HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND

HAMSIAM TECHNOLOGY => พูดคุยทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: HS8JBD ที่ 28 มิถุนายน 2012, 16:58:51



หัวข้อ: ท่านคิดว่าตักบาตรแบบนี้ได้บุญหรือบาป
เริ่มหัวข้อโดย: HS8JBD ที่ 28 มิถุนายน 2012, 16:58:51
เป็นเรื่องจริงแถวบ้านผมเกี่ยวกับท่านผู้สูงอายุกับการตักบาตร มีคุณตาท่านนึงตักบาตรทุกเช้า มาวันนี้เข้าช่วงฤดูผลไม้ออก แกก็ออกมาตักบาตรตามปกติแต่วันนี้เอาทุเรียนสองลูกมาใส่บาตรแต่มันใส่ไม่ได้เนื่องจากลูกโต แกจึงเอาเชือกผูกตรงขั้วทุเรียนสองลูกแล้ววางพาดที่ไหล่ให้พระสะพายทุเรียนไปเนื่องจากพระอุ้มบาตรถือไม่ได้ท่านว่าตักบาตรแบบนี้ได้บุญหรือบาปครับ ;D


หัวข้อ: Re: ท่านคิดว่าตักบาตรแบบนี้ได้บุญหรือบาป
เริ่มหัวข้อโดย: nan2531 ที่ 28 มิถุนายน 2012, 17:02:52
น่าจะแกะให้ซะหน่อยนะ


หัวข้อ: Re: ท่านคิดว่าตักบาตรแบบนี้ได้บุญหรือบาป
เริ่มหัวข้อโดย: sshadoww ที่ 28 มิถุนายน 2012, 17:12:14
สะพายทุเรียน  ??? ???


หัวข้อ: Re: ท่านคิดว่าตักบาตรแบบนี้ได้บุญหรือบาป
เริ่มหัวข้อโดย: hs4qnn ที่ 28 มิถุนายน 2012, 17:27:09
ทำไม ไม่เอาไปถวายที่วัดแทน  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ท่านคิดว่าตักบาตรแบบนี้ได้บุญหรือบาป
เริ่มหัวข้อโดย: hs6rjc ที่ 28 มิถุนายน 2012, 17:28:23
น่าจะแกะแล้วไปถวายที่วัดดีกว่า


หัวข้อ: Re: ท่านคิดว่าตักบาตรแบบนี้ได้บุญหรือบาป
เริ่มหัวข้อโดย: CB INFINITY เป็นบุคคลเดียวกันกับ phantarwat ปั่นราคาแบนถาวร ที่ 28 มิถุนายน 2012, 17:30:18
ผมว่า คนแก่เขามีศรัทธาจริงก็ไม่น่าเป็นอะไรนะครับ  แกคงจะไม่มีแรงไปวัด   และแกคงไม่มีเจตนาที่จะแกล้งพระครับ


หัวข้อ: Re: ท่านคิดว่าตักบาตรแบบนี้ได้บุญหรือบาป
เริ่มหัวข้อโดย: E29CMY ที่ 28 มิถุนายน 2012, 17:32:53
เป็นการฝึกความอดทนพอพ้นโค้งก็ทำทานซะเลย ทิ่ง ;D


หัวข้อ: Re: ท่านคิดว่าตักบาตรแบบนี้ได้บุญหรือบาป
เริ่มหัวข้อโดย: 9chet ที่ 28 มิถุนายน 2012, 17:35:59
ที่ท่านถวายทุเรียนท่านได้ทานบารมีแน่นอนครับ
แต่การที่ท่านทำให้พระต้องแบกของหนักและต้องใช้ความพยายามที่จะได้กิน อันนี้ก็เป็นกรรมครับ


หัวข้อ: Re: ท่านคิดว่าตักบาตรแบบนี้ได้บุญหรือบาป
เริ่มหัวข้อโดย: HS8JBD ที่ 28 มิถุนายน 2012, 17:39:24
ที่ท่านถวายทุเรียนท่านได้ทานบารมีแน่นอนครับ
แต่การที่ท่านทำให้พระต้องแบกของหนักและต้องใช้ความพยายามที่จะได้กิน อันนี้ก็เป็นกรรมครับ
แล้วหนามทุเรียนที่ตำพระละครับ


หัวข้อ: Re: ท่านคิดว่าตักบาตรแบบนี้ได้บุญหรือบาป
เริ่มหัวข้อโดย: CB INFINITY เป็นบุคคลเดียวกันกับ phantarwat ปั่นราคาแบนถาวร ที่ 28 มิถุนายน 2012, 17:40:25
ที่ท่านถวายทุเรียนท่านได้ทานบารมีแน่นอนครับ
แต่การที่ท่านทำให้พระต้องแบกของหนักและต้องใช้ความพยายามที่จะได้กิน อันนี้ก็เป็นกรรมครับ
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ


หัวข้อ: Re: ท่านคิดว่าตักบาตรแบบนี้ได้บุญหรือบาป
เริ่มหัวข้อโดย: E27BOI ที่ 28 มิถุนายน 2012, 20:06:36
ที่ท่านถวายทุเรียนท่านได้ทานบารมีแน่นอนครับ
แต่การที่ท่านทำให้พระต้องแบกของหนักและต้องใช้ความพยายามที่จะได้กิน อันนี้ก็เป็นกรรมครับ
บุญและทานบารมี ได้แน่นอน เจตนาคนทำบุญอยากให้จริงๆ ต้องดูที่เจตนา คนชราเรียวแรงอาจจะไม่ไหวในการปลอกทุเรียนการและฉีกทุเรียน พระจะไม่รับบิณฑบาตรก็ไม่ได้ กรรมของพระครับ ไม่ใช่กรรมคนทำ คนทำบุญอาจจะไม่ได้มาสร้างกรรม แต่พระอาจจะมาชดใช้กรรมเก่ามากกว่าครับ (ผิดถูกยังไงข้ออภัยครับ ผมพูดไปตามความคิดและเจตนาที่ดีสำหรับคนชราที่ทำบุญครับ)


หัวข้อ: Re: ท่านคิดว่าตักบาตรแบบนี้ได้บุญหรือบาป
เริ่มหัวข้อโดย: E28-TE ที่ 28 มิถุนายน 2012, 20:10:08
มุมมองแต่ละคนแตกต่างกันไปครับ ส่วนผมคิดว่าเป็นเจตนาแบบใหนครับ


หัวข้อ: Re: ท่านคิดว่าตักบาตรแบบนี้ได้บุญหรือบาป
เริ่มหัวข้อโดย: hs1amm ที่ 29 มิถุนายน 2012, 16:36:24
พระทนได้ พอใครเห็นพระสะพายทุเรียนเดี๋ยวเขาก็ช่วนพระเองแหละเอาไปแกะพระครึ่งคนปอกครึ่ง โอยๆๆๆๆบาปจะกินหัวเอาทำบุญด้วยความตั้งใจได้บุญแน่นอน ทำบุญเอาหน้าได้แก้ผ้านอน


หัวข้อ: Re: ท่านคิดว่าตักบาตรแบบนี้ได้บุญหรือบาป
เริ่มหัวข้อโดย: HS3SIM ที่ 29 มิถุนายน 2012, 16:45:26
หมอนทอง รึเปล่า ครับ เผื่อเด็กวัดจะเอาไปหนุน  ;D



ถ้าผมเป็นหลวงพี่   รับมาแล้ว  คนใส่ใด้ก็บุญแล้วเราทำทานต่อใด้นี่ครับ  พอพ้นสายตาคุณลุง 
ก็บริจาคให้เด็กแถวนั้นก็ใด้ครับ
ไม่ต้องแบกไปถึงวัด


หัวข้อ: Re: ท่านคิดว่าตักบาตรแบบนี้ได้บุญหรือบาป
เริ่มหัวข้อโดย: hs1gf ที่ 29 มิถุนายน 2012, 16:48:31
คนใส่บาตรย่อมได้บุญ แต่คนที่รับกรรมคือพระ
ผมว่าผมเคยโดนแตงโมทั้งลูก ก็ว่าหนักแล้วนะ นี่มีหนามอีก โดยเฉพาะ คนไทยเชื้อสายจีนอ่ะ เขาชอบใส่ทั้งลูก เคยถามว่าทำไมไม่ผ่า  เขาบอกว่ากลัวได้บุญไม่เต็ม
    แต่เขาไม่คิดนะว่า พระก็รับกรรมไปเต็มๆเหมือนกัน


หัวข้อ: Re: ท่านคิดว่าตักบาตรแบบนี้ได้บุญหรือบาป
เริ่มหัวข้อโดย: peerapat ที่ 30 มิถุนายน 2012, 14:56:14
หวังดี ประสงค์ร้าย ;D


หัวข้อ: Re: ท่านคิดว่าตักบาตรแบบนี้ได้บุญหรือบาป
เริ่มหัวข้อโดย: เจมี่ ที่ 30 มิถุนายน 2012, 21:14:42
คราวหน้าก็ใส่บาตรมีดปอกทุเรียนไปด้วยสิครับ  ;D


หัวข้อ: Re: ท่านคิดว่าตักบาตรแบบนี้ได้บุญหรือบาป
เริ่มหัวข้อโดย: pythonsky ที่ 30 มิถุนายน 2012, 21:31:25
จะบอกว่าบุญเกิดจากความตั้งใจทำดี
ก็นับว่าคุณตาได้บุญไปส่วนหนึ่งแล้วครับ
แต่ถามว่าเหมาะสมหรือไม่
ผมว่าไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่
โดยเฉพาะภาพพระสะพายทุเรียน
มันพิลึกพิลั่นมาก
แถมยังมีโอกาสที่หนามทุเรียนจะตำท่านด้วย
สำหรับตัวผลไม้ที่ทีโอกาสจะเจริญเติบโตต่อได้
เช่นผลไม้ที่มีเมล็ด พระท่านเรียกพีชคาม
หากรับประทานแล้วทำให้พืชนั้นเจริญเติบโตไม่ได้
เช่นขบกัดโดนเม็ด พระท่าปรับอาบัติทุกคำกลืน
คนโบราณเวลาถวายผลไม้
จึงต้องคว้านเม็ดทำให้เหลือแต่เนื้อ
เพื่อให้เป็นกัปปิยะภัตตาหาร
หลีกเลี่ยงไม่ให้ท่านต้องอาบัติ
แม้จะเป็นอาบัติระดับเบาก็ตามครับ


หัวข้อ: Re: ท่านคิดว่าตักบาตรแบบนี้ได้บุญหรือบาป
เริ่มหัวข้อโดย: verachon ที่ 01 กรกฎาคม 2012, 06:53:37
ได้บุญหรือไม่อยู่ที่เจตนาครับ


หัวข้อ: Re: ท่านคิดว่าตักบาตรแบบนี้ได้บุญหรือบาป
เริ่มหัวข้อโดย: pongneng ห้ามซื้อขายจนกว่าจะใกล่เกลี่ยกรณีพิพาทจบ ที่ 01 กรกฎาคม 2012, 07:47:50
จะบอกว่าบุญเกิดจากความตั้งใจทำดี
ก็นับว่าคุณตาได้บุญไปส่วนหนึ่งแล้วครับ
แต่ถามว่าเหมาะสมหรือไม่
ผมว่าไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่
โดยเฉพาะภาพพระสะพายทุเรียน
มันพิลึกพิลั่นมาก
แถมยังมีโอกาสที่หนามทุเรียนจะตำท่านด้วย
สำหรับตัวผลไม้ที่ทีโอกาสจะเจริญเติบโตต่อได้
เช่นผลไม้ที่มีเมล็ด พระท่านเรียกพีชคาม
หากรับประทานแล้วทำให้พืชนั้นเจริญเติบโตไม่ได้
เช่นขบกัดโดนเม็ด พระท่าปรับอาบัติทุกคำกลืน
คนโบราณเวลาถวายผลไม้
จึงต้องคว้านเม็ดทำให้เหลือแต่เนื้อ
เพื่อให้เป็นกัปปิยะภัตตาหาร
หลีกเลี่ยงไม่ให้ท่านต้องอาบัติ
แม้จะเป็นอาบัติระดับเบาก็ตามครับ

                           พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ - หน้าที่ 282

                         อธิบายการทำกัปปิยะและวัตถุที่ใช้ทำกัปปิยะ

           ก็การกระทำกัปปิยะในสิกขาบทนี้  บัณฑิตพึงทราบโดยกระแสแห่งสูตร

นี้ว่า ภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตเพื่อบริโภคผลไม้ ด้วยสมณกัปปะ (สมณโวหาร)

๕   คือ   ผลที่จี้ด้วยไฟ   ที่แทงด้วยมีด   ที่จิกด้วยเล็บ  ผลที่ไม่มีเมล็ด ที่ปล้อน

เม็ดออกแล้ว   เป็นที่คำรบ   ๕.๑

            บรรดาบทเหล่านั้น    บทว่า    อคฺคิปริจิตํ   มีอรรถว่า   ฉาบ  คือ

ลวก   เผา   จี้แล้วด้วยไฟ. 

            บทว่า    สตฺถกปริจิตํ    มีอรรถว่า  จด  คือ  ฝาน  ตัด  หรือแทง

แล้วด้วยมีดเล็ก ๆ.   ในข้อว่า   จิกด้วยเล็บ   ก็นัยนั้นนั่นแล.    ผลไม้ที่ไม่มีเมล็ด

และผลไม้ที่ปล้อนเมล็ดออกแล้ว   เป็นกัปปิยะด้วยตัวมันเองแท้.

             ภิกษุเมื่อจะทำกัปปิยะด้วยไฟ    พึงทำกัปปิยะด้วยบรรดาไฟฟืนและไฟ

โคมัยเป็นต้น      อย่างใดอย่างหนึ่ง      โดยที่สุดแม้ด้วยแต่งโลหะที่ร้อน.   ก็แล

วัตถุนั้นจับไว้ข้างหนึ่ง   พึงกล่าวคำว่า   กัปปิยัง    แล้วทำเถิด.

              เมื่อจะทำด้วยมีด.    แสดงรอยตัด   รอยผ่า   ด้วยปลาย   หรือด้วยคม

แห่งมีดที่ทำด้วยโลหะอย่างใดอย่างหนึ่ง      โดยทีสุดแม้แห่งเข็มและมีดตัดเล็บ

เป็นต้น.   พึงกล่าวว่า   กัปปิยัง   แล้วทำเถิด.

              เมื่อจะทำกัปปิยะด้วยเล็บ      อย่าพึงทำด้วยเล็บเน่า.    ก็เล็บของพวก

มนุษย์   สัตว์  ๔  เท้า   มีสีหะ   เสือโคร่ง   เสือเหลือง    และลิงเป็นต้น   และ

แห่งนกทั้งหลาย    เป็นของแหลมคม,    พึงทำด้วยเล็บเหล่านั้น.    กีบแห่งสัตว์

มีม้า   กระบือ   สุกร   เนื้อ   และโคเป็นต้น ไม่คม  อย่าพึงทำด้วยกีบเหล่านั้น.

แม้ทำแล้วก็ไม่เป็นอันทำ.   ส่วนเล็บช้าง ไม่เป็นกีบ.   จะทำกัปปิยะด้วยเล็บช้าง

เหล่านั้น     ควรอยู่     แต่การทำกัปปิยะด้วยเล็บเหล่าใด   สมควร,    พึงแสดง

การตัด การจิก ด้วยเล็บเหล่านั้นที่เกิดอยู่ในที่นั้นก็ดี   ที่ยกขึ้นถือไว้ก็ดี  กล่าวว่า

กัปปิยัง   แล้วกระทำเถิด.

            บรรดาพืชเป็นต้นเหล่านั้น     ถ้าแม้นว่าพืชกองเท่าภูเขาก็ดี     ต้นไม้

จำนวนพันที่เขาตัดแล้ว    ทำให้เนื่องเป็นอันเดียวกันกองไว้ก็ดี    อ้อยมัดใหญ่ที่

เขามัดรวมไว้ก็ดี,   เมื่อทำพืชเมล็ดหนึ่ง     กิ่งไม้กิ่งหนึ่งหรืออ้อยลำหนึ่งให้เป็น

กัปปิยะแล้ว     ย่อมเป็นอันทำให้เป็นกัปปิยะแล้วทั้งหมด.     อ้อยลำและไม้ฟืน

เป็นของอันเขามัดรวมกันไว้.   อนุปสัมบัน   จะแทงไม้ฟืนด้วยตั้งใจว่า    เราจัก

กระทำอ้อยให้เป็นกัปปิยะ   ดังนี้   ก็ควรเหมือนกัน.    แต่ถ้าเป็นของที่เขาผูกมัด

ด้วยเชือกหรือด้วยเถาวัลย์ใด  จะแทงเชือกหรือเถาวัลย์นั้น ไม่ควร. ชนทั้งหลาย

บรรจุกระเช้าให้เต็มด้วยลำอ้อยท่อนแล้วนำมา.    เมื่อทำอ้อยท่อนลำหนึ่งให้เป็น

กัปปิยะแล้ว   อ้อยท่อนทั้งหมด   ย่อมเป็นอันทำให้กัปปิยะแล้วเหมือนกัน.
             ก็ถ้าว่า    พวกทายำนำภัตปนกับพริกสุกเป็นต้นมา    เมื่อภิกษุกล่าวว่า

จงกระทำกัปปิยะ      ถ้าแม้นว่า      อนุปสัมบันแทงที่เมล็ดข้าวสวย     ก็สมควร

เหมือนกัน.     แม้ในเมล็ดงาและข้าวสารเป็นต้น      ก็นัยนั้นนั่นแล.     แต่พริกสุก

เป็นต้นนั้น   ที่เขาใส่ลงในข้าวต้ม   ไม่ตั้งอยู่ติดเนื่องเป็นอันเดียวกัน.    บรรดา

พริกสุกเป็นต้นนั้น  พึงทำกัปปิยะแทงที่ละเมล็ดนั่นเทียว.  เยื่อในแห่งผลมะขวิด

เป็นต้น    ร่อนเปลือกแล้วคลอนอยู่   (หลุดจากกะลาคลอนอยู่ช้างใน)    ภิกษุพึง

ให้ทุบแล้วให้ทำกัปปิยะ.     (ถ้า)     ยังติดเนื่องเป็นอันเดียวกัน     (กับเปลือก),

จะทำ   (กัปปิยะ)   แม้ทั้งเปลือก   (ทั้งกะลา)   ก็สมควร .

ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ�
ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ�


Webmaster Earn Money! By Affiliate Program 100% Pay
www.samuismile.com