข้อ: Re: การดำเนินคดี เริ่มหัวข้อโดย: แฮมโคราชา ที่ 22 สิงหาคม 2012, 14:37:11 เอาแบบพูดเข้าใจง่ายๆนะครับ รายการของที่หายไปนี่สำคัญครับ ถ้าผู้ต้องหามีการปฎิเสธในบางรายการ ต้องนำสืบพยาน ให้รู้ก่อนว่า สิ่งของชิ้นนั้นคืออะไร ผู้เสียหายแสดงหลักฐานการครอบครองด้วยในทำนองว่ามีอยู่จริง และ ได้หายไปพร้อมกันจริง ไม่ได้กล่าวหาหรืออ้างเท็จ และ ต้องมีพยานหลักฐานว่าผู้ต้องหาได้เป็นผู้ขโมยไป เพื่อ ให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และ อาจเป็นการโจรกรรมซ้ำซ้อนแอบแฝง ฯลฯ พนักงานสอบสวนเขาจะมีวิธีพิจรณาของเขาครับ ต้อง รอดูสำนวนว่าคืบหน้าไปทำนองไหน แล้วเราก็คอยสนับสนุนเรื่องพยานหลักฐานให้มากที่สุดครับ พอนึกภาพออกนะครับ ว่า รูปแบบจะเป็นไปทำนองไหน ถ้าพิสูจน์ทราบไม่ได้ว่าเราเป็นผู้ครอบครองในสิ่งของชิ้นนั้นจริง หรือ ไม่มีหลักฐานเพียงพอว่าผู้ต้องหาได้เอาไปจริง อาจต้องเสียเปล่า รูปการประมาณนี้ครับผม เห็นด้วยครับ ยิ่งคดีนี้ ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้เยาว์ คดียิ่งมีความยุ่งยาก ต้องสอบสวนต่อหน้านักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ อัยการ ถ้าการสอบสวนไม่ถูกต้องแล้ว ก็จะไม่สามารถส่งฟ้องศาลได้ พนักงานสอบสวนที่เป็นตำรวจ บางท่าน จึงไม่อยากทำคดีประเภทนี้ ที่สำคัญคือ ผู้เสียหายที่แท้จริงเป็นใคร ถ้าหาตัวผู้ที่เสียหายจริงๆไม่ได้ คดีก็จะดำเนินต่อไม่ได้ หัวข้อ: Re: การดำเนินคดี เริ่มหัวข้อโดย: SUB44 ที่ 13 ตุลาคม 2012, 02:50:55 เรื่องนี้สิ่งของแม้เพียงหนึ่งชิ้นที่ผู้ต้องสงสัยเอาไปแล้วพิสูจน์ได้คือ วิทยุสื่อสาร ที่จดในชื่อของเจ้าทุกข์ แล้วสิ่งของไปปรากฏในอีกสถานที่หนึ่ง โดยมีผู้รับฝาก (ไม่ทราบเป็นของที่ได้มาโดยไม่ถูกต้อง) ยืนยันว่า ผู้ต้องสงสัย นำมาฝากไว้กับตนเอง และมีเหตุอันควรชวนสงสัย ... และมีเหตุเกี่ยวเนื่องด้วยเหตุการณ์หลายๆอย่างครับ Webmaster Earn Money! By Affiliate Program 100% Pay www.samuismile.com |