HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND

ครูคนหนึ่งตั้งคำถามกับเด็กว่า ‘ถ้ามีเงินอยู่ 10 บาท ซื้อของ 3 บาท จะได้รับเงินทอนเท่าไร’ เด็กส่วนใหญ่ตอบว่า ‘7 บาท’

แต่มีเด็ก 2คนที่ตอบไม่เหมือนกับคนอื่น คนหนึ่งตอบว่า ‘2 บาท’ อีกคนหนึ่งตอบว่า ‘ไม่ต้องทอน’
...
ครู ถามเด็กคนแรกว่าทำไมถึงได้เงินทอน 2 บาท คำตอบที่ได้ก็คือภาพในใจของเขาสำหรับเงิน 10 บาท คือ เหรียญห้า 2 เหรียญ เมื่อซื้อของราคา 3 บาท เขาก็ให้เหรียญห้า 1 เหรียญ ดังนั้น จึงได้เงินทอน 2 บาท

ถามเด็กคนที่สองว่าทำไมไม่เหลือเงินทอนเลย
คำตอบก็คือเด็กคน นี้คิดว่าในกระเป๋ามีเหรียญบาท 10 เหรียญ เมื่อซื้อของราคา 3 บาท เขาก็ส่งเหรียญบาทให้ 3 เหรียญ เพราะฉะนั้น คนขายจึงไม่ต้องทอนเงินให้เขา

โชค ดีที่เป็นการถาม-ตอบในห้องเรียน ลองนึกดูสิครับว่าถ้าโจทย์นี้เป็นข้อสอบที่มีคำตอบเป็น ก-ข-ค-ง เด็ก 2 คนนี้ก็คงไม่ได้คะแนนจากคำตอบที่ผิดเพี้ยนจากคนส่วนใหญ่
การสร้างโจทย์ ที่ ‘เสมือนจริง’ จินตนาการของ ‘ครู’ อาจถูกจำกัดเพียงแค่ ‘ตัวเลข’ แต่สำหรับเด็ก จินตนาการของเขาไร้กรอบ 10 บาท จึงสามารถเปลี่ยนเป็นเหรียญสิบ เหรียญห้า หรือเหรียญบาท

เมืองไทยมีเหรียญ 2 บาท เราจึงได้คำตอบเพิ่มอีก 1 คำตอบ คือ ได้เงินทอน 1 บาท

โลก ในห้องเรียนกับโลกของความเป็นจริงนั้นแตกต่างกัน โลกในห้องเรียน ทุกคำถามส่วนใหญ่มีเพียง 1 คำตอบ แต่โลกของความเป็นจริง ทุกคำถามอาจมีคำตอบที่ถูกต้องได้เกิน 1 คำตอบ

‘อย่ารีบตัดสินความผิดถูกของคนๆ นั้น เพียงแค่ คำตอบ ของเรา’

อย่าหยุดความคิดสร้างสรรค์ของคนๆ นั้น ด้วยกรอบความคิดของเรา

เครดิต forward mail

กระทู้นี้ทำให้ผมคิดได้ว่าตัวเองแก่แล้วและไร้จินตนาการเพราะตอบเจ็ดบาท.

ความรู้ไม่ใช่บทจำกัดความแต่สามารถแตกแขนงได้อีกเยอะถ้าเราใจกว้างพอในการรับฟังคนอื่น

ศรีธนนชัยครับ ;D

พี่นายกก็เคยสอนแบบนี้แหละ แผ่นที่แจกไม่รู้อยู่เปล่าเนี่ย

มีเงิน10 ซื้อของ 3บาท   คงเหลีอ  2ทาท    ....... ;Dท.ห.

งั้นผมก๊ไม่มีสมองคิด เพราะคิดว่าเจ็ดบาทเหมือนกัน  ;D

มีคนถามผมว่า 10+10เป็นเท่าไหร่ คนที่ตอบ20ผิดหมดคำตอบคือ25 ทำไมหรือ ลองถามกะเทยดูสิ

ชอบ 2 ประโยคสุดท้ายจัง ขอบคุณ จขกท. ที่นำสิ่งดีๆมาให้อ่านครับ  ;)

ได้แนวคิดเยอะเลย

เจ็ดบาทก็เป็นอีกคำตอบที่ถูฏแต่ทามมะดา คือมีเหรีญญสิบไง เอ ผมก็สมองกลวงเช่นกัน-

ถ้าเอาตามทฤษฎีนะครับ  ;D ;D

คำว่า "ไม่ต้องทอน" ถือเป็นการเปิดอีกโจทย์ครับ แหะๆ

จ่ายเหรียญ5

 :o ::)

ผมอ่านโจทย์ ก็ตอบ 7 เลยโดยที่ยังไม่ทันคิด คงแก่เกินไปแล้วเรา ;D ;D

ไม่ทอน

ไม่ทอนเหมือนกันครับ


เอาเหรียนบาทชื้อ

ขอบคุณ  คงไม่ว่าถ้าเอาไปเล่นบ้าง  เป็นวิทยากรส่งเสริมการทำงานภาครัฐ นะ

ผมว่า โจทย์ที่ตั้งมาถูกต้องแล้ว สื่อให้เห็นสมการคือ 10-3=7
ส่วนเด็กที่ตอบว่าทอน 2 บาทก็ไม่ได้ผิดมากมาย แต่ครูก็ต้องขยายความให้เด็กเข้าใจว่ามันเป็นการตีความในแง่สมการ

ผมว่าไม่ถูกทั้งหมดนะครับ ถ้าถามว่ามีเหรียญ10 อยู่1เหรียญ ชื้อของราคา3บาท ทอน7บาท << แบบนี้น่าจะถูกต้อง
แต่ในโจทย์เขียนว่า มีเงิน10บาท ไม่ได้ระบุว่า เหรียญ 1,2,5,10 แล้วจะมาบังคับตอบ ว่าจะต้องถอน7 บาท นั้นไม่ถูกต้องครับ

เพราะทุกวันนี้การเรียนการสอน เน้นให้เด็ก ฝึกคิด ฝึกใช้สมอง ไม่เหมือนเมื่อก่อน ท่องจำอย่าเดียว เมื่อก่อนผมก็เคยถาม คุณคูร ว่าทำไม่ตอบแบบนี้ไม่ถูก


ได้รับคำตอบว่า หนังสือเฉลยคำตอบ ให้คำตอบมาอย่างนี้ อย่างอืนไม่ถูก ???

‘ถ้ามีเงินอยู่ 10 บาท ซื้อของ 3 บาท จะได้รับเงินทอนเท่าไร
คำถามกำกวม  เปรียบได้กับผู้ที่ทำการไม่โปร่งใส

ถ้ามีเงินอยู่ 10 บาท ซื้อของ 3 บาท จะเหลือเงินเท่าไร
คำถามที่ถูกต้องชัดเจน เปรียบได้กับผู้ที่ทำการโปร่งใส


การที่จะตัดสินผู้อื่นด้วยการใดก็แล้วแต่ ควรไตร่ตรองข้อเท็จจริงหรือเจตนาต่างๆให้ถูกต้องครบถ้วน ตั้งคำถามให้ได้คำตอบ แล้วค่อยจึงตัดสิน

สิ่งที่ควรกระทำคือ ทำให้ถูกต้องชัดเจน จะได้ไม่ต้องถูกผู้อื่นตัดสิน

คำถามที่ถูกต้องหนึ่งคำถาม   ก็จะมีคำตอบที่ถูกต้องเพียงคำตอบเดียวเสมอ ครับ ไม่ว่าจะสื่อแบบไหน ความหมายก็คืออย่างเดียวกัน  ;D